บทที่ 18 ชวนกลับไทย
“ชาร์ม”
“หือ” หญิงสาวขานรับ เลิกคิ้วเป็นคำถามกับลูกชายของป้าวา ที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกันมาตั้งแต่อายุสิบห้า เขาจึงเป็นญาติทางฝั่งประเทศไทยที่เธอสนิทมากที่สุด
“ฉันว่าเธอน่าจะลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้างนะ ที่บ้านพี่ชายของวิเวียนเป็นฟาร์มเลี้ยงหอย แล้วก็มีสวนยางพาราด้วยไม่ใช่เหรอ บรรยากาศธรรมชาติแบบนั้นน่าจะเหมาะกับการแต่งเพลงของเธอนะ”
วิเวียนพยักหน้าหงึก ๆ พอใจกับพูดของปรมัธ ช่วยส่งเสริมกันและกันทุกเรื่องแบบนี้สิเขาถึงจะเรียกว่าเพื่อนที่รู้ใจ
“จริงด้วยชาร์ม ไปกับฉันนะ ฉันจะได้มีเพื่อน”
“ไม่ล่ะ” ชาร์มมิ่งปฏิเสธพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ นึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มผู้ผิดหวังจากความรักคนนั้น.. จากตอนนั้นมาถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว ผู้ชายที่เจอกันครั้งแรกเขาก็ช่วยเธอเอาไว้ ครั้งสุดท้ายก่อนจากกันเขาก็ยังช่วยเธอเอาไว้ และความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นทำให้เธอลืมเขาไม่ลงจนถึงตอนนี้
เขาก็คงไม่ต่างไปจากเธอเหมือนกัน เพราะเขากับผู้หญิงที่ชื่อมีนารักกันมาตั้งหลายปี จะหมดรักเธอง่าย ๆ คงเป็นเรื่องยาก ตัดบัวยังเหลือใย ตัดใจยังไงก็ยังต้องเหลือเธออยู่บ้างแหละ
“ทำไมล่ะ”
“ถ้าชาร์มไปคุณย่าคงเหงาแย่ ชาร์มสงสารคุณย่า ชาร์มไม่ไปหรอก”
วิเวียนกำลังจะอ้าปากพูดแต่ถูกสายตาของปรมัธจ้องเขม็ง พร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงห้ามไม่ให้พูด
“ไม่เป็นไร แต่ถ้าคิดถึงฉันเมื่อไหร่ก็ไปหาได้นะ” วิเวียนจำใจต้องเปลี่ยนคำพูดจากเดิมที่ตั้งใจจะชวนเพื่อนรักไปด้วยให้ได้
เรื่องนี้เธอจะต้องใจเย็น ห้ามบุ่มบ่ามเด็ดขาด เดี๋ยวจะถูกสงสัยเอาได้
“ถ้าชาร์มเขาไม่ไปฉันไปเป็นตัวแทนเขาเองก็ได้ สงขลากับกรุงเทพห่างกันแค่นิดเดียวเอง ฉันอยากไปลองกินหอยเป๋าฮื้อสด ๆ จากฟาร์มดูบ้าง”
“คราวที่แล้วป้าหวังก็พาพวกเราไปลองกันข้างบ่อเลี้ยงเลยฮีโร่ แต่ชาร์มไม่กล้ากินสด ๆ หรอก มีแต่ยายผีดิบวิเวียนนี่แหละที่กิน ดูดน้ำหอยจ๊วบ ๆ ๆ” ชาร์มมิ่งทำท่าประกอบคำบอกเล่า
“กินกับน้ำจิ้มหรอกถึงกล้า พูดแล้วน้ำลายสอ หอยสด ๆ รสชาติหวาน ๆ กินกับน้ำจิ้มรสชาติจัดจ้าน เข้ากั๊นเขากัน ไปคราวนี้ฉันจะเอามีดแซะมาจากกระชังแล้วกินทั้งเปลือกแบบคนเกาหลีดูบ้าง”
“เป๋าฮื้อน้ำแดง ผัดคะน้าฮ่องกง ซาซิมิ ซุป ตุ๋นกับปลิงทะเลน่าจะกินอร่อยกว่านะวิเวียน” ปรมัธยกตัวอย่างเมนูหอยเป๋าฮื้อที่เคยกิน
“เขาว่ากินสด ๆ ทำให้ฟิตปั๋งฉันก็เลยไม่ขัดศรัทธา” วิเวียนตอบเล่น ๆ พร้อมกับทำท่ากรุ้มกริ่ม
“ป้าหวังบอกให้วิเวียนกินเป๋าฮื้อเยอะ ๆ จะได้สูงเท่าชาร์ม ยังจำได้ไหม” ชาร์มมิ่งถามเพื่อนสาวที่ความสูงตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผิดกับตัวเองที่สูงขึ้นมาอีกสี่เซนติเมตร
“จำได้สิ ป้าหวังยังบอกอีกว่าเป๋าฮื้อเป็นอาหารหนึ่งในแปดชนิดที่เกิดมาชาตินี้ต้องกิน มันอุดมไปด้วยสารอาหาร มีทั้งโปรตีน วิตามิน เหล็ก สังกะสี โพเลซีน แม็กนีเซียม แล้วก็อีกสารพัดชนิด ช่วยบำรุงสายตา รักษาภูมิคุ้มกันของร่างกาย และป้องกันมะเร็ง แล้วทำให้สูงขึ้นด้วย ตอนนั้นฉันเชื่อป้าเขาสนิทใจเพราะอยากสูง ก็เลยกินทั้งสุกทั้งสดเกือบทุกมื้อ สุดท้ายแล้วก็สูงร้อยหกสิบห้าเหมือนเดิม ฉันเพิ่งฉุกใจคิดได้ตอนนี้แหละว่าป้าเขาต้องโกหกฉันแน่ ๆ” สีหน้าระรื่นเปลี่ยนเป็นขัดเคืองใจ “กลับไปคราวนี้ต้องจัดการป้าหวังซะหน่อยแล้ว”
“จริงเหรอวิเวียน” ชาร์มมิ่งแกล้งถามหน้าเครียด เมื่อเห็นปรมัธทำท่าเชื่อสนิทใจ
“แน่นอนสิ มาหลอกวิเวียนแบบนี้ได้ไง ต้องเอาให้พังกันไปข้างหนึ่งเลยงานนี้” วิเวียนรับมุกทันท่วงที
“อย่าไปสร้างศัตรูเลยนะวิเวียน ฉันคิดว่าเธอควรเอาป้าหวังคนนี้เป็นพวกจะดีกว่า จะได้มีคนช่วยเธออีกแรงไง หนึ่งคนหัวหาย สองคนเพื่อนตายนะ”
“คิก ๆ ๆ พวกเราแค่ล้อเล่นเท่านั้นฮีโร่”
“ฉันขอให้เธอโดนป้าหวังหลอกอีกหลาย ๆ ครั้งเลย”
“ไม่กลัวหลอกย่ะ”
“ยายแก่แดด อยากสูงร้อยเจ็ดสิบแปดอย่างชาร์มมิ่งเหรอจ๊ะ”
“ฮีโร่ นายเหน็บฉันใช่ไหมเนี่ย”
“อือ” ปรมัธส่งสายตาล้อเลียนเพื่อนรักพร้อมยิ้มยียวน
“หงุดหงิดโว้ย! อยากฆ่าเพื่อน” วิเวียนเบะปากใส่เพื่อนชายก่อนกระดกเหล้าเข้าปาก
ชาร์มมิ่ง แอนนาเบล เครน จิบเหล้าไปพลาง ๆ ขณะมองเพื่อนทั้งสองคนโต้คารมกันไปมาอย่างออกรสด้วยความขบขัน...
สองอาทิตย์ต่อมาวิเวียนและปรมัธก็เดินทางถึงประเทศไทย เพื่อนรักทั้งสองต่างกอดอำลากันภายในสนามบิน
“ขอให้เดินทางปลอดภัยนะวิเวียน ถึงแล้วโทรมาหาฉันด้วยนะ” ปรมัธบอกลาวิเวียนที่ต้องขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปจังหวัดสงขลา
“อือ ขอบใจนะที่อยู่เป็นเพื่อน แล้วอย่าลืมไปหาฉันบ้างนะ”
“ไม่ลืมหรอกน่า ถ้าอยากมาเที่ยวกรุงเทพก็โทรหาฉันได้นะ ฉันจะพาไปเอง”
“อือ ขอบใจนะฮีโร่ แล้วอย่าลืมช่วยพูดให้ชาร์มมิ่งสงสารฉันด้วยล่ะ”
ปรมัธคลายอ้อมแขนออกจากเพื่อนรัก “จะเศร้าหรือจะเซ็งดีเนี่ย จะจากกันอยู่แล้วยังใช้ฉันอีกนะ”
“เพื่อนมีไว้ใช้ เพื่อนมีไว้แก้เหงา เพื่อนมีไว้ปรับทุกข์ เพื่อนมีไว้ให้ยืมเงิน เพื่อนมีไว้ให้ช่วยเพื่อน และเพื่อนก็ต้องรักเพื่อน ดังนั้นคำขอของเพื่อน เพื่อนจึงไม่ควรปฏิเสธและต้องช่วยให้เต็มที่ เข้าใจไหมจ๊ะเพื่อนรัก เพื่อนคนดี๊คนดี” วิเวียนทำตาปริบ ๆ พร้อมรอยยิ้ม
“ไม่ต้องมาทำตาใสซื่อ ไปขึ้นเครื่องได้แล้ว”
“จ้ะ แล้วฉันจะโทรหานะ จุ๊บ ๆ” วิเวียนโบกมือลาแล้วเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มสุขใจ เพราะมั่นใจว่าปรมัธต้องช่วยพูดกับชาร์มมิ่งให้แน่
ปรมัธมองเพื่อนรักที่ยิ้มหน้าระรื่นเดินจากไป ‘ฉันก็รู้สึกว่าเธอกำลังจะโชคดีเหมือนกันนะวิเวียน’ เขาคิดอยู่ในใจ
“วิเวียน”
หญิงสาวหันไปมองเพื่อนรักที่ตะโกนเรียก แล้วฉีกยิ้มกว้างเมื่อเขาตะโกนกลับมาอีกครั้งว่าขอให้โชคดี เธอพยักหน้ารับแล้วโบกมือทั้งสองข้างเป็นการลา...