เอาหุ้นสามีฉันคืนมา

1209 Words
บทที่ 9 เอาหุ้นสามีฉันคืนมา บารมีจับแขนเพื่อนรักแล้วหยุดเดิน หันไปทางหญิงสาวด้วยท่าทางใสซื่อ “ทำไมเหรอมีน คุณอยากจะขอซื้อคืนจากเราใช่ไหม” “ทำไมมีนต้องซื้อด้วยล่ะ ในเมื่อหลุยส์เขาไม่ได้ขายให้พวกคุณนี่” มีนาสังเกตท่าทีของชายหนุ่มทั้งสองเมื่อพูดจบ แน่นอนว่าบารมีทำหน้าแปลก ๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่กับอดีตคนรักไม่มีแววหวั่นไหวแม้แต่น้อย “โอนหุ้นคืนมาให้มีน มีนรู้นะว่าหลุยส์แค่โอนหุ้นให้พวกคุณสองคนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เขาดันมาตายเสียก่อน พวกคุณก็เลยจะฮุบมันเอาไว้เอง” สามีที่ทุ่มเทกับบริษัทมีหรือที่จะยอมลาออกอย่างง่ายดาย เขาต้องดีดลูกคิดลูกรางเอาไว้เรียบร้อยแล้วก่อนที่จะทำแบบนั้น “ทำไมถึงมากล่าวหากันอย่างนี้ล่ะ คุณกำลังเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วมีน” บารมีทำเป็นเครียด “มีหลักฐานหรือเปล่า ถ้ามีก็เอามายันกัน แต่ถ้าไม่มีก็อย่ามาให้เห็นหน้าอีก” วิโมกข์พูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วเดินจากไปทันที “ฉันไม่ยอมให้เรื่องมันจบง่าย ๆ แบบนี้หรอก ถึงแม้คนอื่นจะคิดว่าฉันได้เงินนั้นมา แต่ฉันรู้ดีที่สุดว่าเงินนั้นไม่ได้มาถึงฉัน และหลุยส์ก็ยังไม่ได้รับเงินด้วยเช่นกัน” มีนาเดินเข้าไปหาวิโมกข์ที่ยืนนิ่งอยู่กับที่อีกครั้ง “ถ้าคุณสองคนไม่ได้คิดจะโกงเขา ก็แสดงว่าต้องวางแผนอะไรกันไว้ ฉันจะต้องรู้ให้ได้” “อย่าทำตัวสู่รู้ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย” วิโมกข์กล่าวด้วยท่าทางขึงขัง ใช้สองนิ้วดันเธอให้พ้นทางแล้วเดินจากไป “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกนะมีน เลิกตอแยพวกเราเถอะ” บารมีกล่าวทิ้งท้ายแล้วรีบเดินตามเพื่อนไป สามเดือนต่อมา เจ๊หวังเดินหน้าตาตื่นเข้ามาในบ่ออนุบาลหอยเป๋าฮื้อ แล้วถามหาคุณหนูของนางด้วยเสียงเหนื่อยหอบ นางรู้สึกเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน แต่ก็ไม่อยากพักจนกว่าจะได้เจอเขา “นายหัวอยู่ที่บ่อพักครับคุณแม่บ้าน” เด็กหนุ่มที่กำลังให้สาหร่ายผมนางเป็นอาหารแก่หอยเป๋าฮื้อ บอกกับแม่บ้านชาวฮ่องกงที่พูดไทยสำเนียงจีน “ลื้อขี่รถเครื่องไปตามคุณหนูให้อั๊วทีเถอะ อั๊วเดินไม่ไหวแล้ว อั๊วจะรออยู่ที่นี่แหละ บอกให้ท่านมาพบอั๊วเร็ว ๆ นะ” เจ๊หวังใช้เด็กหนุ่มต่ออีกทอดเพราะบ่อพักอยู่ไกลจากตรงนี้มาก “ทำไมคุณแม่บ้านไม่โทรศัพท์หาท่านล่ะครับ” “อั๊วโทรแล้ว แต่ท่านลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านนี่ไง” ยกโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายดู “ก็แล้วทำไมไม่ลองโทรเข้าเครื่องหัวหน้าล่ะครับ” เด็กหนุ่มถามต่อด้วยความสงสัย “อั๊วก็ลืมนึกถึงอำนาจไปเลย” เจ๊หวังลืมนึกถึงผู้ช่วยของวิโมกข์ไปสนิทใจ “ลื้อเลิกสงสัยสักทีเถอะ รีบไปตามคุณหนูให้อั๊วได้แล้ว” ทำท่าขึงขังใส่เด็กหนุ่มขี้สงสัย เด็กหนุ่มนามว่าศรรามวางสาหร่ายลงในตะกร้า ล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดหาเบอร์แล้วโทรออก “พ่อ.. นายหัวอยู่กับพ่อไหม.. พ่อเดินไปบอกท่านทีว่าคุณแม่บ้านให้มาพบด่วน ที่บ่อเลี้ยงบล็อกที่สามสิบนี่นะ ด่วนมาก ๆ เลยนะพ่อ.. ครับผม” ศรรามกดวางสายเมื่อคุยเสร็จแล้วหันไปส่งยิ้มให้คุณแม่บ้าน “ผมตามให้แล้วครับ นั่งรอใจเย็น ๆ ก่อนนะครับคุณแม่บ้าน” คงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากจริง ๆ ป้าแกถึงร้อนรนจนลืม “ขอบใจลื้อมากนะศรราม” เจ๊หวังแกล้งชักสีหน้าไม่พอใจใส่เด็กหนุ่มจอมทะเล้นแต่แสนฉลาด “แล้ววันนี้ลื้อไม่ไปเรียนหนังสือเหรอ” “มอปิดสามวันเพราะอาจารย์ไปสัมมนาครับคุณแม่บ้าน” “มออะไรวะ ลื้อเรียนมหาวิทยาลัยแล้วไม่ใช่เหรอ” เจ๊หวังสงสัย เพราะจำได้ว่าจำเนียรซึ่งเป็นแม่ของเด็กหนุ่มเคยพูดถึงลูกชายให้ฟัง “มอย่อมาจากมหาวิทยาลัยครับคุณแม่บ้าน มันเรียกง่ายดี” “อ๋อ อั๊วจะได้จำไว้ แล้วเจ้าปริญญาอีกคนล่ะ อีก็เรียนที่เดียวกับลื้อใช่ไหม” นางถามถึงลูกชายของอำนวย ผู้ช่วยอีกคนหนึ่งของวิโมกข์ “ไอ้ยามันก็เรียนคณะเดียวกับผมนี่แหละครับคุณแม่บ้าน ตอนนี้มันน่าจะอยู่ที่โรงรีดกับพ่อมัน” เขาหมายถึงโรงงานแปรรูปน้ำยางพาราให้กลายเป็นยางแผ่น “ตั้งใจเรียนกันให้มาก ๆ นะ คุณหนูท่านให้ความเมตตาส่งเสียพวกลื้อเรียน ลื้อก็ต้องตั้งใจเรียนให้เต็มที่ อย่าลืมบุญคุณของท่านด้วยล่ะ” เจ๊หวังถือโอกาสสั่งสอนเด็กหนุ่มวัยยี่สิบปีที่ตัวเองคุ้นเคยมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ “ครับคุณแม่บ้าน ผมกับไอ้ยาตั้งใจไว้แล้วว่าจะมาช่วยนายหัวทำงานเมื่อเรียนจบ คุณแม่บ้านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” ศรรามตอบรับด้วยท่าทางจริงจังผิดจากเดิม “ได้ยินแบบนี้อั๊วก็สบายใจ ต่อไปถ้าอั๊วไม่อยู่สักคน ก็ยังมีพวกลื้อคอยช่วยงานคุณหนูของอั๊ว” “คุณแม่บ้านอย่าเพิ่งไปไหนเลยครับ คุณหนูของคุณแม่บ้านมาแล้วครับนั่น” ชายหนุ่มทำเป็นไม่เข้าใจความหมายของแม่บ้าน แล้วชี้ไปยังเจ้านายหนุ่มสุดเท่ที่กำลังฮ่อมอเตอร์ไซค์มาทางนี้ เจ๊หวังหันไปมองตามทางที่ศรรามชี้ มองคุณหนูของตนขี่มอเตอร์ไซค์มาตามทางเล็ก ๆ ก็รีบหลบทางให้ “มีอะไรด่วนเหรอครับป้า” วิโมกข์ถามโดยไม่ยอมลงจากรถ “มีสิคะคุณหนู คุณหนูรีบกลับไปดูที่บ้านเองเถอะค่ะ” เจ๊หวังไม่ยอมบอกเพราะอยากให้เขาไปเห็นด้วยตาตัวเองมากกว่า หัวคิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากัน แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย มันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ นางถึงตัดสินใจเองไม่ได้แบบนี้ “ใครมาขอเงินอีกเหรอครับป้า” เขาเดาสุ่ม นึกถึงบรรดาเมียเล็กเมียน้อยของบิดาที่ชอบตีหน้าเศร้ามาขอเงินลงทุน “ไม่ใช่หรอกค่ะคุณหนู อีนางพวกนั้นหวังจัดการเองได้ค่ะ แต่คนนี้หวังจัดการยากจริง ๆ ค่ะ คุณหนูไปดูเองเถอะค่ะ รีบ ๆ ไปสิคะ” “ก็ได้ครับ ขึ้นรถสิครับป้า” เขาเรียกนางให้ขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ เขยิบก้นไปข้างหน้าเพื่อให้มีที่ว่างเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อย เจ๊หวังไม่ได้อยากจะขึ้นซ้อนท้ายรถเครื่องคันเล็กนี้สักนิด แต่เพราะความเร่งรีบทำให้นางตัดใจก้าวขาขึ้นไปนั่งคร่อมแล้วกอดเอวคุณหนูเอาไว้แน่น “ผมจะไปแล้วนะ กอดแน่น ๆ นะครับ ระวังมอเตอร์ไซค์ทำหล่นนะครับ” เขาแซวแล้วค่อย ๆ บิดคันเร่งขี่ออกไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD