- ณ โรงพยาบาลชื่อดังxx -
ร่างบางระหงในชุดเดรสสวยเข้ารูปเดินเข้ามาในโรงพยาบาลหรูที่ทำงานของแฟนปลอมๆอย่างคุณหมอบาสเตียน ดึงดูดสายตาผู้คนบริเวณนั้นหันมองตามได้ไม่ยาก เพราะออร่าความสวยที่ปิดไม่มิดภายใต้แว่นกันแดดสีดำอันใหญ่
วันนี้เธอตั้งใจมาเซอร์เวย์ที่ทำงานของหมอลูกครึ่ง โดยใช้ข้ออ้างไปทานมื้อเที้ยงด้วยกันตามหน้าที่แฟนปลอมๆ
ถามว่าเธอซีเรียสเรื่องข่าวที่ตัวเองมีแฟนรึเปล่า ถ้ามันไม่มีผลกระทบกับการทำงานของตัวเธอ ละออก็ไม่แคร์อยู่ จะเล่นแบบไหนตามใจนักข่าวเลยจ้ะ อีกอย่างทั้งแฟนคลับ-คนสนิทต่างก็เชียร์ให้เธอมีแฟนทั้งนั้น
"ฮัลโหล ตอนนี้คุณพักแล้วยังคะ?"
เสียงหวานเอ่ยถามปลายสายเมื่ออีกฝ่ายกดรับ
[อืม มีอะไร?]
"ฉันมาชวนคุณไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันค่ะ"
[อยู่ไหนแล้ว?]
"ข้างล่างค่ะ"
[เดียวลงไป รออยู่นั้นแหละ]
"รับทราบค่ะ"
หลังจากวางสายเธอก็ยืนรอเขาอยู่ประมาณห้า-หกนาที ก่อนที่อีกคนจะเดินลงมาในชุดที่พร้อมออกไปข้าง แต่บรรยากาศรอบข้างเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อชายหนุ่มเดินมาถึง
เธอรับรู้ได้ถึงสายตาที่กำลังมองมาด้วยความสนใจมากผิดปกติ ดูเหมือนหมอลูกครึ่งจะฮอตไม่น้อย
"หิวแล้ว ไปกันเลยมั้ยคะ?"
ละออเอ่ยก่อนจะหมุนตัวเดินนำเขาออกไป
แต่กลับถูกร่างสูงตรงมาจับมือไว้อย่างเร็ว เธอตกใจเกือบชักมือออก แต่อีกฝ่ายกลับเหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้าง
"คนอื่นมองอยู่"
ปากหนาหยักดุใส่
พอดาราสาวมองไปรอบๆก็เห็นเป็นจริงตามนั้น เธอจึงปล่อยไปให้อีกฝ่ายเดินจูงออกไป
แต่เมื่อเราเดินได้ไม่กี่ก้าวก็มีเสียงผู้ชายทักขึ้น
"คุณหมอบาสเตียน"
เสียงนั้นทำให้เราสองคนหันกลับไปมอง ก่อนเจอชายหนุ่มหน้าหวานสวมเสื้อกาวน์เดินตรงมาที่เราสองคน
แวบหนึ่งละออเห็นสายตาผู้ชายคนนั้นมองมือที่จับไว้ไม่วางตา
"วันนี้คุณหมอจะไปทานข้าวข้างนอกหรอครับ?"
สายตาของหมอหนุ่มหน้าหวานที่มาใหม่จับจ้องเพียงผู้ชายข้างตัวเธอ ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินแปลกๆ
"อืม"
"เอ่อ ..แล้วไม่ทราบว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเป็นน้องสาวรึเปล่าครับ?"
หมอหนุ่มหน้าหวานเอ่ยพร้อมหันมองเธอ สายตาเต็มไปด้วยความอยากรู้แต่ไม่อยากเสียมารยาท
"เปล่า นี้แฟนผม"
"แฟน?!!"
คุณหมอหน้าหวานที่ได้ยินถึงกับตกใจก่อนมองเธออย่างไม่เชื่อสายตา ร่างบางมีความคิดจะแนะนำตัวแต่กลับถูกหมอลูกครึ่งตัดบทสนทนาดื้อๆ
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว พอดีจะพาแฟนไปทานข้าวเที่ยง"
แล้วเขาก็พาเธอเดินออกมาอย่างเร็ว จนเธอจะวิ่งแทนเดินแล้วเพราะอีกฝ่ายขายาวและก้าวเร็วมาก
"คุณบาสเตียน! เดินช้าๆหน่อยสิค่ะ ฉันเหนื่อยนะคุณ!!"
เธอตัดสินใจสะบัดมือหนาออกอย่างเหลืออด เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ฟังในสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด ก่อนยืนหอบเหนื่อยราวกับคนวิ่งทางไกลมา
"หัดออกกำลังกายบ้างนะ"
ดาราสาวถึงกับยืนเท้าเอวมองหน้าหมอลูกครึ่งอย่างหาเรื่อง ถ้าเธอไม่ออกกำลังกายจะมีหุ่นสวยเซ็กซี่แบบนี้มั้ย พูดอะไรไม่คิด
"คุณนั้นแหละ! ผีเข้ารึไง? จะรีบเดินไปไหน?? ...ฉันหายใจไม่ทันแล้วเนี้ย"
หมอลูกครึ่งทำเพียงส่ายหน้า ก่อนเดินนำไปที่รถของเธอเพื่อไปทานข้าวเที่ยงตามกำหนด ร่างบางที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ขบเขี้ยวฟันอย่างหงุดหงิด ก่อนเดินไปนั่งข้างคนขับ
ถึงจะรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้าเป็นครั้งคราว แต่เธอก็เลือกจะปล่อยผ่านเพราะยังทนได้
เมื่อเธอเข้ามานั่งฝั่งข้างคนขับ ดาราสาวเหลือบมองคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจ
"คุณไม่พอใจอะไรรึเปล่าคะ คุณบาสเตียน?"
ร่างบางเอ่ยถามคนที่คุมพวงมาลัยอย่างต้องการคำตอบ
ร่างสูงทำเพียงมองเธอนิ่งๆก่อนเปลี่ยนเรื่องคุย
"จะกินอะไร?"
ดวงตาสวยมองบนอย่างเอือมระอา ในเมื่อเขาไม่อยากพูดเธอก็จะไม่เซ้าซี้ แต่ต้องบอกว่าเธอไม่โอเคมากๆที่เขาทำแบบนี้
....
ตลอดทางที่กลับมาหลังทานข้าวเสร็จเราสองคนแทบไม่คุยอะไรเลย จริงๆคือไม่ได้คุยกันตั้งแต่ที่เกิดเรื่องแล้ว ในเมื่อเขาเลือกจะตีมึนใส่เธอก็แค่นิ่งกลับ
"มีนัดไปไหนไหม?"
"ไม่ค่ะ"
พูดจบรถก็เปลี่ยนทิศไปอีกทางที่ไม่ใช่เส้นทางกลับโรงพยาบาล ดาราสาวที่เห็นแบบนั้นหันมองร่างสูงด้วยความตกใจ
"นี้คุณจะพาไปไหนคะ!?"
หมอลูกครึ่งทำเพียงขับต่อไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งตกแต่งสไตล์มินิมอลน่ารัก และจุดประสงค์ที่เขาพาเธอมาที่ร้านนี้เพื่อมากินของหวาน
แต่ร่างบางก็ต้องแปลกใจเมื่อเขาสั่งแต่ของหวานที่เธอชอบ! รู้ถึงขนาดที่ว่าเธอชอบดื่มน้ำอะไร และระดับหวานประมาณไหน!
"คุณรู้ได้ไงว่าฉันชอบดื่มชาเขียวใส่ถั่งแดง?"
ร่างบางอดไม่ได้ที่จะถาม ในขณะที่มือและปากยังคงตักของหวานลงกระเพาะด้วยความเอร็ดอร่อย
"หายโกรธแล้ว?"
"ช่วยตอบคำถามฉันก่อนได้มั้ยคะ"
และคุณควรสนใจในสิ่งที่คนอื่นพูดบ้าง"
หญิงสาวเอ่ยอย่างเหลืออด ทำคนที่นั่งมองเผลอยิ้มอย่างลืมตัว
"มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าฉันอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเธอ"
ดาราสาวถึงกับกรอกตามองบน เมื่อเห็นท่าทางคนที่สามารถเสกทุกอย่างเพียงแค่ชี้นิ้ว
"หายโกรธแล้วใช่มั้ย?"
"คุณคิดว่าเอาของหวานมาล่อ แล้วฉันจะหายโกรธงั้นหรอ?"
"สรุป"
"คุณคิดถูกค่ะ ฉันหายโกรธ"
หมอลูกครึ่งยิ้มพอใจ ขณะที่มองหญิงสาวทานของหวานตรงหน้า
เขายังจำได้ดีเมื่อตอนเด็กที่อีกฝ่ายโกรธเขาจะต้องรีบหาของหวานมาง้อเธอทันที ยิ่งเป็นไอศกรีมชาเขียวร่างบางจะชอบมาก
"แล้วเมื่อกี้คุณเป็นอะไร? ทำไมต้องรีบลากฉันออกมาขนาดนั้น คุณกับหมอคนนั้นไม่ถูกกันหรอ??"
หญิงสาวเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจ เพราะท่าทางเหมือนเขาไม่อยากให้เธอรู้จักกับฝ่ายนั้นสักเท่าไหร่
"ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับเธอ"
ดาราสาวที่กำลังตักของหวานเข้าปากถึงกับชะงัก เมื่ออีกฝ่ายพูดเหมือนหวงเธอ
"ฉันยังจำข้อตกลงของเราได้คุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ถึงเราจะเป็นแฟนกันปลอมๆ แต่ฉันก็จะให้เกียรติคุณไม่มีเรื่องมือที่สามแน่นอน"
หมอลูกครึ่งถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่คิดกับเขาในทางชู้สาวเลยสักนิด แอบคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะปล่อยให้เธอทำงานมากเกินไปรึเปล่า ความรู้สึกถึงได้ช้าแบบนี้
"เฮ้ย~"
ดาราสาวมองหมอลูกครึ่งถอนหายใจอย่างงงๆ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ตั้งหน้าตั้งตาทานของหวานต่อ
....
หลังจากทานของหวานเสร็จ ดาราสาวจึงจะไปส่งหมอลูกครึ่งที่โรงพยาบาล แต่ทันทีที่เธอลุกขึ้นยืน ความเจ็บแปลบตรงข้อเท้าก็จี๊ดขึ้นต้นขา ส่งผลให้เสียการทรงตัวเกือบล้มหน้าคะมำ แต่โชคดีที่ได้หมอลูกครึ่งรับไว้ทัน
แขนแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามกำลังโอบเอวบางไว้อย่างแผ่วเบา ในขณะที่ดวงตาทั้งสองเผลอสบกันราวกับต้องมนต์ ส่งผลให้หัวใจหญิงสาวเต้นผิดจังหวะจนน่าตกใต
"เป็นอะไร?"
ดาราสาวได้สติเมื่อชายหนุ่มเอ่ยถาม ในขณะที่อีกฝ่ายค่อยๆพยุงเธอให้นั่งเก้าอี้อย่างเบามือ
"รู้สึกเจ็บข้อเท้านิดหน่อยค่ะ"
หมอลูกครึ่งนั่งคุกเข่าลงทันทีพร้อมจับขาเรียวสวยขึ้นมาดูอาการที่ข้อเท้า ปรากฏว่ามันแดงช้ำและบวมเล็กน้อย ซึ่งนี้เป็นอาการของข้อเท้าแผลง
"ทำไมถึงไม่รีบบอก ปล่อยให้บวมแบบนี้ได้ไง"
คำพูดเชิงตำหนิพร้อมมองดุใส่เธอ
"ก็มันเป็นเพราะใครล่ะ ที่ลากฉันออกมาแบบนั้น"
ละออพูดสวนขึ้นหมายจะแก้ตัวให้ตัวเองและโยนความผิดให้ร่างสูง แต่กับโดนมองค้อนใส่ทำให้ต้องเงียบปากอันโนมัติ
---ツ---