ตอนที่ 3 แพะเนื้อหวาน 100%

4607 Words
ตอนที่ 3 แพะเนื้อหวาน 100% ส่วนธัชชานนท์เมื่อดีกรีในกระแสเลือดได้ที่ เขาก็ควงสาวสวย  ข้างกายที่ได้จับจูบลูบล้วงออกไปข้างนอก เพื่อชำระภารกิจให้เสร็จสิ้น    ในเมื่อเธอเสนอมาแล้วมีหรือที่คนอย่างเขาจะไม่สนองตอบ… ภายในโรงแรมห้าดาว...สองร่างเปลือยเปล่ากำลังเล้าโลมกันอยู่บนเตียงกว้าง จากนั้นนายหัวหนุ่มหล่อก็พาเธอออกกำลังกายด้วยจังหวะรุนแรงและเร้าใจ ใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะดับไฟในกายได้ เพราะไฟเหล่านั้นมันสะสมมาตั้งแต่หัววัน กว่าจะมอดดับนั้นเกือบรุ่งสาง และเมื่อปลดปล่อยเรียบร้อยก็ใช่ว่าเขาจะกกเธอต่อ เพียงล้วงธนบัตรใบสีเทาออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้บนหัวเตียง ซึ่งเป็นจำนวนที่หญิงสาวตื่นขึ้นมาเห็นแล้วต้องพึงพอใจ เวลาตีสี่ครึ่งที่โฟร์วิลคันโก้จอดอยู่หน้าเรือนพักหลังใหญ่ ซึ่งทำจากไม้สักทั้งหลัง ธัชชานนท์รีบลงจากรถแล้วเดินขึ้นบ้าน มุ่งไปยังห้องนอนกว้างใหญ่ พักผ่อนเอาแรงเพราะรุ่งเช้าเขาจะรีบเข้าไร่ไปดูงานที่สั่งเชลยสาวทำตั้งแต่บ่ายเมื่อวาน 06.00 น. บ้านพักของธัชชานนท์... “นายครับ นาย นายหัวครับ” ตะโกนเรียกเสียงดัง และเป็นเวลาร่วมห้านาที ถึงได้ยินเสียงเอะอะดังออกมาจากข้างในตัวบ้าน นายหัวหนุ่มยอมขยับเปลือกตาตื่น ฝืนกายลุกจากที่นอน เมื่อได้ยินเสียงลูกน้องคนสนิทตะโกนเรียกไม่ยอมหยุด พร้อมกับคาดโทษในใจด้วยความหงุดหงิด เพราะว่าเขาเพิ่งนอนได้ไม่กี่ชั่วโมง “ถ้าไม่สำคัญนะ พ่อจะเตะให้เดี้ยงเลย ไอ้อาร์ตนะไอ้อาร์ต”    สิ้นคำบ่น ก็นำร่างแข็งแรงผ่านพ้นประตูไม้ออกมาพบลูกน้องคนสนิท และไม่ทันที่ผู้เป็นเจ้านายจะขยับปากเอื้อนเอ่ย องอาจก็รีบร่ายเรียงคำพูด พร้อมในประโยคนั้นยังมีตำหนิติกล่าวไปในตัว “นายหัวครับ นายหัวทำไมไม่รับโทรศัพท์ครับ ผมโทรหานายหัวทั้งคืน โทรเป็นร้อยๆ รอบแต่ก็ไม่ยอมรับสาย แล้วยังปิดเครื่องอีก นายหัวรู้หรือเปล่าว่า” “ถ้ามึงจะมาพูดแค่นี้ก็กลับไปซะ!” คนนอนไม่เต็มอิ่มตะคอกเสียงห้วนแทรกขึ้นอย่างรำคาญ  “ผมกลับไม่ได้ ถ้าเจ้านายยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่นายให้ผมดูแลเมื่อวานกำลังไม่สบาย” ได้ยินเช่นนั้น ธัชชานนท์ถึงกับหายง่วง แต่ก็ยังฟอร์มจัดไม่เลิก! “สำออยมากกว่า” “เธอไม่สบาย เป็นลมตั้งแต่บ่ายเมื่อวาน และตอนนี้ก็นอนป่วยอยู่ที่เรือนพยาบาล ผมว่าเธอไม่น่าจะสำออยนะครับ” “เธอยังหายใจอยู่ไหมล่ะ ตอนนี้” ทั้งๆที่ในใจนั้นเป็นห่วงตั้งแต่ได้ยินว่าเธอไม่สบายแล้ว แต่จะให้เขาแสดงอาการให้ลูกน้องเวรอย่างมันเห็นทำไม ขืนแสดงออกไปมันก็รู้สิ! ว่าเขาเป็นห่วงเธอ “ยังหายใจอยู่ครับ” “งั้นแสดงว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก งั้นมึงกลับไปได้แล้ว กูจะนอน” ลับหลังลูกน้องคนสนิท ธัชชานนท์ถึงกับสบถอย่างหัวเสีย “เวรชิบ!” จากนั้นร่างสูงใหญ่แข็งแรงรีบขึ้นไปบนเรือน หยิบเอากุญแจรถที่วางอยู่โต๊ะข้างเตียงนอนแล้วรีบตรงไปยังโฟร์วิลคันโก้ ก่อนจะควบขับออกไปอย่างรวดเร็ว  จากที่ปากแข็งบอกลูกน้องว่าจะนอนพัก แต่เขาไม่สามารถนอนหลับแน่ๆ หากยังรู้ว่าอีกคนกำลังไม่สบาย เขาต้องรีบไปดูอาการและรับเธอกลับมาดูแล นายหัวหนุ่มในคราบโจรป่า ถือวิสาสะเดินเข้าห้องพยาบาล     โดยไม่ได้รับอนุญาต และนับว่าเป็นโชคดีเพราะช่วงที่ธัชชานนท์เข้ามานั้น หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว เนื่องจากบังอรต้องรีบไปดูเมียคนงานอยู่แคมป์ที่คลอดลูกเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้าบังอรก็ให้คนไม่สบายกินข้าวกินยาแล้วนอนพักผ่อน และเป็นโอกาสของธัชชานนท์ที่ฉวยสิทธิ์เข้ามาอุ้มร่างบางออกไปโดยที่หญิงสาวนั้นไม่รู้สึกตัว เปลือกตาคู่งามแนบติดกันเพราะกำลังโดนฤทธิ์ยาครอบคลุม จึงทำให้หลับสนิทราวกับกินยานอนหลับชั้นดี   เรือนพยาบาล…          หลังกลับมาจากช่วยทำคลอดให้เมียคนงาน บังอรหัวใจหล่นไปกองรวมที่ตาตุ่ม เพราะไม่เห็นร่างบางนอนอยู่บนเตียงเหมือนตอนเดินออกจากห้อง และต้องร้อนถึงอีกคนที่พอจะช่วยเหลือเธอได้ เจ้าหน้าที่สาวยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรหาหัวหน้าคนงานหนุ่ม และเป็นดังที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะองอาจบอกว่าเจ้านายมารับเอาตัวคนางค์นุชไปเรียบร้อยแล้ว          เจ้าหน้าที่สาวจึงได้แต่นั่งถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าเจ้านายกำลังต้องการอะไร เธอได้แต่คิดไปต่างๆ นานา กว่าจะดึงสติกลับมาอีกครั้งก็ตอนที่มีคนงานชาย 3-4 คน แบกหามกันเข้ามา      ในห้อง พร้อมหยดเลือดสีแดงสดไหลมาตามทาง เพราะโดนของมีคมเฉือนนิ้วเอา หญิงสาวจึงได้ลุกขึ้นไปทำหน้าที่ของตน...                     18.00 น. เรือนพักหลังใหญ่… คนางค์นุชรู้สึกตัวขึ้นมาอาการวิงเวียนก็เล่นงาน เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายไม่ลด ไข้ในกายยังคงหลงเหลือ และต้องตกใจเมื่อ      ละเปลือกตาบนและล่างห่างจากกันแล้วทอดมองไปทิศทางใดก็ไม่คุ้น กระท่อมท้ายไร่ก็ไม่ใช่ เรือนพยาบาลก็ไม่เชิง สมองน้อยๆ เฝ้าคอยประเมินและครุ่นคิดไปเรื่อยๆ แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก “ที่นี่ ที่ไหนนะ” พึมพำเสียงแผ่ว หลังจากกวาดสายตามองเป็นรอบที่ 3 หากแต่นึกอะไรไม่ออก มุมห้องที่จัดวางสิ่งของเอาไว้ไม่คุ้นตา ในขณะที่หญิงสาวกำลังพยุงกายลุกขึ้นนั่ง เรียวปากบางต้องเผยอค้าง นัยน์ตาคู่งามเบิกกว้าง เมื่อหูได้ยินเสียงห้วนกระด้างแว่วเข้ามากระทบ   โสตประสาท  “กว่าจะลืมตาขึ้นมาได้นะ ยิ่งกว่าคนเขานอนซ้อมตายเสียอีก” หย่อนสะโพกสอบลงนั่งข้างแล้วขยับเข้าไปใกล้ๆ ทำให้อีกคนขยับห่างแต่ต้องชะงักค้างเอาไว้ เพราะยิ่งเธอขยับ มหาโจรหน้ารกยิ่งเข้ามาใกล้ชิดทั้งยังโน้มกายเข้าหา ใบหน้ารกเถื่อนเคลื่อนลงต่ำ สัมผัสลมหายใจอุ่นร้อนที่พ่นออกมา ทว่าคนใจสู้อย่างคนางค์นุชก็กัดฟันตอบด้วยความโมโห “เรื่องของฉัน”   “ฟื้นขึ้นมาก็ปากเก่งเลยนะ” “ฉันปากเก่งเฉพาะกับแก ไอ้โจรป่าเถื่อน ไอ้สถุล ไอ้…อุ๊บ” เสียงหวานกลืนหายไปกับจุมพิตเร่าร้อนระคนดิบเถื่อน  ชิวหาร้อนชื้นตวัดเลียดไล้ตามโพรงหวานล้ำ ฟันซี่คมขบความอ่อนนุ่มนิ่มเป็นการลงโทษ จนได้กลิ่นคาวเลือด และมันก็สร้างความ    พึงพอใจแก่ชายหนุ่ม เพราะเมื่อเขาบุกรุกเข้ามากๆ เธอก็สิ้นลายพยศ    จะมีแค่สะดุ้งตื่นตกใจเล็กน้อย ซึ่งกิริยาอาการเหล่านี้มันทำให้เขาพอใจสุดๆ แต่ต้องสบถอย่างหัวเสีย เมื่อจู่ๆ หญิงสาวเกิดต่อต้านขึ้นมา ทั้งๆที่ก่อนหน้าแม่คุณยังให้ความร่วมมือ คือเธอไม่ยอมจูบตอบเขาแล้วยังเบี่ยงหน้าหนี “อย่าดื้อ” วาดมือร้อนไล้ไปตามแนวร่างนุ่ม ทำเอาสาวแรกรุ่นดรุณี สั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เพราะเขารุกหนักและรวดเร็วจนเธอตั้งรับไม่ทันและที่สำคัญเขาเพิ่มเติมประสบการณ์ที่เธอไม่รู้จักให้อย่างรวดเร็ว          “ฉัน กะ กลัว” เอ่ยบอกไปอย่างใสซื่อตามที่เธอรู้สึก เพราะจากรสชาติความเจ็บปวดระคนวาบหวามเมื่อครู่มันทำให้หัวใจสั่น ยิ่งนานเข้าก็รู้สึกว่าเขามีอิทธิพลต่อเธอมากขึ้นเรื่อยๆ           “เธอกลัวอะไรฮึ! แม่คนเก่ง” ไม่เครียดกับคำตอบที่จะได้รับ เพราะอย่างไรซะ วันนี้เขาก็ตั้งใจจะเผด็จศึกเธอ จะลองชิมดูสักครั้ง          ว่ารสชาตินั้นเป็นอย่างไร จะหวานหอมชวนติดใจหรือไม่ และมันพอจะชดเชยอารมณ์ที่คั่งค้างจากครั้งก่อนๆ ได้มากแค่ไหน เขาอยาก ‘ลอง’           คนางค์นุชเบือนหน้าหลบปลายจมูกโด่งที่เลื่อนลงมาคลอเคลีย เรียวปากสวยรูปกระจับขยับพ่นเสียงหวานเกรี้ยวกราดใส่ด้วยความตั้งใจ          “กลัวแกนั่นแหละ ไอ้โจร ปะ” เอ่ยไม่ทันจบประโยค นายหัวหนุ่มก็เพิ่มเติมให้อย่างรู้ทัน          “ป่าเถื่อน” หญิงสาวตาโตตกใจเพราะเขาเอ่ยชิดกลีบปากสวย และไม่นึกเลยว่ามันคือการเปิดโอกาสให้โจรหนุ่มฉกฉวยโอกาส และเขาจะรอช้าอยู่ไยใบหน้าคมเคลื่อนไล้ลงต่ำ ทาบทับกลีบปากหยักลึกแนบสัมผัส สอดปลายลิ้นร้อนชื้นกวาดต้อนชิมความหวามหวาน ที่ตักตวงทีไรก็ไม่รู้เบื่อ ยิ่งได้ดูดดื่มนานๆ ยิ่งมีความสุข ขณะอีกคนต่อต้าน แต่มีหรือที่เขาจะสนใจ ยิ่งดื้อเขายิ่งชอบ วางมือร้อนทาบไปกับเรือนกายนุ่มหอมกรุ่น  บีบเน้นเคล้นเนื้อสาวด้วยความมันเขี้ยวและรุนแรง ทุกครั้งที่เขาลงน้ำหนักมือ เธอถึงกับสะดุ้งโหยงตกใจ ซึ่งอากัปกิริยาเหล่านั้นมันก็สร้างความพอใจแก่ชายหนุ่มไม่น้อย  “พะ พอเถอะ” แม้จะได้ยินเสียงผาดแผ่วเอ่ยห้าม แต่มีหรือที่เขาจะรับฟัง ทั้งยังพ่นเสียงเข้มห้วนออกมาอย่างเอาแต่ใจ “ไม่! เพราะว่าวันนี้ฉันจะลงโทษเธอ ลงโทษที่เธอป่วย” เธอป่วย? เธอผิดเหรอ? สมควรได้รับโทษเหรอ? นอกจากจะหน้ารกเถื่อน ใจร้าย   ยังไร้เหตุผลอีก! ทุเรศสิ้นดี! ถึงจะรู้ว่าไม่มีหนทางรอดพ้น แต่คนตัวเล็กก็ยังนึกหาเหตุผลมา สมอ้าง “แต่ฉันไม่พร้อมให้แกลงโทษ ไอ้คุณโจร วันนี้ฉันเหนื่อย ฉันอยากพักผ่อน” อ้อนวอนขอทั้งสีหน้าและน้ำเสียง แต่มันเหมือนเป็นตัวกระตุ้นให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าหญิงสาวนั้นแสร้ง ‘สำออย’   “นั่นมันเรื่องของเธอ แต่ว่าวันนี้ ‘ฉัน’ จะลงโทษ ‘เธอ’ ได้ยินไหม ลงโทษจนกว่าเธอจะ ‘หายป่วย’...” ว่าจบจมูกโด่งฝากฝังลงตามเนินไหล่ลาดเนียน สูดดมความหอมยั่วยวนของสตรีอย่างกระหาย กลิ่นกายเธอมันยิ่งกว่าดอกไม้ทิพย์บนสรวงสวรรค์ ขณะเดียวกันคนางค์นุชก็พ่นคำห้วน ต่อว่าไม่มีหยุด “ไอ้โจรเผด็จการ”   “ไม่เผด็จการอย่างเดียว แต่ชอบ ‘เผด็จศึก’ ด้วย แล้ววันนี้ฉันก็จะเผด็จศึกจนเธอหายป่วย” น้ำเสียงและท่าทางเอาจริงของเขา ทำเอาหญิงสาวที่อยู่ภายใต้อาณัติต้องดิ้นรนขัดขืน พลอยทำให้เจ้าของใบหน้าโหดเถื่อนนึกรำคาญก่อนจะออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด “นิ่ง!” ระหว่างนั้นปลายจมูกโด่งเฉียดใกล้เนินอวบสล้าง ก่อนจะลากขึ้นหาซอกคอผ่อง แล้วกดปลายจมูกแนบสัมผัสอย่างพอใจ ทำให้ คนางค์นุชรีบย่นคอหลบด้วยความจั๊กจี้ แต่หญิงสาวยังพอมีสติเอ่ยปฎิเสธ “ไม่!”   “ลองดีใช่ไหมห๊ะ!” สิ้นเสียงตะคอก มือร้อนไซ้ซอกไปตามเรียวขาเสลา เคล้นคลึงหนักเบาสลับกัน พลันทำให้หญิงสาวสั่นสะท้านทั่วสรรพางค์กาย แต่ไม่วายทำปากเก่งโต้ตอบ “ใช่! แล้วจะทำไม” นายหัวป่าเถื่อนได้แล้วอารมณ์พุ่งขึ้นสูงปรี๊ด! มือร้อนบีบเคล้นเน้นความรุนแรงหน่วงหนัก ปากหยักไซ้ซุกทั่วทุกตารางพื้นที่อวบนุ่ม หญิงสาวเบี่ยงหลบแต่ไร้ผลเมื่อคนตัวใหญ่กดหัวไหล่กลมมนไว้ จากนั้นทาบกายแกร่งทับร่างบางให้หยุดพยศ และแววตาท่าทางที่เขาแสดงออกมานั้น  ชวนเย็นวาบไปทั้งกาย... “หึ! สมใจเธอแน่!” พูดจบมือหนากระชากเสื้อตัวสวยออกทางศีรษะ แล้วโยนทิ้งอย่างไร้ทิศทาง ขณะเดียวกันเสียงหวานของคนเพิ่ง       ตื่นนอนก็กรีดร้องลั่นห้อง “กรี๊ดดด!!”   มหาโจรหน้ารกไม่สนใจเสียงกรีดร้อง แต่เขากลับหยิบยื่นความป่าเถื่อนมอบให้หญิงสาวมากขึ้นๆ ร่างบอบบางดีดดิ้น มือยกขึ้นทุบอกกว้าง เท้าบางถีบเตะโดยไม่สนใจว่าโดนส่วนไหน แต่ก็ไม่สามารถหยุดคนตัวใหญ่ได้ และด้วยความรำคาญระคนอยากลงโทษ มือกำยำรีบฉีกกระชากยกทรงสีครีมให้หลุดออกจากเรือนร่างงาม เผยความอะร้าอร่ามให้เชยชม เม็ดบัวสาวดีดตั้งชัน เห็นแล้วยากเกินจะห้ามใจ ฝังใบหน้าคมลงสัมผัส ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียวนรอบๆ ก่อนจะ  อ้าอมแล้วดูดกลืนกินเสียงดังจ๊วบๆ ขณะที่มืออีกข้างกอบกำรอบฐานแล้วบีบเคล้นด้วยความรุนแรง จนหญิงสาวเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด และยิ่งเธอดื้อเขาก็ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “โอ๊ย อ๊ะ! ซี๊ดส์!” ร้องครางอย่างทรมานเมื่อโดนฟันคมขบเม็ดยอด พร้อมปิดแนบเปลือกตาคู่งามเอาไว้ เมื่อความรู้สึกแปลกประหลาดวิ่งเข้ามาจู่โจมร่างกาย จะเจ็บปวดก็ไม่ใช่ จะสุขสมก็ไม่เชิง และยิ่งความร้อนชื้นปาดไล้ลากเลียทั้งฝั่งซ้ายขวา พร้อมมือร้อนบีบเคล้นคลึง คนางค์นุชถึงกับกลั้นเสียงครางกระเส่าเอาไว้ไม่อยู่ “อ๊าซ์...” มุมปากหยักของโจรหน้ารกกดโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว และในคราเดียวกันก็เอ่ยถามเสียงแหบพร่า “ชอบไหมล่ะ” ความเสียวซ่านทำให้คนางค์นุชเผลอแอ่นอกให้ดูดกลืน เมื่อคนหื่นนั้นขบเม็ดยอดเต่งแรงๆ แต่เธอยังคงเม้มปากเป็นตรง เงียบและนิ่งไม่ยอมเอ่ยถ้อยคำใดๆ ออกมา แต่คราวที่ปากร้อนดูดดึงเม็ดยอดสวย หญิงสาวเผลอเคลิ้มตามทั้งยังกัดริมฝีปากเรียวกระจับ ชายหนุ่มเห็นแล้วคาดโทษในใจ ‘ยั่วแบบนี้ เดี๋ยวจัดให้สักสามยก’ คนางค์นุชบิดกายด้วยทรมาน ศีรษะทุยส่ายสะบัด ผมสลวยสีดำขลับสยายเต็มหมอนใบใหญ่ โจรหนุ่มมองเห็นแล้วยากที่จะดึงสติกลับคืนมา แล้วเรียวขาเสลาราวเล่มเทียนของเธอนั้นก็เผยแยกจากกัน เมื่อสาวเจ้านั้นดิ้นไม่หยุด ธัชชานนท์มองแล้วกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก!              ให้ตายเถอะ!  เจ้าของเสียงครางฮึมฮำในลำคอ เลื่อนละมือร้อนจากเบื้องบน        ลงหาเบื้องล่าง ไล้ลูบเรียวขาเสลา บีบเคล้นจนถึงลำโคนผ่อง ก่อนจะเคลื่อนหาเนินสงวน เฉียดฝ่ามือสัมผัสแผ่วเบา สาวเจ้าถึงกับผละหนีห่าง มือบางปัดมือหนาออกไปให้พ้น แต่ก็ไม่ได้ดังใจเมื่อเจ้ามือใหญ่ไม่สน          ยิ่งเธอดื้อเขายิ่งสัมผัสมากขึ้นๆ และไม่เพียงแค่ลูบไล้เบาๆ แต่บีบเน้นแล้วลากลำนิ้วร้อนแทรกตรงกลางรอยแยกที่มีเพียงอาภรณ์ผืนบางกางกั้น “อ๊ะ! ซี้ดส์! หยุดเถอะนะ” ปากบอกหยุดแต่กายกลับทรยศด้วยการแอ่นเข้าหา ธัชชานนท์เห็นอาการแล้วแสยะยิ้มใส่ ก่อนจะใช้ลำนิ้วร้อนแทรกลงตรงกลางซึ่งมีกลุ่มน้ำหวานเอ่อซึมออกมา และเขาอยากจะกระชากเจ้าแพนตี้ตัวน้อยนี่ออกไปให้พ้นนัก เพราะมันเกะกะสุดๆ โอกาสทำให้ลูกศัตรูย่อยยับอยู่เพียงเอื้อมมือ เขาพร้อมจะทำให้เธอทรมานเหมือนขาดใจและตายทั้งเป็น ทำให้ผู้หญิงใต้ร่างคนนี้ต้องถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงแพศยา ร่าน แรด ท้องไม่มีพ่อ! และรอดูว่าบุพการีเธอจะเป็นอย่างไร จะแบกหน้าไปไหนได้หรือเปล่า “โดนแค่นี้ทำเป็นสาวร่านสวาท ชอบล่ะสิ!” หัวใจดวงน้อย       เจ็บแปลบเมื่อได้ยินวาจาเราะร้ายดูแคลน แต่จะให้เธอลุกขึ้นมาต่อต้านก็ย่อมพ่ายแพ้ ในเมื่อตอนนี้ร่างกายเธออ่อนแอเกินจะสู้รบปบมือกับเขา ‘อสูรใจร้าย’ “ฉะ ฉัน...อ๊าซ์... อื้อ...” คนางค์นุชเผลอครางกระเส่าออกมาด้วยความเสียวซ่าน และร่างกายเธอตอนนี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว ยิ่งเขาสอดแทรกลำนิ้วร้อนผ่านขอบผ้าผืนบางเข้ามา หญิงสาวแทบขาดใจ กายบางสะดุ้งครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ฟันขาวกัดริมฝีปากจนห้อเลือด เบียดกายเข้าหา สะโพกสาวยกขึ้นรับลำนิ้วร้อนด้วยความทรมาน...    “ฉันจะทำให้เธอทรมานมากกว่านี้ ทรมานจนทนไม่ไหว แล้วต้องหน้าด้านไร้ศักดิ์ศรีอ้อนวอนร้องขอฉัน!” สิ้นเสียงห้วน คนางค์นุชเย็นวาบไปทั้งร่างกาย และเพิ่งรู้ตัวว่าแพนตี้ของตนนั้นถูกเขาถอดออกแล้วโยนทิ้งไปยังมุมห้อง  ธัชชานนท์จับท่อนขาเรียวงามตั้งชันเข่า แล้วก้มหน้าซุกไซ้ ตวัดปลายลิ้นร้อนชื้นไล้เลียกลีบดอกไม้สาว ดูดกลืนกินน้ำหวานที่ขับออกมาอย่างพึงพอใจ “อ๊ะ! ฉะ ฉันกลัว” หุบขาเข้าหากันแต่มันก็เหมือนกับว่าเธอหนีบศีรษะเขาเอาไว้ แล้วยิ่งปลายลิ้นร้อนลากตวัดหญิงสาวเผลอหยัดกาย        เข้าใส่ มือร้อนที่ตรึงข้อเท้าเลื่อนมาโอบอุ้มสะโพกสวยขึ้นสูงนิดๆ แล้วใช้ปลายลิ้นสะกิดเกสรสาวเบาๆ สาวเจ้าถึงกับร้องครางอย่างเสียวสุดกู่ “อ๊าซ์... อูยยยซ์...” ปากร้อนลากผ่านทั้งฝั่งซ้ายและขวา ตวัดเลียอย่างช้าๆ เนิบนาบ ซึมซับทุกอณูเนื้อหวาน ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมพ่นคำเราะร้ายต่อว่าให้เจ็บใจ “อย่าทำไร้เดียงสาให้ฉันสมเพชไปมากกว่านี้คนางค์นุช”  “ฉะ ฉัน” หยัดกายหลีกหนี แต่มือกระด้างกดสะโพกมนเอาไว้ ก่อนจะไซ้ซุกกลืนกินดอกไม้สาวจนหนำใจ ปากร้ายก็พ่นถ้อยคำกระแทกใจไม่มีหยุด “ไม่ต้องพูด! ปากเธอครางได้อย่างเดียว ครางออกมาตามที่รู้สึก...อา...หวานเหลือเกิน...” เสียงดูดกลืนดังกระทบโสตประสาท กอรปกับความเสียวซ่าน   ที่ผลักให้เธอเผลอสายตาลงมอง เห็นเขากำลังละเลงกลางกายแล้วอดสูใจ แล้วด่าตนเองว่า ‘ใจง่าย’ ยอมให้ผู้ชายใจร้ายแปลกหน้าล่วงล้ำ ทั้งๆ ที่เคยสัญญากับตนเองแล้วว่าจะไม่ให้ใครกระทำแบบนี้ แต่ก็ทำไม่ได้          หลืบลึกของหัวใจร้องบอกใครอีกคนที่ชีวิตนี้ไม่มีวันลืม ‘พี่ธาม ฟ้าขอโทษ...’ เบือนหน้าหนี พร้อมหยดน้ำอุ่นร้อนที่ไหลออกมา แต่ทว่าไร้เสียงสะอื้น... ส่วนธัชชานนท์ในคราบโจรป่า ที่ขณะนี้กำลังละเลงความหวามหวานจนลืมมองดูว่าหญิงสาวมีอาการอย่างไร เพราะเขามัวแต่ตะกละ ตะกลามกวาดต้อนเอาความสุขสวาทจากเธอ มือกระด้างบีบเคล้นสะโพกสาวราวมันจะแหลกสลาย และเมื่อกลืนกินจนพอใจ จึงได้ผละออกมาจัดการกับตนเอง ซึ่งใช้เวลาไม่กี่นาทีบนกายแกร่งแข็งแรงก็มีเพียงความเปลือยเปล่า และเขาก็ไม่รอช้า ทาบกายลงหาร่างบางที่นอนอยู่ทันที ใบหน้าหล่อแต่เต็มไปด้วยหนวดเคราซุกเข้าหาอกอวบ ปากร้อนชื้นดูดกลืนเม็ดยอดเสียงดังจ๊วบๆ แต่คนางค์นุชไม่สนใจ หญิงสาวเพียงแต่เอียงหน้าไปด้านข้าง ไม่อยากเห็นภาพบ้าๆ เหล่านั้น ขณะเดียวกันหยดน้ำตาอุ่นก็ไหลออกมา ธัชชานนท์เหลือบสายตาเห็นก็ต้องหยุดชะงัก     พักมาจัดการแม่คนขี้สำออยเสียก่อน “ถ้าไม่หยุดร้องไห้ ฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้ หยุด!” เขาสั่งให้หยุด     แต่เธอกลับร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน ทำเอาพร้อมจะทำศึกต้องสบถออกมาอย่างหัวเสีย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนหน้าไม่กี่นาที แม่คุณยังเคลิ้มคล้อยตามแต่ทำไม??? “หยุด! ฉันสั่งให้หยุดร้อง หยุดสิโว้ยยย!” “ฮึกๆ” ธัชชานนท์โมโหสุดๆ เพราะจะตวาดหรือข่มขู่แม่คุณก็ยังไม่ยอมหยุดร้องไห้ และเมื่อความอดทนแตกสลายชายหนุ่มจึงตะคอกเสียงดัง “ถ้ามันหยุดไม่ได้ก็ร้องออกมา ร้องออกมาดังๆ แล้วถ้าหยุดร้องเมื่อไรล่ะก็ ฉันหักคอเธอแน่ และอย่าคิดว่าร้องไห้น้ำตานองหน้าแล้วมันจะหยุดฉันได้ หึ! คิดผิดถนัด!” พูดจบคนตัวใหญ่จัดการร่างบางให้พร้อมรับกับศึกรักที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า มือหนาใหญ่จับข้อเท้าทั้งสองแยกจากกัน จากนั้นแทรกกายลงตรงกลาง จดจ่อความอลังการที่ขยายเหยียดเอาไว้ที่ปากทางสวรรค์ ซึ่งมีน้ำหวานไหลซึมออกมา ก่อนจะใช้ส่วนปลายร้อนผ่าวดุจเหล็กกล้าลากผ่านร่องรอยแยกสองสามครั้ง จากนั้นผลักดันเข้าไป “ฮึก!” มันไม่ง่ายอย่างที่เขาคิดไว้ เมื่อทางผ่านเข้าไปนั้นคับแคบสุดๆ แล้วยิ่งเห็นใบหน้าหวานเบ้บิดพร้อมกับเรียวปากสวยครางสะอื้น ก็ต้องเพลามือลง “จะ เจ็บ ฮึก! อื้อ!” บดขยี้เรียวปากสวยด้วยความเร่าร้อน          กวาดต้อนชิมทุกซอกมุมหวานจนสาวเจ้าเริ่มเพลิดเพลิน พร้อมกับ       เบื้องล่างที่ค่อยๆ เคลื่อนขยับเข้าไปข้างในโพรงแคบ “อ๊ะ! โอ๊ยยย!” “ถ้าไม่อยากเจ็บไปกว่านี้ก็อย่าดื้อ” ระหว่างทำเสียงเข้มข่มขู่ สะโพกสอบเคลื่อนขยับเข้าไปข้างในลึกๆ มือร้อนสากระคายก็บีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มทั้งสองสลับกลับกลีบปากร้อนที่ลากไล้ตวัดด้านซ้ายและขวา คนางค์นุชเริ่มเผลอไผลไปตามเพลิงสวาทที่มหาโจรหยิบยื่นให้  ในขณะเดียวกันมือเรียวเล็กกำขยุ้มผ้าปูที่นอนไว้สะโพกผายส่ายสะบัดด้วยความเจ็บปวดทรมานระคนเสียวซ่านเกินจะบรรยาย เมื่อความใหญ่อลังการที่ฝังตัวไว้นั้นไม่ยอมเคลื่อนขยับ “ทรมานสินะ” หญิงสาวไม่ตอบเพียงแต่มองหน้าแล้วพยักศีรษะเบาๆ ธัชชานนท์มองเห็นแล้วยิ้มพอใจ ไซ้จมูกโด่งผ่านปลายคางสวยขึ้นมาหาใบหูผ่องแล้วกระซาบสั่งเสียงแหบพร่า “ร้องขอฉัน แล้วฉันจะเมตตา” คนพูดก็ทรมานไม่ต่างกันเพราะปล่องร้อนสวรรค์นั้นบีบรัดแน่นจนเขาหายใจไม่ออก   “อา... ร้องขอฉันสิคนางค์นุช” หญิงสาวค้อนสายตาใส่เมื่อมือใหญ่บีบสะโพกอวบอัดแรงๆ แล้วจึงเผยอเรียวปากกระจับเอื้อนเอ่ยเสียงผาดแผ่ว “ช่วยฉันด้วย ฉันทรมาน” “ช่วยยังไงล่ะ” กดตัวตนเข้าไปข้างในโพรงร้อนเป็นจังหวะๆ คนางค์นุชเผลอยกสะโพกขึ้นรองรับ “อ๊ะๆ ซี๊ดส์” “ช่วยอย่างไรก็ได้ให้ฉันหายทรมาน... อ๊าซ์...” ใบหน้านวลงามของคนโดนไฟพิศวาสแผดเผาแดงระเรื่อราวมะเขือเทศสุกงอม โจรหนุ่มได้ยินแล้วกดมุมปากแสยะยิ้ม ก่อนจะขยับริมฝีปากหยักเอื้อยเอ่ย “เห็นไหมล่ะว่าท้ายที่สุดเธอต้องพ่ายยอมให้ฉัน แม่คนอวดเก่ง!” พูดจบสะโพกสอบเคลื่อนขยับ บดโขยกโยกสลับเข้าออก พร้อมกับ         กลีบปากร้อนอ้าดูดกลืนเม็ดบัวหวานทั้งด้านซ้ายด้านขวา หญิงสาว       ส่งมือเรียวบางขึ้นมาเกาะไหล่กว้าง กดเล็บขยุมลดคลายความเสียวซ่าน “อ๊ะ! เบาๆ นะ ฉันกลัว” เจ้าของสะโพกสอบแกร่งเพลาความรุนแรงลงตามที่หญิงสาวร้องขอ เพราะ ‘ครั้งแรก’ คงเจ็บไม่น้อย          แล้วตัวตนของเขานั้นก็ ‘ใหญ่’ ล้ำอลังการ ขนาดสาวมีประสบการณ์        บางคนถูกเจ้าอาวุธร้ายฝังเข้าไปยังต้องหน้าเหยเกด้วยความเจ็บจุก! “ทำตามที่ฉันบอกแล้วมันจะมีความสุข” บอกเสร็จสรรพสะโพกสอบขยับออกจนเกือบสุดความยาว แล้วผลักเข้าไปใหม่ ทำให้หญิงสาวเสียวสะท้านทรมานสุดใจ  “อูยยยซ์...” เรียวปากสวยห่อร้องครางโดนบดขยี้อย่างรุนแรง และแม้การ        ตอบโต้จะเงอะงะ ทว่าโดนใจโจรหนุ่มสุดๆ “ตวัดขาเกี่ยวเอวฉันไว้” มือร้อนจับท่อนขาทั้งสองข้างขึ้นมา        โอบเกี่ยวเอวสอบ แล้วทำการเคลื่อนขยับเข้าออกอย่างทรมาน ขณะ       ปากหยักพึมพำไม่ขาดระยะ “อา...ทั้งร้อนทั้งแน่น...” “กอดคอฉัน... ฟ้า...” เอ่ยชื่อเล่นของหญิงสาวออกมาอย่างลืมตัว แต่คนตัวเล็กที่กำลังเคลิ้มในเพลงสวาทไม่ทันฉุกคิด หญิงสาวเพียรแต่     จิกเล็บลงเนื้อหนันระบายความเสียวซ่าน ใบหน้านวลงามแหงนเริด           เรียวปากสวยกะจับพ่นเสียงครางกระเส่าออกมา “อ๊าซ์... อ๊าซ์...” ธัชชานนท์ในคราบโจรป่าได้ยินหญิงสาวร้องครางยิ่งคึกคะนอง สาดซัดความร้อนเร่าเข้าใส่ไม่มียั้ง หน้าท้องแกร่งเป็นคลื่นลอนทาบทับหน้าท้องแบนราบเรียบเนียนครั้งแล้วครั้งเล่า ชายหนุ่มใช้ความช่ำชองหลอกล่อให้หญิงสาวเคลิ้มตามบีบขยำสะโพกนุ่มเนียนราวจะให้มันแตกสลายคามือ และพอรู้ว่าหญิงสาวจะไปแตะสวรรค์ เขาจึงชะลอความเร็วลง แล้วเอ่ยถาม “หายเจ็บหรือยัง” ชักสีหน้าใส่เจ้าของคำถามอย่างไม่ใคร่พอใจ ‘โจรบ้า’ “ทรมานมากกว่า” ตอบไม่ตรงคำถาม ทั้งยังขยับสะโพกระบายความซ่านเสียว โจรหนุ่มถึงกับยิ้มพอใจ ก่อนจะพาเธอไปหาความสุข          ที่รออยู่ “โอ้ววว... แน่นเป็นบ้า...” ขยับเข้าออกไม่มีหยุดนิ่งยิ่งนานเข้า เขายิ่งโหมกระหน่ำถี่ขึ้นเรื่อยๆ  คนางค์นุชจิกข่วนไหล่กว้างจนเป็นรอยแดงยาวเลือดซึมออกมา แต่โจรป่าไม่รู้สึกเจ็บ เพราะกำลังโดนไฟสวาทแผดเผา สองหนุ่มสาวสาดกระหน่ำความเสน่หามหัศจรรย์เข้าหากันยิ่งกว่าพายุถล่ม ใบหน้างามยื่นหาซอกคอแกร่ง ตวัดเรียวลิ้นซุกซนเลียดเลีย พรมจูบสะเปะสะปะ แม้ว่าจะไม่เป็นงานแต่มันก็กระตุ้นโจรหนุ่มให้ฮึกเหิมสุดๆ  “อ๊าซ์...” คนางค์นุชร้องครางกระเส่า เมื่อเขากระเสือกกายเข้าใส่แบบเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวจนเธอแทบขาดใจ กายบางสั่นสะท้านและยิ่งใกล้ถึงสวรรค์โพรงร้อนโอบรัดรึงกายชายแน่นขึ้นเรื่อยๆ   “อา... ใกล้แล้วคนางค์นุช ใกล้แล้ว…”  กระแทกกายตัวตนอลังการโหมเข้าใส่สุดกำลัง ทั้งยังโยกขยับถี่ยิบจนถึงใจ และไม่ผิดหวังจริงๆ ที่จับเธอมาลงทัณฑ์ เพราะเธอนั้นร้อนแรงเกินบรรยาย “อ๊า...อ๊ายยยซ์...” หญิงสาวหวีดร้องเสียงดังเมื่อพุ่งทะยานสู่ความสุขสูงสุด หมู่ดาวนับร้อยพันพร่างพราวสวยงาม ขณะเดียวกัน           โจรหนุ่มกระแทกกระทั้นกายใหญ่เข้าออก ปากหยักร้อนเร้าใจร้องครวญครางด้วยความทรมานซ่านเสียว “อ่า...” และในจังหวะสุดท้ายสะโพกสอบเกร็งกระตุก พร้อมฉีดพ่นธาราขาวขุ่นเข้าไปข้างในโพรงดอกไม้สาวจนหมดสิ้น ครั้นปลดปล่อยออกไปอย่างมหาศาล ใบหน้าคมคร้ามซุกลงกลางร่องอกอวบ ปาดปลายลิ้นร้อนทั้งด้านซ้ายและขวา อ้างับเม็ดยอดหวานอย่างพอใจ ในระหว่างเดียวกันคนางค์นุชอ่อนเพลียจนไม่มีแรงต่อต้านหรือผลักไส จึงปล่อยให้เขาเคล้าเคลียกายตามอำเภอใจ และไม่นานสะโพกเริ่มเคลื่อนขยับอีกครั้ง เพราะตัวตนอลังการ  ที่ฝังอยู่ในดอกไม้งามนั้นพร้อมใช้งานเต็มที่และไม่มีท่าทีจะสงบลงง่ายๆ  “อ๊ะ อูยยส์... ซี๊ดส์...” พ่อคนเซ็กส์จัดได้ยินเสียงหวานครวญครางก็ไม่รอช้า รีบนำพาความเสียวสะท้านมอบให้ทันที ในขณะที่คนางค์นุชนั้นเหน็ดเหนื่อยจนไม่สามารถเปิดเปลือกตาขึ้นมาสู้ศึกสวาทกับเขาได้เธอจึงผล็อยหลับไป       แต่คนตัวใหญ่สุดหื่นยังคงบรรเลงเพลงสวาทต่อ กว่าจะได้หลับนอนก็ ค่อนคืน และมันก็เป็นเซ็กส์ที่ยาวนานและทรมานสุดๆ สำหรับคนที่เคยโดนเป็น ‘ครั้งแรก’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD