ตอนที่ 6

1375 Words
อรลออก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางขลาดกลัว มือบางกำชุดอยู่บ้านตัวเดิมที่ถูกสั่งให้ถอดออกแน่น ขณะพาร่างอรชรในชุดใหม่เอี่ยม และที่แน่ๆ ก็คือราคาที่แสนแพงออกมาหยุดตรงหน้าของลิเดีย “เอ่อ...” หญิงสาวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวเมื่อถูกสายตาของลิเดียจ้องมองไม่วางตา แม้จะมองออกว่าสายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความชื่นชมมหาศาลก็ตาม ลิเดียได้สติรีบละสายตาจากร่างสมส่วนของอรลออ พร้อมๆ กับพยายามตัดความอิจฉาในความงดงามของสาวตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “อย่าคิดว่าความสวยของคุณจะสามารถทำให้ใจของคุณผู้ชายอ่อนลงได้ เพราะท่านเกลียดพวกคุณจำเอาไว้...” น้ำตาปริ่มจะไหล ดวงตากลมโตหวานซึ้งฉายความเศร้าหมอง “ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น...” สาวใช้ลิเดียเหยียดยิ้มดูแคลน กับการตีบทแตกของสตรีตรงหน้า ทำเป็นไร้เดียงสา ทั้งๆ ที่ข้างในเน่าหนอนไชไม่มีชิ้นดี ลิเดียนึกไปถึงวันที่หล่อนบังเอิญได้ยินริคคาโดคุยกับนักสืบคนหนึ่งที่ทำหน้าที่สืบหาประวัติของแม่รุจิราคนนี้ และสิ่งที่ได้ยินทำให้แก้วกาแฟในมือแทบจะร่วงหล่นกับพื้นหินอ่อน “ประวัติของคุณรุจิรา วิโชคาศักดิ์ ไม่ค่อยดีนักครับ เธอค่อนข้างจะใช้ผู้ชายเปลือง แต่ผู้ชายที่มีสิทธิ์จะได้ควงและนอนกับเธอนั้นต้องหล่อ รวยครับ และก็ต้องจ่ายหนักด้วย ไม่อย่างนั้นเธอไม่ยอมให้แตะต้อง...” นี่คือคำพูดของนักสืบคนนั้นที่บอกกล่าวให้กับริคคาโดได้รับรู้ และนั่นก็ทำให้หล่อนตั้งแง่รังเกียจผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่เป็นคู่หมายของเจ้านายตลอดมา แม้ว่าตัวจริงเจ้าหล่อนจะดูอ่อนเยาว์และไร้เดียงสานักก็ตามที แต่นั่นใครจะรู้ล่ะว่า ข้างในจริงๆ ของแม่ผู้หญิงคนนี้ จะใสซื่อดังภาพที่แม่คุณบรรจงสร้างขึ้นมา “แล้วจะไม่แต่งหน้าหรือไง...” อรลออส่ายหน้าไปมา ก่อนจะพูดคำพูดที่ทำให้ลิเดียแปลกใจมากขึ้นไปอีกออกมา “ฉัน... เอ่อ... ไม่เคยแต่งหน้า...” “อะไรนะ! ฉันไม่อยากเชื่อ...” “ฉันไม่เคยแต่งหน้าจริงๆ ค่ะ เครื่องสำอางก็ไม่มีมาเลย... เชื่อฉันเถอะ” เมื่อหญิงสาวย้ำหนักแน่น ลิเดียก็ถอนใจออกมา ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้นุ่ม หันมาจ้องอรลออเต็มตา และก็ได้เห็นความเนียนใสอมชมพูของผิวแก้มสาว มันเปล่งปลั่งซับเลือดฝาดน่ามองยิ่ง ขนาดหล่อนเป็นผู้หญิงยังตะลึงเลย แล้วนี่ถ้าคุณผู้ชายได้เห็นว่าที่เจ้าสาวของตัวเองไม่หลงจนหัวปรักหัวปรำเหรอ “ไม่แต่งก็ไม่ต้องแต่ง งั้นตามฉันมาได้แล้ว คุณผู้ชายรออยู่...” จบคำพูดร่างของลิเดียในชุดฟอร์มที่เป็นเสื้อแขนตุ๊กตาสีน้ำตาลอ่อนกับกระโปรงยาวเลยเข่าสีน้ำตาลเข้มกว่าตัวเสื้อเล็กน้อย โดยด้านหน้าสวมทับด้วยเอี๊ยมสีขาวก็เปิดประตูห้องและก้าวออกไป อรลออกล้ำกลืนความเจ็บช้ำลงในอก ก่อนจะก้าวตามลิเดียออกไป ชะตากรรมที่แสนโหดร้ายกำลังรอคอยหล่อนอยู่ และก็ไม่มีทางไหนเลยที่หล่อนจะรอดพ้นมันไปได้ ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ที่พรักพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ความโอ่อ่าหรูหราที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง ตั้งแต่โคมไฟ พื้นห้อง ผนังห้อง และเตียงนอนขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับคนเป็นสิบคนได้สบาย ร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับของหนุ่มลูกครึ่งกรีก-ไทยของริคคาโด เมเนนเดซ เจ้าพ่อแห่งวงการประกอบรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกตะวันตกและตะวันออกกำลังนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่บนเตียงนอน ดวงตาคมกล้าสีดำสนิทที่ถูกห้อมล้อมด้วยแพขนตายาวดกดำฉายความไม่พอใจออกมาชัดเจน กรามแกร่งที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยสีเขียวจางๆ จากหนวดที่พึ่งถูกกำจัดไปเมื่อเช้าบดเข้าหากันแน่น สมองนึกย้อนไปถึงสัญญาอัปยศที่บิดาทิ้งเอาไว้ให้ก่อนสิ้นใจ มันผ่านมาสิบกว่าปีแล้วกับการที่ต้องรับรู้ว่าตัวเองมีคู่หมั้นคู่หมายที่ต้องแต่งงานด้วย ตอนนั้นเขาพึ่งจะอายุได้แค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น เลยไม่ได้สนใจใส่ใจอะไรในคำพูดของบิดามากนัก จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วที่บิดามาด่วนจากไปอย่างกระทันหันด้วยโรคหัวใจล้มเหลว พร้อมๆ กับพินัยกรรมที่ทำไว้แบ่งมรดกทุกอย่างให้กับลูกชายทั้งห้าคน เขาเป็นพี่ชายคนโตของตระกูลเมเนนเดซ ได้ครอบครองกิจการยานยนต์ทั้งหมดของตระกูล ตามด้วยน้องชายคนรอง ดิมิเทรียส เมเนนเดซ ได้ครอบครองธุรกิจโรงแรมทั่วโลกของตระกูล ส่วนน้องชายคนที่สามของเขาก็คือ ลูเซียส เมเนนเดซ รายนั้นได้รับมรดกเป็นธุรกิจสายการบินของตระกูลทั้งหมด และน้องชายคนที่สี่ สเตฟาโน เมเนนเดซ ได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีมากกว่าจำนวนตึกในกรุงเอเธนส์ไปครอง และสุดท้ายคือ แองเจลอส เมเนนเดซ น้องชายคนสุดท้อง รายนี้ได้รับธุรกิจที่เกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าทั้งหมดของตระกูลไปครอบครอง แต่ระหว่างที่พี่น้องทุกคนของเขากำลังมีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ในเกมธุรกิจและสงครามในห้องนอน เขากลับต้องบินมาเมืองไทยเพื่อมารับตัวเจ้าสาวที่ถูกบิดาบังคับให้แต่งงานด้วยอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ในพินัยกรรมระบุไว้อย่างชัดเจน... ‘ริคคาโดลูกชายคนโตของจาลอส และรติยา เมเนนเดซ ต้องแต่งงานกับลูกสาวของนายอยุธ วิโชคาศักดิ์ ก่อนที่ริคคาโดจะอายุครบสามสิบห้าปีบริบูรณ์ ไม่เช่นนั้นธุรกิจยานยนต์ทั้งหมดที่อยู่ในความดูแลของริคคาโดจะต้องตกเป็นของลูกสาวของนายอยุธทั้งหมดทันที เว้นเสียแต่ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายบอกเลิก ทุกอย่างถึงจะถือว่าเป็นโมฆะ’ แม้จะสงสัยยิ่งนักว่า ทำไมบิดาถึงไม่บอกเรื่องที่เขาต้องแต่งงานก่อนอายุครบสามสิบปีบริบูรณ์ให้เขาทราบก่อนล่วงหน้า แต่พอนึกถึงคำพูดของทนายความเก่าแก่ประจำตระกูลที่บอกให้วันเปิดพินัยกรรมแล้ว ริคคาโดก็จำต้องก้มหน้ายอมรับโดยดุษณี “ท่านจาลอสมีกำหนดจะเปิดพินัยกรรมฉบับนี้ตอนคุณริคคาโดอายุครบสามสิบสี่ปีครับ แต่ท่านก็มาเสียไปซะก่อนหลายเดือน...” เสียงถอนใจดังระงมออกมาจากลำคอแกร่ง ก่อนที่ร่างสูงตระหง่านจะลุกขึ้นยืนจากเตียง เดินไปทรุดตัวนั่งลงที่หน้าโต๊ะกระจกบานใหญ่ มือหนาสีแทนเปิดลิ้นชักหยิบอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาวางไว้บนโต๊ะ “อย่าจะรู้นักว่าจะทนได้แค่ไหนกัน แม่ผู้หญิงเห็นแก่เงิน...” กรามแกร่งบดเข้าหากันอีกครั้ง ขณะลงมาแต่งแต้มรอยแผลลงบนใบหน้าที่หล่อเหลาปานเทพบุตรกรีกให้อัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวขึ้นมาได้อย่างอัศจรรย์ รอยยิ้มหยามหยันผุดขึ้นที่มุมปากหยักสวยที่เหล่าสตรียังพากันอิจฉาในความสมบูรณ์แบบของริคคาโด ขณะบรรจงสวมผมปลอมแสนรุงรังลงบนศีรษะแทนทระนงของตัวเอง ก่อนจะหยิบหนวดปลอมขึ้นมาติดเหนือริมฝีปากและบริเวณสันกรามไล่ลงมาถึงปลายคาง “ฉันพร้อมจะทำให้เธอฝันกระเจิงแล้ว รุจิรา...” เสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอดังขึ้น ขณะที่ร่างสูงใหญ่จะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และก้าวยาวๆ ไปหยุดที่ประตูด้านข้างห้องนอนของตัวเอง ที่มันเชื่อมต่อกับห้องอีกห้องหนึ่ง ที่เขาสั่งให้ลิเดียพาแม่ผู้หญิงคนนั้นไปรอ รอยยิ้มกระด้างแสนอำมหิตระบายที่มุมปากทั้งสองข้าง ก่อนที่ประตูไม้จะถูกกระชากออก และร่างของริคคาโดก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในห้องนั้นทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD