ผู้ถือหุ้นคนสำคัญ

1279 Words
บทที่ 8 ผู้ถือหุ้นคนสำคัญ และก็เป็นจริงอย่างที่วิโมกข์กังวล เขาและบารมีต้องบินไปและกลับระหว่างประเทศไทยกับประเทศสิงคโปร์เป็นว่าเล่นในช่วงสองเดือนแรกหลังจากงานศพหลุยส์ เพื่อชี้แจงเรื่องหุ้นที่ได้รับโอนจากคนตาย และวันนี้พวกเขากลับมาเพื่อเข้าประชุมในฐานะผู้ถือหุ้น ร่วมกับผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ท่ามกลางสายตากังขาของทุกคน “ทำไมเขามองเราแบบนั้นวะ” บารมีกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันสองคน “ก็อยู่ดี ๆ มึงกับกูกลายเป็นผู้ถือหุ้นคนสำคัญขึ้นมาน่ะสิ” วิโมกข์คุยภาษาไทยโทนเสียงปกติ ห้านาทีต่อมาการประชุมก็เริ่มต้นขึ้น แต่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นที่หน้าประตู และมันก็ถูกเปิดออกด้วยมือของผู้ที่บุกรุกเข้ามา “อะไรกันนี่ เธอเข้ามาได้อย่างไร ที่นี่ห้องประชุมนะ ไม่ใช่บ่อนที่เธอจะเดินเข้าออกได้ตามใจ” บิดาของหลุยส์ เซียะ ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุมเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นลูกสะใภ้นอกคอกบุกเข้ามา “นึกว่าหนูอยากจะมานักเหรอคะคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อยอมตกลงกับหนูดี ๆ ตั้งแต่แรก หนูคงไม่ทำถึงขนาดนี้หรอกค่ะ” “ฉันไม่มีอะไรต้องตกลงกับเธอ กลับไปซะ” “แต่หนูมี ถ้าวันนี้หนูไม่ได้หุ้นของสามีหนู หนูจะไม่ยอมออกจากห้องนี้เด็ดขาด” มีนาโต้กลับเสียงกร้าว วิโมกข์มองหญิงสาวอดีตคนรักด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย ไม่ใช่เพราะยังอาลัยรักในตัวเธอ แต่เพราะสมเพชต่อการกระทำของเธอมากกว่า เธอไม่ได้ทำตัวเป็นลูกสะใภ้ที่ดี หรือแม้แต่เมียและแม่ที่ดีของลูก แต่กล้ามาเสนอหน้าเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นเมียเพื่อขอแบ่งสมบัติ ไร้ยางอายจริง ๆ “เธอนี่หน้าไม่อายจริง ๆ นะมีนา ตั้งแต่วันที่ลูกชายฉันประสบอุบัติเหตุ จนถึงวันที่ต้องถูกฝังลงในหลุม รวมเป็นเวลาเจ็ดวัน เจ็ดวันนั้นฉันไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ แต่อีกเจ็ดวันหลังจากนั้นเธอก็ปรากฏตัวขึ้น และไม่เสียใจสักนิดเมื่อรู้ว่าสามีตาย พอตกเย็นเธอก็หายออกไปจากบ้านอีก ไม่สนใจไยดีลูกชายของเธอเลย เธอกลับมาอีกทีหลังนั้นอีกสามวัน แล้วก็เริ่มมาก่อกวนฉัน สุดท้ายฉันทนไม่ไหวฉันก็ยอมจ่ายให้เธอสิบล้านตามที่ขอ เพราะเห็นแก่หลานตาดำ ๆ แล้วตอนนี้เธอยังมีหน้ากลับมาขอส่วนแบ่งหุ้นอีกเหรอ.. ฉันไม่มีให้เธอหรอกนะมีนา” บิดาของหลุยส์ เซียะ ไม่ยอมใจอ่อนอีก นอกจากเงินที่เขาให้ไปแล้ว เธอยังได้บ้านในเมืองไทยและเงินเก็บส่วนตัวของลูกชายเขาทั้งหมด มันมากเกินพอแล้วสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ “วันนี้หนูไม่ได้มาขอเศษเงินจากคุณพ่อนะคะ แต่หนูจะมาเอาหุ้นที่เป็นของสามีหนูต่างหาก” “หุ้นของสามีเธอไม่มีแล้วมีนา สามีเธอขายหุ้นให้คนอื่นไปหมดแล้ว” “ถ้าเขาขายหุ้นไปแล้ว แล้วเงินอยู่ที่ไหนล่ะคะ เอาเงินของสามีหนูมาให้หนูสิคะ” “ไม่ใช่ว่าเธอเอาเงินไปผลาญในบ่อนหมดแล้วเหรอมีนา” บิดาของหลุยส์ เซียะ มองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียดหยาม เธอผลาญเงินของลูกชายเขาจนหมด แล้วกล้ามาตีหน้าซื่อทวงหุ้นอีกเหรอ “กลับไปซะ ก่อนที่ฉันจะเรียกยามมาลากเธอออกไป” “คุณพ่อโกหก หุ้นของสามีหนูยังอยู่ แต่คุณพ่อไม่อยากให้หนูใช่ไหมคะ” มีนาไม่เชื่อคำพูดของพ่อสามี “ฉันไม่จำเป็นต้องพูดโกหกกับคนอย่างเธอ หุ้นของสามีเธอตกเป็นของเขาสองคนนั้นแล้ว ถ้าอยากได้นักก็ไปทวงกับพวกเขาเอาเอง” บิดาหลุยส์เองก็ยังเคืองลูกชายไม่หายที่แอบขายหุ้นให้เพื่อน มีนาหันไปมองตามนิ้วมือของพ่อสามี แล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “โมกข์ ทศ พวกคุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” พ่อของหลุยส์ เซียะ ไม่แปลกใจที่หญิงสาวจะรู้จักชายหนุ่มชาวไทยสองคนนั้น เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทของลูกชายและติดต่อธุรกิจกันอยู่ พวกเขาคงเคยเจอกัน วิโมกข์ลุกจากที่นั่งแล้วเดินออกไปจากห้องประชุมทันทีเมื่อถูกพาดพิงถึง “เราจะมาประชุมใหม่โอกาสหน้านะครับท่านประธาน ลาก่อนครับ” บารมีบอกกับบิดาของหลุยส์ เซียะ แล้วรีบตามเพื่อนออกไปอีกคน “ดูเหมือนเพื่อนของลูกชายฉันเขาจะเกลียดเธอมากเลยนะ” “คุณพ่อบอกว่าสองคนนั้นซื้อหุ้นของหลุยส์ไปเหรอคะ” มีนาไม่สนใจกับคำพูดแดกดันของพ่อสามี แต่ต้องการคำยืนยันจากเขามากกว่า “ใช่ ไปทวงเอากับเขาสิ ขอซื้อคืนจากเขาด้วยเงินที่เธอมีอยู่ บางทีเขาอาจจะยอมขายคืนให้เธอก็ได้” บิดาของหลุยส์ เซียะ ยังคงปักใจเชื่อว่าเธอได้รับเงินจากการขายหุ้นทั้งหมดไป ถึงแม้เธอจะเอาไปเล่นพนันแต่มันก็ต้องมีเหลือพอที่จะซื้อคืนมาได้สักครึ่งหนึ่ง “หนูจะไปทวงคืนจากเขาเองค่ะ” มีนาเริ่มเอะใจกับอะไรบางอย่าง รีบตามพวกเขาออกไป “ไปไหนแล้วนะ” เธอเริ่มตามหาเขาทั่วทั้งบริษัทแต่ก็ไร้วี่แวว วิโมกข์และบารมีถูกเรียกให้เข้าประชุมผู้ถือหุ้นอีกบ่อยครั้ง ในช่วงสองเดือนแรกของการเป็นผู้ถือหุ้นอย่างเป็นทางการ แต่การไปแต่ละครั้งเขาก็พบกับมีนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอไม่ได้เข้าไปแสดงสิทธิ์ในการเป็นภรรยาของหลุยส์ เซียะ เหมือนครั้งแรกที่เจอกัน แต่เธอจะมาดักรอพวกเขาสองคนโดยเฉพาะ และคนที่ต้องรับหน้ากับเธอก็คือบารมีเพียงคนเดียว “ไอ้โมกข์มึงอย่าทิ้งกูนะ” บารมีรีบดึงแขนเพื่อนรักเอาไว้เมื่อมองเห็นมีนาแต่ไกล “กูไม่ต้องการเสวนากับเขา มึงจัดการไปก็แล้วกัน” วิโมกข์ชักแขนออกแล้วทำท่าจะเดินหนี แต่ก็ถูกเพื่อนรักรั้งเอาไว้สุดแรง “ถ้ามึงให้กูคุยกับมีนาแบบนี้ สักวันกูต้องหลุดปากบอกความจริงเธอไปแน่ๆ กูเคยบอกมึงแล้วไงว่าเธอสงสัยเราสองคนเรื่องหุ้น เธอซักกูยิ่งกว่าซักผ้าขี้ริ้วอีกนะมึง” “มึงก็อย่าเผลอบอกเขาไปก็แล้วกัน ไม่งั้นกูจะตัดลิ้นมึงทิ้ง ปล่อยกูไอ้ทศ” วิโมกข์ขู่แล้วพยายามสะบัดแขนหนีให้พ้น เมื่อเห็นภรรยาของเพื่อนเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “ทำไมต้องหลบหน้ามีนด้วยล่ะโมกข์” สุดท้ายเขาก็หนีเธอไม่พ้น แต่เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ “ไงมีน เจอกันอีกแล้วนะ” บารมีกล่าวทักทาย ไม่ยอมปล่อยแขนเพื่อนรักเพราะกลัวเขาจะชิ่งหนีไป “สวัสดีโมกข์” มีนาทักทายอดีตคนรักที่เมินหน้าหนีไปทางอื่น ไม่ยอมกล่าวแม้คำทักทายกับตน “เราต้องรีบไปประชุม ขอตัวนะมีน” บารมีเอ่ยขึ้นแล้วดันวิโมกข์ให้เดินนำหน้า “แล้วเรื่องหุ้นจะว่ายังไง” มีนาตั้งคำถามตามหลังคนที่พยายามจะเดินหนี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD