ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้โกรธนายหรอก

1240 Words
บทที่ 7 ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้โกรธนายหรอก “ถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ” หลุยส์ตอบทันที มองเพื่อนทั้งสองคนด้วยสายตาจริงจัง “ครอบครัวของฉันเป็นตระกูลใหญ่ที่คอยแต่ชิงดีชิงเด่นกันเอง ถึงฉันจะไว้ใจพ่อแม่แต่ฉันก็เชื่อใจพวกท่านไม่ได้ เพราะท่านยังมีลูกและหลานอีกหลายคน ถ้าท่านไม่ยอมแบ่งผลประโยชน์ให้ลูกชายฉันอย่างที่ท่านพูดจริงๆ ล่ะ ลูกฉันก็คงไม่ต่างไปจากขอทาน ฉันคิดว่าวิธีนี้ดีที่สุดแล้วโมกข์ ทศ อย่างน้อยลูกฉันก็ยังได้เงินปันผลทุกปี พวกนายช่วยฉันด้วยนะ ฉันเชื่อว่านายสองคนจะไม่โกงลูกฉันหรอก” “ถ้านายไว้ใจฉัน ฉันก็จะยอมช่วยนาย” วิโมกข์รับปากเป็นคนแรกเพราะเห็นแก่เด็กและอยากแก้แค้นอดีตคนรักอยู่ในที “ถ้าโมกข์มันรับปากฉันก็เอาด้วยคน” บารมีรับปากอย่างกลัดกลุ้ม นึกสงสัยว่าคนรวยมากๆ นี่เขาสุขหรือทุกข์กันแน่ “แล้วพ่อกับแม่นายจะไม่เคืองฉันสองคนเหรอ” “เขาคงจะโกรธฉันจนไม่อยากมองหน้าเลย ลูกชายคนโตของครอบครัวขายหุ้นให้เพื่อนเพื่อแก้แค้นที่ถูกตัดออกจากกองมรดก” หลุยส์ เซียะ กล่าวอย่างขมขื่นในโชคชะตาของตัวเอง “ฉันขอบใจนายสองคนมากนะ ฉันจะรีบไปจัดการเรื่องเอกสารแล้วเราจะนัดเจอกันที่นี่อีกที” หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ทุกคนก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง วิโมกข์และบารมีรับเอกสารการถือหุ้นมาคนละฉบับ หลังจากลงชื่อซื้อขายเสร็จเรียบร้อยแล้ว “ไอ้ทศเอาของมึงมาให้กู แล้วมึงก็เก็บของกูไว้” วิโมกข์แลกเปลี่ยนเอกสารกับเพื่อนซี้ “อนาคตถ้ามึงหรือกูเกิดความโลภอยากจะโกงหลานขึ้นมา จะได้ทำกันยากหน่อย” “ก็ดีเหมือนกัน” เพื่อนรักทั้งสองจึงแลกเปลี่ยนเอกสารของตนเองให้อีกฝ่ายเก็บรักษา “ขอบใจนายสองคนมากนะ เสร็จเรื่องนี้ฉันก็หมดห่วงแล้ว ตอนนี้ฉันก็แค่รอเวลาถูกไล่ออกจากบริษัทเท่านั้น” “มันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ นายอย่าเพิ่งคิดมากเลยนะ” วิโมกข์ปลอบใจ อยากจะถามมากกว่านี้แต่ก็ฝืนใจเอาไว้ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา “แล้วนายคุยเรื่องนี้กับเมียหรือยัง” แต่บารมีกลับถามออกไปดั่งที่ใจเขาต้องการ “เราทะเลาะกันรุนแรงเพราะเรื่องนี้ เธอบอกว่าที่แต่งงานกับฉัน เพราะหวังว่าฉันจะได้เป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไปของครอบครัว เธอถึงยอมทิ้งคนรักเก่าที่รักกันถึงห้าปีมาหาฉัน ถ้ารู้ว่าฉันจะเป็นแบบนี้ เธอจะไม่ทิ้งเขามาหาผู้ชายอย่างฉันเด็ดขาด เธอบอกว่าเขาคนนั้นรักเธอมาก แม้แต่ดาวกับเดือนก็หาให้เธอได้ถ้าเธอต้องการ แต่เธอก็ยังเลือกฉันเพราะคิดว่าฉันมีให้เธอได้มากกว่าเขา” หลุยส์ เซียะ เล่าด้วยความรู้สึกเจ็บปวดสุดบรรยาย “มันเจ็บนะโมกข์ ทศ ที่เมียของตัวเองพูดแบบนี้” “อย่าดื่มมาก นายต้องขับรถกลับอีกนะหลุยส์” บารมีเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเพื่อนดื่มเหล้าหนักขึ้น “ฉันดื่มเพราะดีใจที่ฝากลูกชายให้พวกนายดูแลได้สำเร็จ แล้วก็ดื่มเพราะเสียใจที่ไปหลงรักผู้หญิงไร้หัวใจอย่างมีนา มันคงเป็นกรรมที่ฉันพรากเธอมาจากผู้ชายคนนั้น ต่อให้ล้างบาปจนถึงวันตายก็คงลบล้างความผิดนี้ไม่ได้” “ผู้ชายคนนั้นเขาไม่โกรธนายหรอก” วิโมกข์ตบบ่าปลอบใจเพื่อนผู้รันทด “นายรู้ได้ยังไงโมกข์ เขาอาจจะสาปแช่งฉันก็ได้ ฉันถึงได้เป็นแบบนี้” “ไม่หรอกหลุยส์ ฉันรู้เพราะผู้ชายคนนั้นเขาเป็นเหมือนฉัน” จริงสินะ เพื่อนเขาคนนี้เคยอกหักจากคนรักมาแล้ว เขาก็เคยเห็นมาแล้วกับตาว่ามีสภาพอย่างไร แต่ก็เพิ่งจะรู้ว่ามันคล้ายกับเรื่องของตน ต่างกันตรงที่เขาเป็นผู้ถูกทิ้ง ส่วนตนเป็นผู้สมหวัง “เลิกคิดแบบนั้นแล้วเอาเวลาไปดูแลลูกชายของนายให้ดีที่สุดดีกว่านะ แล้วก็เลิกดื่มได้แล้ว” หลุยส์ เซียะ ชักมือหนีไม่ให้เพื่อนรักดึงแก้วไปได้ “ขอฉันดื่มเถอะนะโมกข์ หลังจากวันนี้ฉันจะไม่ดื่มอีกแล้ว” “ฉันไม่ได้หมายความว่าให้นายเลิกดื่ม แต่ให้ดื่มน้อยๆ ลงหน่อยเพราะนายคออ่อนมาก” “ขอบใจที่เป็นห่วงฉันนะโมกข์ นายต้องห่วงใยลูกชายฉันเหมือนที่ห่วงฉันด้วยนะ พวกนายต้องช่วยกันดูแลลูกชายฉันนะ รับปากฉันสิ” “ได้สิ” “ลูกนายก็เหมือนหลานของเรา เราจะปกป้องเขาแทนนายเอง” บารมีตบบ่าเพื่อนที่เมาจนเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง “ได้ยินแบบนี้แล้วฉันสบายใจจัง ต่อให้ตายก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว มาชนแก้วด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายสิ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ดื่มไอ้น้ำเมานี้อีกแล้ว”... สิงคโปร์ “มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงวะโมกข์” บารมีมองโลงศพที่กำลังถูกหย่อนลงหลุม คิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนรักจะจากไปเร็วแบบนี้ “ฉันไม่คิดเลยว่าคำพูดของหลุยส์คืนนั้นจะหมายถึงแบบนี้” วิโมกข์ก็โศกเศร้าไม่ต่างกับบารมี คืนนั้นหลังจากดื่มด้วยกัน เขาก็ห้ามปรามไม่ให้ชายหนุ่มขับรถกลับ และชักชวนให้ไปพักด้วยกันที่บ้าน ถ้าเขายอมไปด้วยก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ “แต่ทำไมเธอถึงไม่มาร่วมงานศพของสามี” เขามองเด็กชายวัยประมาณสี่ขวบที่ยืนไร้เดียงสาอยู่กับพี่เลี้ยง แยกออกจากกลุ่มคนในครอบครัวอย่างชัดเจน ไร้เงาของมารดามาเคียงข้าง “ฉันได้ยินว่าทางนี้พยายามติดต่อกับเธอตั้งแต่วันที่หลุยส์เกิดอุบัติเหตุ จนถึงวันนี้ก็ยังติดต่อเธอไม่ได้” บารมีกระซิบบอก “โชคดีที่หลุยส์จัดการเรื่องหุ้นเรียบร้อยแล้ว แต่ทุกอย่างที่เป็นของมันคงเสร็จเธอหมด” คืนนั้นตอนที่นั่งดื่มด้วยกันเขายังคุยว่า จะเอาเงินเก็บไปซื้อประกันชีวิตและยกผลประโยชน์ให้ลูกชาย แต่เขามาจากไปซะก่อนแบบนี้ เงินนั้นก็ต้องตกเป็นของภรรยาอย่างไร้เงื่อนไข “ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคนโชคดีมากก็วันนี้แหละไอ้ทศ คิดๆ แล้วก็อายว่ะ ที่ร้องไห้ฟูมฟายไม่เป็นผู้เป็นคนเพราะผู้หญิงอย่างนั้น” ‘ฉันไม่อยากให้คุณอายตัวเองเวลาได้พบกับรักครั้งใหม่ หรือคุณคิดว่าจะไม่รักใครอีกแล้ว โง่สิ้นดี!’ คำพูดเมื่อหลายปีก่อนของเด็กสาวที่ชื่อชาร์มมิ่งดังก้องอยู่ในสมอง “เราอาจจะเจอศึกหนักหลังจากงานนี้นะไอ้ทศ ปัญหาเรื่องหุ้นต้องเกิดขึ้นแน่” “ถือว่าช่วยมันเป็นครั้งสุดท้ายวะไอ้โมกข์ มันไว้ใจเรา เราก็ต้องช่วยมัน” “มึงกับกูต้องยืนหยัดไว้นะ ห้ามบอกความจริงเรื่องนี้ให้ใครรู้เด็ดขาด” “กูรู้แล้วไอ้โมกข์ ถึงปากกูจะช่างเจรจา แต่กูก็รู้ว่าเรื่องไหนควรไม่ควร”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD