บทนำ
ยามเมื่อสายลมแห่งรัตติกาลพัดผ่านม่านหน้าต่างสีแดงเพลิงพลันพลิ้วไหว เสียงดนตรีบรรเลงดังก้องสอดประสานกับเสียงสนทนา
หากแต่เมื่อเทียบกับเสียงหัวใจที่กำลังเต้นระรัวในอก หลี่เหิงเย่ว กลับรู้สึกว่าเสียงภายนอกเหล่านั้นช่างเบาบางนัก สองอุ้งมือของนางชื้นไปด้วยเหงื่อที่ผุดขึ้นด้วยความตื่นเต้นยินดี ริมฝีปากสีชาดเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ดวงตากลมโตจ้องมองผ่านผ้าคลุมหน้าลายนกหยวนหยางอย่างรอคอย ยิ่งคิดถึงคำกล่าวที่ว่า คืนเข้าหอมีค่าดุจทองพันชั่ง ในหัวพลันผุดภาพวาดที่แม่สื่อนำมาให้นางเรียนรู้จนสองแก้มร้อนผ่าว
ในขณะที่หลี่เหิงเย่วกำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ความคิด เสียงประตูเรือนหอก็เปิดออก ไหล่บางสั่นสะท้านเบาๆ ด้วยความตื่นตระหนก ในใจสั่นระรัวเมื่อคิดจินตนาการถึงเหตุการณ์ต่อจากนี้ ใบหน้างามก้มหน้าหลบสายตามองพื้นเรือนด้วยความเขินอาย ยามที่มองเห็นปลายรองเท้าปักสีแดงสดมาหยุดยืนเบื้องหน้า หัวใจของนางก็เต้นระรัวเป็นทบทวีคูณ
“พระชายา รอข้านานหรือไม่”
น้ำเสียงเอ่ยถามด้วยความอ่อนโยน ทำให้หลี่เหิงเยว่ใจสั่นสะท้านจนแทบหยุดเต้น ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้าง เอ่ยตอบเสียงแผ่วเบาสั่นเครือด้วยความเขินอาย
“มะ...ไม่เพคะ”
สองมือบางกำกระโปรงเจ้าสาวแน่น ยามที่ผ้าคลุมหน้าถูกเปิดออกดวงตาหวานก็ช้อนมองบุรุษตรงหน้าด้วยใจที่สั่นระรัว องค์รัชทายาทฟ่งเฟยเทียน บุรุษที่หญิงสาวทั่วแคว้นต้าเจิ้งปรารถนาเคียงคู่ ทว่าเวลานี้เขาคือบุรุษของนาง ของนางเพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ว่าใครนางก็ไม่คิดแบ่งปัน
ร่างสูงโปร่งค่อยๆ ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างกายพระชายาสาว ก่อนจะใช้มือหนาเชยคาง ขยับใบหน้าคมโน้มลงมาแนบชิด เอ่ยเสียงแหบพร่าแผ่วเบา
“หลี่เหิงเย่ว...ข้ารอวันนี้มานานเหลือเกิน”
น้ำเสียงทุ้มหนักแน่น หากแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นทำให้หัวใจของหลี่เหิงเย่วเกิดความรู้สึกหวงแหน เอ่ยเสียงหวานเรียกขานพระสวามีของตนอย่างโง่งม
“อะ...องค์รัชทายาท”
ริมฝีปากขององค์รัชทายาทฟ่งเฟยเทียนยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมจดจ้องแววตาหวานตรงหน้านิ่ง ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือจากคางมนหันไปหยิบสุรามงคลยื่นส่งให้นาง หลี่เหิงเยว่ค้อมศีรษะอย่างเขินอายแล้วรับจอกสุรามงคลมาดื่มด้วยท่าทางอ่อนช้อยตามลักษณะคุณหนูสูงศักดิ์
ยามที่สุรามงคลไหลผ่านลำคอ ดวงตาหวานก็เปล่งประกายยินดี นับจากนี้นางคือพระชายาขององค์รัชทายาทฟ่งเฟยเทียน คือนายหญิงแห่งตำหนักบูรพา คือว่าที่พระมารดาของแผ่นดินต้าเจิ้ง สตรีทั่วแคว้นจะต้องอิจฉาริษยาในวาสนาของนาง แต่ทำได้เพียงยิ้มและนอบน้อมต่อนาง
เพียงแต่ขณะที่ในใจกำลังฮึกเหิมยินดี หลี่เหิงเย่วกลับรู้สึกแสบร้อนไปทั้งร่างราวกับในกายมีไฟใต้โลกันตร์กำลังแผดเผา
มือบางจับแขนแกร่งของผู้เป็นสวามี หากแต่ยามที่หมายใจจะเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ในลำคอกลับคล้ายถูกบีบรัดจนลมหายใจ
ติดขัด ทั่วทั้งใบหน้าโชกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เจ็บปวดจนไม่อาจทรงตัวนั่งบนเตียง ทรุดกายลงไปกองกับพื้นเรือนหอ
หลี่เหิงเย่วขยับมือจับชายชุดขององค์รัชทายาทฟ่งเฟยเทียน พร้อมกับเงยหน้าส่งสายตาอ้อนวอน ทว่ายามที่สบดวงตาคมของผู้เป็นสวามี กลับพบเพียงแววตาเย้ยหยันไร้ความกังวล นางขมวดคิ้วเรียวไม่เข้าใจว่าเหตุใดสายตาที่รักใคร่หลงใหลนางมาตลอด ยามนี้กลับดูเยือกเย็นดุจน้ำแข็งกลางทะเลสาบ
“เจ็บปวดมากหรือไม่”
องค์รัชทายาทฟ่งเฟยเทียนโน้มตัวลงเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบา หากแต่กลับเยือกเย็น ในแววตาคมปรากฏความเย็นชาโหดเหี้ยมฉายชัด มือหนาจับสองแก้มของนางบีบเคล้นราวกับจะบดกระดูกของนางให้หักคามือ
“หลี่เหิงเย่ว เจ้าควรรู้ไว้ว่า อวี้หลันคือหัวใจของข้า เจ้ากล้าแตะต้องนาง ข้าย่อมไม่ปล่อยเจ้าไปโดยง่าย”
ดวงตาของหลี่เหิงเย่วฉายชัดถึงความหวาดกลัว ที่แท้คนตรงหน้ารู้มาโดยตลอดว่านางเป็นคนวางแผนสังหารหวังอวี้หลัน ใบหน้างามส่ายหน้าไปมา สองมือจับข้อเท้าของเขาเงยหน้าส่งสายตาร้องขออ้อนวอน
หากแต่ยิ่งเห็นนางทุกข์ทรมานในสายตาขององค์รัชทายาท
ฟ่งเฟยเทียนกลับยิ่งมีความยินดี หลี่เหิงเย่วร่ำร้องอย่างไร้ซุ่มเสียงสองมือสั่นสะท้าน หยาดน้ำตาแปรเปลี่ยนเป็นสีโลหิต ร่างกายเจ็บปวดจนมิอาจทานทน หลังจากที่ดิ้นรนอยู่กับความทรมานแสนสาหัสอยู่ร่วมหนึ่งเค่อ นางก็กระอักโลหิตออกมา พร้อมกับลมหายใจที่ขาดหายไปแทบเท้าพระสวามีของตนในเรือนหอ
แม้ข้าจะตาย ข้าก็ตายภายใต้ตำแหน่งพระชายาเอกในองค์รัชทายาท เป็นสตรีที่ทุกคนอิจฉาที่สุด
อ่านถึงบรรทัดนี้ หวังเฟยเฟิ่ง ก็ปิดหนังสือในมือลงทันที นางร้ายหลี่เหิงเย่วผู้นี้เป็นถึงบุตรีเสนาบดีใหญ่ หน้าตางดงามเป็นหนึ่งใน
ห้ายอดบุปผาของแคว้น กล่าวได้ว่าขอเพียงนางชายตามองบุรุษมากมายก็หลั่งไหลมาให้เลือกจนนับไม่ไหว แต่นักเขียนกลับทำให้นางร้ายที่สมบูรณ์แบบผู้นี้โง่งมหลงใหลพระเอกอย่างองค์รัชทายาทฟ่งเฟยเทียนจนไม่ลืมหูลืมตา สุดท้ายก็ตกตายอย่างน่าอนาถใจ คิดแล้วหวังเฟยเฟิ่งก็ทำใจอ่านนิยายเล่มนี้ต่อไม่ได้จริงๆ สุดท้ายก็โยนลงในกล่องกองดองของตน แล้วทิ้งตัวลงนอนเพื่อระงับอารมณ์หงุดหงิดในใจ
นางร้ายโง่งมหลงใหลในความรักจนตายแบบนี้คงมีแต่ในนิยายเท่านั้น หากเป็นเธอจะไม่มีวันตกเป็นแบบนี้แน่นอน
.....................................................