“เกิดอะไรขึ้น คุณจะขอให้ผมช่วย แต่คุณยังไม่เล่าที่มาที่ไปเลย แล้วผมจะช่วยคุณได้ยังไง”
“เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ คืออีตาลุงคนนี้ชอบถามฉันว่า เลิกกับแฟนแล้วเหรอ ไม่เห็นแฟนมาหาเลย”
“แล้วคุณตอบว่าไง” เขาเลิกคิ้วถามรู้สึกไม่ชอบผู้ชายคนนี้ขึ้นมาตงิด ๆ
“ฉันตอบว่า ยังไม่เลิก แต่เขาไม่เชื่อ เขาว่าคนเป็นแฟนกันไม่เห็นไปมาหาสู่กันเลย”
“เขาคงชอบคุณมากแน่ ๆ สังเกตขนาดนี้”
“ถ้าแค่สังเกตมันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เขาชอบมาวอแว ชอบมาเดินป้วนเปี้ยนหน้าห้อง ฉันกลัว”
“จริงดิ ทำไมคุณไม่ไปแจ้งความล่ะ แบบนี้เข้าข่ายโรคจิตแล้วคุณ”
“แจ้งความไปตำรวจก็ไม่ทำอะไรให้หรอก เรื่องมันยังไม่มีอะไร เขาได้หาว่าฉันคิดไปเอง”
“งั้นคุณก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นสิ เงินเดือนก็เยอะแล้ว หาหอใหม่ไม่น่าจะมีปัญหา”
“ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ แต่หอแถวบริษัทราคาโคตรแพง ไปอยู่ไม่ไหว”
“แถวรามฯ ไม่มีเลยเหรอ หรือคุณยังไม่ได้ไปหา”
“ไปดูมาแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีที่ถูกใจ ราคาบางที่ก็แพงไปไม่สมกับคุณภาพ บางที่ไม่แพงแต่คนจอแจเกินไป ฉันรำคาญ”
“แล้วคุณจะเอายังไง คุณจะให้ผมช่วยหาให้ไหมล่ะ”
“ไม่รบกวนบอสค่ะ แต่คืนนี้ฉันอยากให้บอสเดินเข้าไปส่งหน่อย นะคะบอส ช่วยฉันหน่อยนะคะ”
“ผมจำเป็นต้องช่วยคุณเหรอ ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ แค่เจ้านายกับลูกน้อง” เขาเอ่ยไปอย่างเล่นตัว
“ช่วยหน่อยนะคะบอส ฉันไหว้ละค่ะ เห็นแก่ที่เราทำงานด้วยกันมานานหลายปี พักหลังมานี้เขาชอบมาเดินอยู่หน้าห้อง ฉันนอนหลับไม่สนิทเลย ฉันกลัวไปหมด กลัวเป็นเหมือนในข่าว ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ได้สวย แต่บอสเข้าใจไหมเวลาคนมันหน้ามืด ไม่สวยมันก็เอา ฉันรับไม่ได้ถ้าเกิดอะไรขึ้นแบบนั้น ฉันยอมตายดีกว่า”
“โอเค ๆ ผมช่วยก็ได้ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ขี้เหร่อยู่แล้วยิ่งขี้เหร่เข้าไปอีก”
“อย่าให้มีเงินนะ ฉันจะสวยให้บอสตะลึงเลย”
“ผมจะคอยดู อย่างคุณจะสวยได้สักเท่าไหร่เชียว”
หญิงสาวค้อนควักแต่ไม่อยากต่อปากต่อคำ เพราะสนใจเรื่องที่ต้องเผชิญมากกว่า อาเรสเห็นใบหน้าเครียด ๆ ของเลขาก็อดเห็นใจไม่ได้ หากไม่ช่วยเธอแล้วเกิดเรื่องระยำพรรค์นั้นขึ้นมา เขาต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิตแน่
สองหนุ่มสาวติดอยู่บนถนนนานถึงสามชั่วโมง กว่าจะมาถึงหอพักของขนมหวาน หญิงสาวมองหน้ามองหลังด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะรีบไขกุญแจแล้วเปิดเข้าไปในห้องโดยมีอาเรสยืนอยู่ด้านหลัง
ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ หลังจากเห็นใครบางคนนั่งอยู่ในห้องของตนเอง สมนึกยิ้มหวานเมื่อสาวที่แอบชอบมานานนับปีกลับหอเสียที เขาแอบปีนเข้ามาทางระเบียงหลังห้อง งัดประตูเข้ามานอนรอขนมหวานอยู่ตั้งนาน
“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะน้องขนมหวานของพี่นึก” ชายแก่คราวพ่อแทนตัวเองว่าพี่ แต่ขนมหวานเรียกเขาว่า ลุง
“ลุงเข้ามาได้ยังไง” เธอตกใจจึงเดินถอยหลังเล็กน้อย ตอนนี้ขาทั้งสองข้างแทบไม่มีแรงยืน
“เกิดอะไรขึ้นขนมหวาน” อาเรสโผล่หน้าเข้ามาดูเห็นสมนึกอยู่ในห้องของขนมหวานด้วยสภาพคล้ายคนมึนเมา ตาแดง ๆ พูดไม่รู้เรื่องขนมหวานจึงบอกให้เจ้านายแจ้งความด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ
“แจ้งความค่ะ ต้องแจ้งความ”
“อย่าแจ้งความนะโว้ย ถ้าแจ้งความกูแทงทั้งคู่”
สมนึกดึงมีดที่เหน็บเอาไว้ตรงเอวออกมาขู่ หากแจ้งความเขาจะวิ่งเข้าไปแทงทั้งสองคนทันที
“ใจเย็น ๆ นะลุง ค่อย ๆ พูดกัน”
“เรียกกูว่าพี่แล้วเดินเข้ามาในห้อง”
คนร้ายออกคำสั่ง อาเรสจึงเดินเข้าไปในห้องอย่างช้า ๆ โดยมีขนมหวานยืนหลบอยู่ด้านหลัง
ชายหนุ่มอาศัยจังหวะทีเผลอ จัดการสมนึกซึ่งอยู่ในอาการเมายาทั้งเตะทั้งต่อยจนสลบไป ขนมหวานจึงรีบโทร. แจ้งตำรวจให้มาจับตัวคนร้าย ไม่นานตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ
ในห้องขังของสถานีตำรวจเกิดความวุ่นวายขึ้นมาทันทีหลังจากสมนึกรู้สึกตัวตื่น แล้วเห็นว่าตัวเองถูกจับเข้าตาราง ก่อนจะแหกปากบอกว่า ที่ทำไปทั้งหมดเป็นเพราะโดนขนมหวานยั่วยวนจึงตกหลุมรักถึงขั้นอยากครอบครอง
หญิงสาวงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าตัวเองไปทำแบบนั้นตอนไหน จึงชี้หน้าด่าสมนึกหายใจหายคอแทบไม่ทัน อาเรสก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟบอกตำรวจจะเอาเรื่องสมนึกให้ถึงที่สุด กว่าทั้งคู่จะจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงตีสองของวันใหม่
“ขอบคุณมากนะคะบอส ถ้าไม่มีบอสฉันต้องแย่แน่”
เธอขอบคุณเขาหลังจากเดินขึ้นมานั่งบนรถ หากไม่มีอาเรสไม่รู้ป่านนี้ตัวเองจะเป็นอย่างไรบ้าง
“ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก” เขาปลอบโยนเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่นพร้อมกับลูบหัวของเธอไปด้วย
“ค่ะ ฉันจะพยายาม”
ขนมหวานพยักหน้าเหนื่อย ๆ รู้สึกอยากจะหลับเต็มทนหลังจากโดนความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
“แล้วคุณจะเอาไงต่อ จะกลับไปอยู่ที่นั่นเหรอ”
เขาถามพลางขมวดคิ้วมุ่น คิดว่าเธอไม่ควรกลับไปอยู่หอสับปะรังเคแบบนั้นอีก หอบ้าหอบออะไรก็ไม่รู้ความปลอดภัยแทบจะไม่มี
หญิงสาวส่ายหน้าก่อนให้คำตอบ ตอนนี้เธอมืดแปดด้านจริง ๆ ถ้าไม่กลับหอแล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหนเพื่อนฝูงก็ไม่มี ยกเว้น ครอบครัวของ
อลิซ แต่จะให้ไปรบกวนพวกเขาตอนตีสองมันใช่เวลาหรือ
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออก”
“งั้นก็ย้ายไปอยู่กับผมก่อนแล้วกัน”
“ฮะ! ย้ายไปอยู่กับบอส”
“ใช่ ไปคืนนี้เลย”
อาเรสขับรถพาขนมหวานไปยังคอนโดของตัวเอง ที่ตั้งอยู่ใกล้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นคอนโดที่มีมูลค่ากว่าหลายร้อยล้านบาท มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง เพราะในแต่ละชั้นมีเพียงสองห้องเท่านั้นและแต่ละห้องจะมีลิฟต์เป็นของตัวเอง
ขนมหวานหลับมาตลอดทาง รู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่รถจอดสนิท หลังจากลงจากรถเธอก็รีบก้าวเท้าตามเจ้านายเข้าลิฟต์ซึ่งต้องกดรหัสในการใช้ลิฟต์
“ต้องใช้รหัสด้วยเหรอคะบอส ฉันเคยเห็นแต่ในซีรีส์ คอนโดหรู ๆ แบบนี้นึกว่ามีแต่ในต่างประเทศ”
“ประเทศไทยก็มี แต่มีไม่กี่ที่เท่านั้น ที่นี่ก็เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่กี่ปีเอง ผมก็เพิ่งย้ายเข้ามา คุณก็รู้นี่”
“รู้ค่ะ ว่าบอสย้ายมาอยู่คอนโด แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคอนโดหรูขนาดนี้ ราคาต้องหลายหลักแน่”
“ร้อยกว่าล้านเอง”
“ร้อยกว่าล้าน! เอง เหรอคะ”
“อืม เดี๋ยวผมส่งรหัสลิฟต์กับรหัสประตูห้องให้คุณทางไลน์ เวลาคุณไปไหนมาไหนจะได้สะดวก”
“ขอบคุณค่ะ แต่คืนนี้ฉันไม่ได้เอาอะไรมาเลย แล้วฉันจะนอนยังไงคะ”
“ใช้ของผมไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยไปขนของออกมา”
หญิงสาวพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วยกับอาเรส ถ้าให้ไปเอาของตอนนี้ก็คงไม่ได้เพราะมันดึกมากแล้ว อีกอย่างเธอเหนื่อยเหลือเกิน อยากจะเอาร่างกายลงไปนอนบนเตียงนุ่ม ๆ เร็ว ๆ