ตอนที่ 2 แตกสลาย

1246 Words
ทินภัทรขบกราม พอรู้ว่าน้องกับลูกชายศัตรูมีใจต่อกัน เมื่อก่อนนั้นอาจได้ แต่ตอนนี้ไม่มีทาง พวกมันไม่ใช่เพื่อนบ้านเหมือนเก่าก่อน แต่คือศัตรูที่ต้องล้างผลาญให้ตายกันไปข้างหนึ่ง “เข้าบ้าน พี่มีเรื่องคุยด้วย” เธอก้าวตามพี่ชายเข้ามาข้างใน มารศรีมองบุตรชายสีหน้าหม่นหมอง เสร็จจากงานศพสามี หัวใจเธอเหมือนแหลกสลาย สงสารลูกชายที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ แทบทุกวัน คนเป็นน้องหย่อนกายลงบนโซฟา เพื่อรอฟังว่าพี่ชายจะคุยอะไร ทินภัทรวางแบบบ้านไว้ตรงหน้า แล้วยิ้มเศร้า “เราไปอยู่บ้านใหม่ด้วยกันนะครับแม่” เขาบอกน้ำตาเริ่มคลอ มองผู้ให้กำเนิด เห็นสีหน้าแววตาแม่แล้วเจ็บปวดทรมาน “พี่จะไปจากที่นี่เหรอคะพี่ทิน!” สีหน้าเริ่มซีดเผือด ทำไมต้องย้ายไปไม่เข้าใจ “ใช่!” “ทำไมคะ ทำไมเราต้องย้ายไป บ้านนี้เป็นบ้านของพ่อนะคะ!” “ก็เพราะมันเป็นบ้านของพ่อไงพี่ถึงต้องขายแล้วย้ายไป พี่ไม่อยากทนเห็นเพื่อนบ้านเลวๆ พวกนั้น!” ชายหนุ่มขึ้นเสียง คนเป็นแม่น้ำตาเอ่อ “แต่พรไม่อยากไป ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับฤทธิ์แล้วก็พี่เนตรเลย” “ไม่เกี่ยวได้ยังไง สองคนนั้นมันลูกฆาตกรที่ฆ่าพ่อเรานะพร!” มารศรีริมฝีปากสั่น น้ำตาไหลรินออกมา “พอเถอะลูก ถ้าพี่เขาอยากย้ายเราก็ย้ายไป แม่เองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่เหมือนกัน แม่ไม่อยากคิดถึงพ่อไปมากกว่านี้” สำหรับเธอ ทั้งชีวิตสามีเป็นคนช่วยเหลือ ชุบเลี้ยง ตอนนี้ขาดที่พึ่งทั้งทางกายทางใจ มันทรมานมากเหลือเกิน ทักษภรน้ำท่วมปาก น้ำตาไหลริน ริมฝีปากเม้มแน่น ร้อยราวนี้มันจะผสานไม่ได้เลยหรือ เธอรักเขา รักมากเหลือเกิน “พี่เข้าใจพร แต่เลิกคิดซะ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะพี่จะไม่ยอมให้มีวันนั้นแน่!” แววตาแน่วแน่มองน้องสาว ทักษภรรู้ดีว่าตนไม่มีทางเลือกไหนเลย หกโมงเช้า นวฤทธิ์ยืนมองข้างบ้านขนย้ายข้าวของ มองเห็นคนรักก้าวออกมาทอดสายตามาทางเขา นวฤทธิ์แทบทนไม่ไหว จนคิดปีนรั้วข้ามไป ทว่ามือบางกลับมาจับท่อนขาไว้อย่างรวดเร็ว คนถูกจับหันมาน้ำตาคลอหน่วย เนตรอัปสรส่ายหน้า “อย่าทำแบบนี้ฤทธิ์ พี่ทินไม่เหมือนเดิมกับเราอีกแล้ว ถ้าฤทธิ์ปีนข้ามไป เขาต้องแจ้งตำรวจจับเราแน่” “แต่พี่เนตร พรกำลังจะไปแล้วนะครับ” เสียงทุ้มเริ่มสั่นเครือ “ฤทธิ์ยังหาทางติดต่อกับพรได้ไม่ใช่เหรอ ต่อให้ห่างกัน ว่างๆ ก็นัดเจอกันก็ได้” ชายหนุ่มฟังคำพี่กัดฟันแน่นแล้วกระโดดลงมา ร่างผอมบางก้าวเข้ามาร่วมวง ยืนมองเพื่อนบ้านแสนดีกำลังขนของเพื่อจากไป นาลินน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม เนตรอัปสรหันมาสบตามารดาแล้วโอบกอดไว้เพื่อปลอบ รถสิบล้อเคลื่อนหายไปสองคัน คงเหลือแค่คันสุดท้าย และคาดเดาได้ว่า อีกไม่นานเจ้าของบ้านคงติดตามไปด้วย คงไม่ย้อนกลับมาอีกแล้ว ทินภัทรหันมองดวงตาคมวาววับ เห็นเพื่อนบ้านยืนมองแววตาเศร้าหมอง เขาไม่มีวันให้อภัยคนพวกนี้แน่ รถยนต์ส่วนตัวถูกเคลื่อนออกมา ทินภัทรทำหน้าที่สารถี มองน้องกับแม่เปิดประตูนั่งลงตรงเบาะหน้าและหลัง รถเคลื่อนออกจากตัวบ้าน นวฤทธิ์หลับตาเพื่อตั้งสติ นาลินน้ำตานองหน้าเสียดายวันเวลาเคยรู้จักสนิทชิดเชื้อกัน เหตุการณ์เลวร้ายเพียงครั้งเดียว ทำให้ทุกอย่างพังทลายลง เธอไม่เข้าใจสามีจนถึงตอนนี้ เขาทำแบบนั้นทำไม ทั้งๆ ที่รักทยุดมากถึงขั้นเอ่ยปากตายแทนกันได้ แล้วเหตุใดถึงลั่นไกนัดนั้นทำให้เพื่อนสนิทต้องตาย เธอเฝ้าถามเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่กลับมีเพียงความเงียบงัน ไร้ซึ่งคำพูดใดออกมา “ไม่เป็นไรนะคะแม่ เวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง” เนตรอัปสรปลอบมารดา แม้ในใจเธอนั้นเจ็บปวดมากเพียงใด เมื่อคนที่รักกลับกลายเป็นศัตรู รถจอดเทียบหน้าบ้าน มารศรีก้าวลงมามีบุตรสาวคอยพยุง สองสายตามองไปยังหญิงสาวหน้าตาสะสวย ยืนรออยู่หน้าประตูเข้าตัวบ้าน เมื่อสองแม่ลูกเดินไป แขกแปลกหน้ายกมือไหว้ “สวัสดีค่ะคุณน้า” มารศรีรับไหว้ แล้วหันมามองบุตรชาย “นี่ดาวครับ เพื่อนผมเอง” “เชิญเข้าในบ้านก่อนดีกว่าค่ะ” ดาวรีย์บอกแล้วเดินนำเข้าด้านใน มาถึงห้องรับแขก สองร่างนั่งข้างกัน ดาวรีย์มองชายหนุ่มแล้วยิ้มให้ มารศรีรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ แล้วหญิงสาวชื่อดาวคือใคร “นี่เป็นบ้านของดาวนะคะ พอดีว่าดาวย้ายไปอยู่ที่ใหม่กับคุณพ่อ เลยคิดว่าจะปล่อยเช่าค่ะ” หญิงสาวเริ่มอธิบาย “แต่ดาวได้รู้จักกับทินก่อน ทินเปรยว่าอยากได้ที่อยู่ใหม่ ดาวเลยตัดสินใจยกที่นี่ให้ค่ะ” “ยกให้เหรอคะ?” ทักษภรร้องถาม “ยกให้สิคะ แต่มีข้อแม้คือทินต้องยอมให้ดาวทำงานกับเขาค่ะ” เธอพูดแล้วหันไปอมยิ้มให้ชายหนุ่มอีกครั้ง มารศรีหันมามองบุตรชายด้วยความไม่เข้าใจ “ผมกับดาวเป็นหุ้นส่วนกันครับ พ่อคุณดาวลงทุนตั้งบริษัทให้ผมบริหาร” “พ่อดาวชอบทินน่ะค่ะ พ่อมองออกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ อีกหน่อยบริษัทที่บริหารคงเจริญมาก” ทักษภรกัดฟันด้วยความขุ่นใจ เพราะเมื่อก่อนเคยคิดว่าพี่กำลังตกหลุมรักพี่เนตร แต่ไม่นานกลับกลายเป็นอื่นได้โดยง่าย พี่ชายเธอไม่ได้จริงใจกับพี่เนตรเลยสักนิด ดาวรีย์รู้สึกได้ว่าน้องสาวของหนุ่มอันตนหมายปองไม่พอใจ เลยยิ้มกว้าง “น้องพรใช่ไหมคะ คุณทินเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ” “ใช่ค่ะ” ทักษภรตอบเสียงแข็ง “ห้องของพรพี่จัดให้ชั้นบนนะคะ พี่คิดว่าพรน่าจะชอบ” ทักษภรเม้มริมฝีปาก “ไม่มีที่ไหนที่พรพอใจเท่ากับบ้านที่พรจากมาหรอกค่ะ!” ปลายเสียงติดไม่พอใจ เหลือบมองพี่ชายเห็นสีหน้าแววตาเรียบนิ่ง “ขึ้นไปดูก่อนดีกว่านะคะ บางทีอาจถูกใจก็ได้” “พรคงไม่มีทางเลือกหรอกค่ะ ต่อให้ไม่ถูกใจก็เถอะ!” ทินภัทรขบกราม “พอได้หรือยังพร พาแม่ขึ้นไปข้างบนเลย!” คนเป็นพี่เริ่มส่งเสียงไม่พอใจ คนถูกดุหน้างอ รั้งท่อนแขนมารดาให้ลุกยืน มารศรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเดินออกมาจากวงสนา “ชะเอม พาคุณขึ้นไปห้องชั้นบนหน่อย” ดาวรีย์สั่งเด็กในบ้านทันที ระหว่างเดินคนเป็นน้องมองพี่กำลังพูดคุยกับผู้หญิงคนใหม่ ไปรู้จักกันตอนไหน ดูสนิทสนมอย่างกับคบกันมาเป็นปี เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่จะกลายเป็นคนแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD