-3-
ผู้หญิงของฉัน
ซูซือเหยียนหัวเราะอย่างไม่เชื่อหู “รุ่นพี่อย่าล้อฉันเล่น ฉันเจ็บมามากพอแล้ว” เธอพูดอย่างน่าสงสาร
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น” เขาพูดเสียงเข้ม “ฉันสามารถทำให้สองคนนั้นไม่มีความสุขอีกต่อไป แล้วยังต้องสำนึกเสียใจไปจนตาย”
“แต่...” เธอลังเล “เรื่องนี้ฉันไม่เห็นข้อได้เปรียบอะไร” เธอมีแต่เสียกับเสีย
“ถ้าเธอรับปาก ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าคนรักเก่าของเธอนั้นแท้จริงแล้วเป็นคนยังไง”
แน่นอนว่าเขาสามารถทำได้ หลักฐานทุกอย่างเขามีทั้งหมด
ใบหน้าของซูซือเหยียนเต็มไปด้วยความแคลงใจ “รุ่นพี่พูดเหมือนว่าเขาไม่ใช่เขาที่ฉันรู้จัก”
“ฉันให้เวลาห้านาทีสำหรับคิดเรื่องนี้” เขาลูบคางอย่างสบายอารมณ์ ทว่าดวงตาและน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยอำนาจกดขี่คนอื่น
ซูซือเหยียนขยำชุดเดรสจนเป็นรอยยับย่น ในใจของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
เว่ยเสวี่ยหลินเป็นคนไม่ดีจริงๆ หรือ? ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสวมหน้ากากใส่เธอมาตลอดงั้นหรือ? หากเป็นคนอื่นมาพูดเรื่องพวกนี้เธออาจไม่เชื่อ แต่ว่าคนตรงหน้าคือหลี่เฉิงหลิน เขามีทั้งเงินทั้งอำนาจที่สามารถบันดาลทุกอย่างได้ ครั้งหนึ่งเขาก็เคยพูดเรื่องนี้กับเธอ
แต่ว่าตอนนั้นเธอกำลังหน้ามืดตามัว
การแก้แค้นเป็นขนมหวานสำหรับคนที่กำลังขมขื่นอย่างเธอ โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงสีหน้าของเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจที่สุด
หลิวอิง...
“ถ้าฉันตกลง ฉันต้องทำอะไรบ้าง” เธอถาม มีความลังเลในน้ำเสียง
“นอนกับฉัน” เขาพูดราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ แต่นี่ทำให้ซูซือเหยียนอับอายจนหน้าแดงก่ำ
“รุ่นพี่! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว”
“แต่เธอเตรียมพร้อมที่จะเสียตัวให้ผู้ชายคนนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ”
“นั่นเพราะเขาเป็นแฟนฉัน...”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“นี่...” ซูซือเหยียนพูดไม่ออก เธอก้มหน้าลง ข่มอารมณ์โมโหในอก “ฉันสามารถมอบครั้งแรกให้กับคนที่ฉันมั่นใจว่าสามารถใช้ชีวิตกับเขาได้”
“ตอนนี้เธอไว้ใจใครได้บ้าง”
“...” ซูซือเหยียนพูดไม่ออก นั่นสิ เธอไว้ใจใครได้บ้าง แน่ใจได้อย่างไรว่าผู้ชายคนอื่นจะไม่เป็นเหมือนเว่ยเสวี่ยหลิน
“ในเมื่อเธอไม่คิดจะเก็บมันไว้ในวันแต่งงาน ทำไมไม่คิดว่าหาประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญอย่างฉันบ้าง เผื่อโชคดีอาจได้เป็นสะใภ้ตระกูลหลี่”
“ฉัน...ฉันไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อน รุ่นพี่! ฉันไม่คิดว่าคุณเป็นคนแบบนี้” ซูซือเหยียนพูดอย่างไม่พอใจ
“ฉันไม่ได้บังคับ แต่เรียกร้องความสมัครใจของเธอ มาพนันกันมั้ยล่ะ?”
“พนันอะไร?”
หลี่เฉิงหลินยื่นใบหน้าเข้าใกล้เธอ “ถ้าฉันทำให้เธอยอมได้ เธอต้องยอม”
นี่มันเป็นข้อเสนอประเภทไหนกัน ทำไมเธอต้องยอมด้วย?
รู้ตัวอีกทีซูซือเหยียนก็อยู่บนรถลีมูซีนคันใหญ่พร้อมกับที่คนข้างกายคือหลี่เฉิงหลิน เขากำลังพาเธอไปที่คอนโดมีเนียมใจกลางเมือง
เธอสับสนในตัวเอง แต่เมื่อคิดถึงภาพที่คนรักของเธอกำลังเริงรักกับหลิวอิง นั่นทำให้เธอโกรธจนแทบกระอักเลือด
ที่แท้แล้วเลือดพรหมจรรย์ก็ไม่สามารถเรียกความรักจากผู้ชายได้ ซูซือเหยียนอยากหัวเราะเย้ยหยันตัวเองดังๆ อยากรู้นักว่าทำไมผู้ชายถึงปรารถนาในเรือนร่างของผู้หญิงกันทุกคน
เธอคิดว่ามันจะเป็นของขวัญสุดแสนวิเศษให้กับเขา
แต่ดูเหมือนว่าคืนนี้เธออาจต้องมอบมันให้กับปีศาจที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างหลี่เฉิงหลิน
เขานั่งนิ่งๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ขณะเดียวกันซูซือเหยียนนั้นมีความกล้าได้ที่ แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดทำให้เธอบ้าระห่ำ เมื่อมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของหลี่เฉิงหลินแล้วก็คิดถึงเรื่องเพ้อฝันในช่วงวัยเด็ก
หญิงสาวได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าชายขี่ม้าขาว...นั่นเป็นเรื่องขายฝันในนิทาน
ความจริงแล้วเธอกำลังจะขายวิญญาณให้กับซาตาน...หลี่เฉิงหลินเป็นซาตานตนนั้น
ซูซือเหยียนรวบรวมความกล้า ข่มความประหม่าในอกแล้วขยับเข้าไปใกล้เขา “รุ่นพี่”
หลี่เฉิงหลินมองคนตัวเล็กที่ขยับเข้ามาใกล้ ดวงตาของเธอฉ่ำวาวราวกับสายน้ำ ใบหน้ากระดากอายเล็กน้อยแต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์อันไร้เดียงสา กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอทำให้ชีพจรของเขาเต้นเร็ว ราวกับว่าหัวใจที่ตายแล้วนั้นค่อยๆ ฟื้นคืนชีพขึ้นมา
“มีอะไร” เขาถามเสียงพร่า นึกโมโหที่ไม่สามารถควบคุมน้ำเสียงได้
“ฉันอยากรู้ว่าอะไรคือการทำข้อแลกเปลี่ยน”
“อยากแก้แค้นไหม” เขาถาม
เธอพยักหน้า ซ่อนแววตาอ่อนแอแล้วจับแขนเสื้อของเขาเบาๆ “แต่ฉันกลัวนิดหน่อย” นี่มันค่อนข้างอันตรายจริงๆ
“เธอเสียใจหรือเปล่าที่มากับฉัน”
“ความจริงก็เสียใจอยู่บ้าง”
“อะไรนะ”
เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองเขา “แต่ว่าฉันไม่อยากเห็นสองคนนั้นมีความสุข มันเจ็บ” เธอเสียทั้งเพื่อนทั้งคนรักไปในคราวเดียว ไม่รู้ว่าสิ่งไหนเจ็บกว่ากัน ที่แน่ๆ ในอกซ้ายของเธอบีบรัดราวกับว่าหัวใจกำลังแตกสลาย
หลี่เฉิงหลินโอบรอบเอวเล็กอย่างช่วยไม่ได้ รั้งตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอด กลิ่นหอมสดชื่นของชายหนุ่มทำให้เธอสงบลง
“ซูซือเหยียน เรื่องบางเรื่องเมื่อตัดสินใจไปแล้วมีแต่ต้องเดินหน้า เส้นทางบางเส้นเมื่อก้าวไปแล้วไม่มีทางให้ถอยหลัง ฉันให้เวลาคิดจนกว่าจะถึงคอนโด”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำเสียงมั่นคงของเขา หรือเป็นเพราะความอ่อนแอในใจ หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ในที่สุดเธอก็รีบส่ายหน้าหวือ “ฉันไม่เสียใจ” ดวงตาของเธอเป็นประกาย นึกเย้ยหยันตัวเองในใจ
ผู้หญิงมากมายเสียเงินเพื่อมีค่ำคืนแรกกับโฮสต์รูปหล่อ ความบริสุทธิ์ของผู้หญิงในยุคนี้ไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก เพียงแค่คิดว่าหากเธอไม่ไปเห็นภาพนั้นแล้วมารู้เรื่องหลังจากที่มอบทั้งร่างกายและหัวใจให้เว่ยเสวี่ยหลิน แค่คิดหญิงสาวก็เจ็บปวดจนทนไม่ไหว
มือถือของเธอถูกปิดตั้งแต่ตอนที่ออกจากห้องของเว่ยเสวี่ยหลิน ไม่คิดจะฟังคำอธิบายของชายสารเลวคนนั้น
หลี่เฉิงหลินสัมผัสได้ถึงความคับข้องใจของเธอ ริมฝีปากบางถูกขบจนแดงช้ำ อดใช้ปลายนิ้วแตะมันเบาๆ ไม่ได้
“อ๊ะ...” ซูซือเหยียนสะดุ้ง ร่างกายเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าแล่นปราดไปทั่วเมื่อเขาแตะปากเธอเบาๆ หัวใจเต้นเร็วจนเลือดลมเดือดพล่าน “รุ่นพี่จะทำอะไร”
“อย่ากัดปากตัวเอง มันเจ็บ”
“เอ่อ...” เธอก้มหน้าลง โชคดีที่ในรถนั้นมืดจนมองไม่เห็นว่าตอนนี้หน้าเธอแดงขนาดไหน
เธอกำลังร่วมทางกับเทพบุตรในฝันของสาวๆ คนที่เป็นได้แค่ความฝันของหญิงสาวมากมาย ซูซือเหยียนมีความคิดประหลาดบางอย่างผุดวาบขึ้นมาในหัว จึงรวบรวมความกล้าแล้วเงยหน้ามองเขา “รุ่นพี่”
เขามองเธอ ไม่ได้พูดอะไร ในความมืดนั้นราวกับกลืนกินไปกับเขาอย่างสมบูรณ์
มือของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ราวกับว่ากำลังตัดสินความเป็นตายของชีวิต แต่ทันใดนั้นเธอก็สูดลมหายใจ ยืดตัวขึ้นใช้ริมฝีปากแตะปากเขาเบาๆ แล้วรีบผละออกอย่างรวดเร็ว
หลี่เฉินหลินตกตะลึงจนพูดไม่ออก สัมผัสนุ่มตรงริมฝีปากทำให้เขาสะท้านเยือกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับว่ากลิ่นหอมปนกับกลิ่นเหล้าที่มาจากปากเธอยังคงอ้อยอิ่งติดอยู่ตรงนั้น นัยน์ตาของชายหนุ่มจึงเข้มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“ซูซือเหยียนเธอทำอะไร”
ซูซือเหยียนสะดุ้งเบาๆ “เอ่อ...แค่คิดว่าการจะนอนกับผู้ชายยังไงก็ต้องลองจูบกันก่อน” อย่างน้อยเธอก็เคยทำแบบนี้กับเว่ยเสวี่ยหลิน และส่วนใหญ่เธอมักจะหอมแก้มเขามากกว่า นั่นเป็นวิธีแสดงความรักของซูซือเหยียน แต่กับหลี่เฉิงหลินนั้นแตกต่างกัน ในซีรีส์มากมายบอกว่าจูบเป็นจุดเริ่มต้นของการมีเซ็กซ์
หลี่เฉิงหลินทั้งฉุนทั้งขำ “ใครบอกว่าจำเป็นต้องจูบก่อนมีเซ็กส์ ไม่รู้เหรอว่าผู้ชายกับผู้หญิงสามารถมีเซ็กส์ได้แม้จะมีได้จูบกัน”