ทำเพื่อลูก

1236 Words
บทที่ 6 ทำเพื่อลูก          หลายปีผ่านไป          หลังจากผิดหวังจากความรัก วิโมกข์ก็ทุ่มเทกับการบริหารสวนยางและฟาร์มหอยเป๋าฮื้อของเขาเต็มที่ ภายในระยะเวลาไม่ถึงห้าปี เขาก็สามารถใช้หนี้เงินกู้ธนาคารหลายร้อยล้านได้หมด กลายเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่ได้รับการยกย่องจากหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน แต่เขาก็ไม่ยอมหยุดความร่ำรวยของตัวเองไว้แค่นั้น ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่องออกสู่ตลาดโลก          “ฉันคิดว่าชาตินี้แกจะอยู่แต่ในสวนในไร่ซะอีก” บารมีประชดใส่เพื่อนรักที่มาเยี่ยมถึงหาดใหญ่ สี่ปีที่ผ่านมาเพื่อนของเขาคนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากชายหนุ่มที่ร่าเริง ขี้เล่น พูดจาดี กลายเป็นคนเคร่งขรึม ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พูดจาขวานฝ่าซาก กลายเป็นคนหยิ่งๆ ดิบๆ เถื่อนๆ ไปเลย กอปรกับรูปร่างเหมือนนายแบบ และหน้าตาคมเข้มแบบคนใต้แต่ได้ความขาวแบบคนจีน จึงทำให้รูปลักษณ์เขาดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ เพียงแต่.. “ถ้านายยิ้มง่ายกว่านี้อีกสักนิด สาวๆ ทั้งสงขลาคงเสร็จนาย”          “หน้าตาไม่มีประโยชน์เท่ากับเงินหรอกไอ้ทศ” วิโมกข์ยิ้มเยาะ หยิบขวดเบียร์กรอกใส่ปาก “ต่อให้มึงขี้เหร่จนหมาเมิน แต่ถ้ามึงมีเงินนางงามยังยอมเป็นเมียน้อยมึงเลย”          “มึงอคติกับชีวิตไปหรือเปล่าไอ้โมกข์”          “กูไม่ได้อคติกับชีวิต แต่กูอคติกับผู้หญิงหน้าเงินต่างหาก มึงดูสิ ในร้านนี้ไม่มีใครรู้จักกู กูก็เหมือนคนไร้ค่า แต่พอไปเดินอยู่ในงานเลี้ยงที่มีคนรู้จักกูสิ แม่งแทบจะแดกกูด้วยสายตา โดยเฉพาะพวกผู้หญิง”          “มึงเกลียดผู้หญิงเหรอ”          “เปล่า กูชอบผู้หญิงมาก และกูก็ยังอยากจะมีความรัก แต่กูยังหาไม่เจอต่างหาก”          “เพราะมึงเลือกมากไปหรือเปล่า”          “ก็นะ จะให้กูรักใครแบบโง่ๆ เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้หรอกไอ้ทศ เจ็บครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว แล้วมึงล่ะไอ้ทศ ว่าแต่กู มึงก็ยังเป็นโสดอยู่ไม่ใช่เหรอ” วิโมกข์ย้อนถามบ้าง          “ที่กูโสดเพราะกูยังไม่อยากแต่งงานต่างหาก แต่กูก็ใช้ผู้หญิงเปลืองนะโว้ย”          “เจ้าชู้อย่างมึงไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นน้องเขยกูหรอก”          “กูไม่เคยหวังอยู่แล้ว” บารมียักคิ้วใส่เพื่อนรักพร้อมกับยิ้มยียวน เมื่อได้ยินเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะยังไม่เคยได้เจอะเจอกับน้องสาวของเขาเลย “ทำไมหลุยส์ถึงมาช้าจังวะโมกข์”          “นั่นสิ เลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงแล้วนะ นั่นไงมัน เฮ้หลุยส์ เซียะ”          “กำลังพูดถึงฉันอยู่เหรอ ขอโทษที่มาช้านะ มีปัญหานิดหน่อยน่ะ” หลุยส์ทักทายเพื่อนรักทั้งสองแล้วนั่งลง          “สบายดีไหมหลุยส์ ลูกชายนายเป็นอย่างไรบ้าง” บารมีถามไถ่ทุกข์สุขของอีกฝ่าย          “อีริคเขากำลังน่ารักมาก แต่จะดีกว่านี้ถ้า.. ถ้าแม่เขาเอาใจใส่มากขึ้น”          วิโมกข์สบตากับบารมีโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อเห็นคนคออ่อนอย่างหลุยส์กระดกเหล้าเพียวๆ ทั้งแก้วเมื่อพูดถึงภรรยา          “นายกำลังมีปัญหากับเมียเหรอ” วิโมกข์ตัดใจถามออกไป ทั้งที่ไม่อยากพูดถึงผู้หญิงคนนั้นอีก          หลุยส์พยักหน้ารับแล้วกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง “ครอบครัวฉันบอกให้ฉันเลิกกับเธอซะ”          “ท่านบอกเหตุผลนายหรือเปล่าว่าทำไม”          “เพราะเธอติดการพนันอย่างหนัก นายก็รู้ว่าประเทศฉันไม่ถือเรื่องแบบนี้ แต่ถึงขนาดคนในครอบครัวฉันพูดแบบนี้ นายก็คิดเอาเองละกันว่าเธอติดหนักขนาดไหน”          “แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ”          “ฉันรักเธอ แต่เธอก็เป็นอย่างที่ครอบครัวฉันว่าจริงๆ ความจริงแล้วครอบครัวฉันไม่ชอบเมียฉันเลยตั้งแต่แรก ตอนที่เราแต่งงานกันพวกท่านก็ไม่เต็มใจ งานแต่งงานของเราถึงได้จัดกันเงียบๆ อย่างที่พวกนายเห็น แรกๆ ที่อยู่ด้วยกันเธอเป็นเมียที่ดีมาก จนพ่อแม่ฉันเริ่มใจอ่อนและยอมรับเธอ แต่พอคลอดลูกได้ไม่ถึงปีเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเริ่มเข้าบ่อนและเริ่มใช้เงินเกินตัว หนักเข้าก็เริ่มเอาเครื่องประดับที่ฉันซื้อให้ไปขายจนหมด แต่หลังๆ มานี้เธอเล่นถึงขนาดไม่ยอมกลับบ้านไปดูแลลูกบ้างเลย ครอบครัวฉันจึงยื่นคำขาดให้ฉันเลิกกับเธอซะ ถ้าฉันไม่เลิกท่านจะตัดฉันออกจากกองมรดก แม้แต่ลูกชายฉันก็จะไม่ได้อะไรเลยเหมือนกัน ฉันถึงได้กลุ้มใจอยู่แบบนี้ไง”          “แต่เด็กเขาไม่รู้เรื่องของผู้ใหญ่ด้วยนะ” บารมีแย้งเสียงเครียด นึกตำหนิการกระทำของครอบครัวหลุยส์ เซียะ อยู่ในใจ          “ท่านบอกว่าท่านไม่ได้มีหลานชายแค่คนเดียว ท่านไม่อาวรณ์อยู่แล้ว แต่ฉันรู้ว่าท่านรักอีริคอยู่เหมือนกัน ถึงแม้จะไม่มากเท่าหลานคนอื่น”          “ท่านคงใช้อีริคมาขู่ให้นายเลิกกับเมียนายมากกว่า” วิโมกข์แสดงความเห็นหลังจากทบทวนดีแล้ว          “แต่เมียฉันไม่ใช่คนโง่ นายคิดว่าเธอจะยอมเลิกกับฉันง่ายๆ เหรอโมกข์ ทศ ถ้าหย่ากันจริงๆ เธอต้องเรียกร้องค่าเลี้ยงดูมหาศาล ถ้าฉันยอมให้ไปแล้วเธอเอาเงินไปใช้หมด เธอก็จะกลับมาเกาะอีริคอีกแน่”          “แล้วนายจะจัดการเมียของนายยังไง” วิโมกข์นึกเห็นใจในชะตากรรมของหลุยส์ เซียะ และกำลังคิดว่าตัวเองโชคดีแล้วที่ถูกเธอทิ้งไป          “ถึงแม้ฉันจะรักเธอแต่ฉันก็รักลูกมากกว่า ฉันคิดทบทวนมาอย่างดีแล้วโมกข์ ทศ ถ้าฉันไม่จัดการทุกอย่างตั้งแต่ตอนนี้ ฉันอาจจะไม่เหลืออะไรไว้ให้อีริคเขาเลย”          “ตกลงนายจะเลิกกับเธอใช่ไหม”          “ไม่ใช่หรอกทศ ฉันเลิกกับเธอไม่ได้ เพราะถ้าฉันเลิกกับเธอ ฉันก็ต้องเสียเงินให้เธออยู่ดี”          “แล้วนายจะเอายังไงกันแน่” บารมีเริ่มสับสนกับความคิดของเพื่อน          “ฉันจะยอมโดนตัดออกจากกองมรดกของครอบครัว แต่ก่อนที่ฉันจะทำเรื่องนี้ฉันอยากขอร้องนายสองคนให้ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม”          “ลองบอกมาสิ” วิโมกข์เสนอและตั้งใจฟังแผนการของหลุยส์ เซียะ          “ฉันอยากให้นายสองคนเก็บหุ้นของฉันไว้ให้อีริค”          “ฉันไม่เข้าใจ จะให้พวกเราเก็บยังไง” บารมีทำหน้างงหนักยิ่งกว่าเก่า          “ตอนนี้ฉันมีหุ้นอยู่ในบริษัทรับเบอร์ห้าเปอร์เซ็นต์ แต่ก่อนที่ฉันจะถูกตัดออกจากกองมรดก ฉันจะโอนหุ้นให้พวกนายคนละครึ่ง ให้ช่วยดูแลแทนลูกชายฉันจนเขาอายุครบยี่สิบ และฉันจะบอกกับครอบครัวว่าฉันขายหุ้นให้พวกนายไปแล้ว พวกนายเข้าใจที่ฉันพูดไหม”          “นายจะบ้าหรือไงหลุยส์ ทำไมนายต้องทำแบบนี้ด้วย” บารมีต่อว่าความคิดแผลงๆ ของเพื่อน ที่เหมือนจะทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก “นายไว้ใจพวกเรามากกว่าพ่อแม่นายอีกเหรอหลุยส์” วิโมกข์ถาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD