หญิงสาวบอกเขาทว่าน้ำเสียงของเธอยังฟังดูประหม่าเล็กน้อย คาริสมานั่งในท่าที่เข่าทั้งสองชิดกันและวางมือของเธอไว้บนหน้าตัก เธอดูเหมือนสาวสวยผู้สงบเสงี่ยม และท่าทีนั้นก็ดึงดูดความสนใจจากนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มแกมเขียวของแมทธิวได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ถ้าอย่างนั้นเรียกผมว่าแมท...ก็ได้ครับ” เขากล่าวและสบนัยน์ตาของหญิงสาว คาริสมาอยากจะหลบสายตาคมกล้าคู่นั้นที่จ้องมองเธอด้วยประกายอันอ่อนหวานแต่หญิงสาวกลับทำไม่ได้อย่างใจคิด
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณค่ะ...แมท”
“โรมี่บอกผมเกี่ยวกับคุณหมดทุกอย่างแล้ว แต่ผมยังไม่เคยพบกับคุณเป็นการส่วนตัว...เพื่อพูดคุยธุรกิจแบบนี้ อืม...ผมอยากให้การพูดคุยระหว่างเราในวันนี้เป็นไปแบบสบาย ๆ มากกว่า”
“ฉันก็หวังเช่นนั้นค่ะ แมท...เอ้อ...จริง ๆ แล้วฉันมาเป็นตัวแทนคุณพ่อ ท่านไม่สบาย ฉันอาจจะพูดอะไรที่ฟังดูขัดหูคุณไปบ้าง จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการออกแบบอะไรมากนักหรอกนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ลูกค้าที่เข้ามาต่างคาดหวังความเป็นมืออาชีพของเรามากกว่าที่เขาจะมาแสดงความรู้ของตัวเองกันทังนั้น”
ริมฝีปากหยักหนาของเขาขยับพูด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแมทธิวเป็นผู้ชายที่ทั้งหล่อเหลาและที่สำคัญเขาดูมีเสน่ห์จนคนที่นั่งฟังเขาพูดหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ
คาริสมาเคยได้ยินกิตติศัพท์เกี่ยวกับนักธุรกิจผู้เป็นประธานใหญ่แห่งฮัตเทอร์ตัน คอนสตรัค กรุ๊ป เธอได้ยินมาว่าเขาเป็นนักธุรกิจผู้มีความหลักแหลมและมีความเป็นผู้นำในโลกแห่งการแข่งขันสูง เป็นคนฉลาดและที่สำคัญค่อนข้างแข็งกร้าวซึ่งอย่างหลังตรงข้ามกับสิ่งที่เธอได้ยินมา
แมทธิวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นอ่อนโยน น้ำเสียงทุ้มกังวานของเขาน่าฟัง ซึ่งตลอดการสนทนาเกี่ยวกับการทำธุรกิจร่วมกันเขาไม่ได้แสดงออกถึงการโอ้อวดความสามารถแม้แต่น้อย
“แคลร์...ถ้าคุณไม่รีบกลับผมอยากเชิญคุณร่วมทานอาหารกับเราที่ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมเพื่อเป็นเกียรติสักหน่อยได้ไหมครับ”
ชายหนุ่มเริ่มต้นบทสนทนาแบบสบาย ๆ อีกครั้งหลังจบเรื่อของธุรกิจที่เขาพูดคุยกับลูกค้าสาวนานนับชั่วโมง คาริสมามีสีหน้าลังเลชั่วครู่
“หรือว่า...คุณจะรีบกลับไปหาใครหรือเปล่า แคลร์?”
“เอ้อ...เปล่าค่ะ...ฉันไม่ได้มีนัดที่ไหน”
เขาหัวเราะเสียงในลำคอ “ขอโทษทีนะครับ ผมคิดว่าผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่งอย่างคุณอาจมีใครสักคนรอทานอาหารมื้อค่ำด้วยในคืนนี้”
“ไม่มีใครรอฉันหรอกค่ะ...ถ้าไม่ใช่คุณพ่อ”
คาริสมารีบตอบและคำพูดนั้นทำให้คนฟังนัยน์ตาเป็นประกาย
“ว่าแต่คุณเถอะนะคะ แมท...ผู้ชายที่ทั้งหล่อและเก่งอย่างคุณก็คงมีใครสักคนรอคุณทานอาหารมื้อค่ำด้วยกัน...อย่างนั้นซีนะคะ”
เขาส่ายหน้า “ผมเหมือนคุณ...เราต่างคนต่างก็ไม่มีใครที่รอคอยใครอยู่ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นผมก็ขอเชิญคุณไปเป็นเกียรติร่วมทานอาหารมื้อค่ำกับผมสักมื้อนะครับ...แคลร์”
เขาเชิญชวนและน้ำเสียงหวานของเขาทำให้คาริสมารู้สึกร้อนรุ่มอยู่ลึก ๆ ต่างคนต่างสบตากันสักครู่ก่อนที่ชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นก่อนและเชื้อเชิญหญิงสาวให้เดินตามไป แต่เมื่อออกมาจากห้องรับรองแขกได้เพียงสักครู่เสียงโทรศัพท์ของคาริสมาก็ดังขึ้น เธอรอจนแมทธิวเดินนำหน้าไปไกลก่อนจะกดรับสายและยกสมาร์ทโฟนขึ้นแนบหูพร้อมทั้งถอยฉากเข้าไปยืนแอบที่มุมหนึ่งซึ่งปลอดคน
“แคลร์...เป็นไงบ้างลูก?”
เสียงที่ดังมาตามสายทำให้หญิงสาวเริ่มมีท่าทีกระสับกระส่าย เธอมองซ้ายขวาราวกับจะระแวดระวังอะไรบางอย่างก่อนตอบกลับไป
“ค่ะ...คุณพ่อ หนูเจอเขาแล้ว หนูเจอแมทธิว คอนเนอร์ ฮัตเทอร์ตันแล้วค่ะ”
“เยี่ยมมากแคลร์...เยี่ยมมาก ลูกต้องตีสนิทกับเขา ทำให้เขาไว้วางใจแล้วทำยังไงก็ได้ที่จะเอาข้อมูลลับของบริษัทกลับมาให้พ่อ”
คาริสมาลอบถอนใจเบา ๆ ก่อนตอบกลับ “พ่อคะ...มันไม่ง่ายเลยนะคะ”
“แต่ลูกต้องทำ!” เสียงอีกฝั่งเข้มขึ้นในทันใด “เรามีเวลาไม่มากนัก ลูกก็รู้ ถ้าเราไม่ได้มันมาตามกำหนดเวลาพ่อลำบากแน่”
“หนูทำสุดความสามารถนะคะพ่อ...แต่มันจะเป็นอย่างที่เราต้องการหรือไม่หนูไม่แน่ใจ”
“ลูกต้องทำได้ แคลร์!...ลูกต้องเอาข้อมูลลับของฮัตเทอร์ตัน กรุ๊ปมาให้พ่อเร็วที่สุด ลูกมีชีวิตของพ่อเป็นเดิมพัน ถ้าช้ากว่านี้รูเบนมันเอาพ่อถึงตายแน่”
เสียงนั้นขาดหายไปเหมือนมีสัญญาณรบกวนแต่คาริสมาก็ไม่ต้องการจะตอบกลับด้วยคำพูดใด ๆ กลับไปอีก หญิงสาววางโทรศัพท์และถอนหายใจยาว
ดวงหน้าสวยหวานเริ่มมีร่องรอยเคร่งเครียด เธอมาที่นี่ในฐานะนักธุรกิจสาวซึ่งแท้จริงมันเป็นแค่ภาพลวงที่เธอใช้ห่อหุ้มตัวตนอันแท้จริง เธอไม่ได้เป็นทายาทโรงแรมดังในเวเนซูเอล่าอย่างที่โรมี่รายงานให้แมทธิวรู้
เธอคือคาริสมา ไคลน์ ลูกสาวของวิชเยน ไคลน์ ทนายความอิสระรับว่าความทั่วไป ชีวิตของเธอคงไม่ต้องประสบความยุ่งยากลำบากเลยหากพ่อของเธอไม่ก่อปัญหาใหญ่ขึ้นด้วยการไปหลอกลวงเกี่ยวกับคดีความของบริษัทรับเหมาก่อสร้างร่วมทุนระหว่างประเทศซึ่งเคยเป็นคู่แข่งกับฮัตเทอร์ตัน กรุ๊ป
อะไรก็ไม่เลวร้ายไปกว่าการที่หนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทรับเหมานั่นมีฉากหลังเป็นมาเฟียใหญ่อยู่ในคิวบา วิชเยนถูกจับได้ว่าเขาหลอกลวงรับเงินค่าทำคดีความและมันนำมาซึ่งปัญหาที่ทำให้แก้ไม่ตก
พ่อของเธอถูกกักตัวไว้ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งของพวกมาเฟีย พวกมันต่อรองชีวิตของเขาด้วยข้อเสนอแลกเปลี่ยนที่ทำให้คาริสมาลำบากใจยิ่งกว่าการออกสมรภูมิรบ
เธอต้องลาออกจากงานประจำที่ประเทศไทยเพื่อเดินทางมารับรู้เกี่ยวกับข้อเสนอซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเธอมากทีเดียว นั่นคือการต้องรักษาชีวิตของบิดาด้วยการแฝงตัวมาในคราบนักธุรกิจสาวเพื่อล้วงเอาข้อมูลลับของฮัตเทอร์ตัน กรุ๊ป แลกกับอิสรภาพของวิชเยน