แน่นอนว่าเธอไม่เคยรู้จักกับแมทธิว คอนเนอร์ ฮัตเทอร์ตัน มาก่อน แต่เธอต้องทำเหมือนเข้ามาตีสนิทกับเขา และทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ได้ความลับจากบริษัทอย่างที่คู่แข่งของเขาต้องการ ไม่อย่างนั้นวิชเยนต้องตกที่นั่งลำบากแน่
แต่ตอนนี้เธอลำบากยิ่งกว่า คาริสมากำลังคิดหาทางว่าทำอย่างไรเธอจึงจะได้สิ่งที่ต้องการมา แม้จะเข้าถึงตัวประธานใหญ่แห่งฮัตเทอร์ตัน กรุ๊ปแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่า ยังมีปัญหาอีกมากมายรอคอยอยู่ข้างหน้า
“เป็นยังไงบ้าง แคลร์”
เสียงของแมทธิวที่ดังขึ้นทำให้คาริสมาซึ่งปลีกตัวออกมายืนจิบไวน์อยู่ที่ริมสระน้ำอันเงียบสงบของโรงแรมหลังทานอาหารร่วมกับแขกคนสำคัญของฮัตเทอร์ตัน กรุ๊ปหันกลับมามองเขาด้วยรอยยิ้ม
แมทธิวถอดเสื้อสูทของเขาออกและดูสบาย ๆ ในเชิ้ตผ้าไหมสีขาวสะอาดตาขับความสง่าของร่างสูงใหญ่ให้ดูมีเสน่ห์และเปล่งประกายท่ามกลางแสงสปอร์ตไลต์รอบ ๆ สระ
“อาหารที่ทางเราจัดให้ถูกปากคุณหรือเปล่า?”
ชายหนุ่มถามขณะเดินข้ามาหยุดตรงหน้าหญิงสาว เขาอยู่ห่างเธอเพียงสองก้าว แต่ดูเหมือนอยู่ใกล้จนแทบรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา
“ยอดเยี่ยมมากค่ะแมท...ฉันชอบอาหารที่คุณจัดเตรียมให้แขกในค่ำคืนนี้”
“ผมดีใจที่คุณชอบ...ว่าแต่คุณจะรีบกลับหรือยัง?”
“ฉันคงอยู่อีกสักพักค่ะ แล้วก็จะกลับ...”
“เวเนซูเอล่าคืนนี้...อย่างนั้นหรือ?” เขาถามแทรกขึ้น ประกายตาของเขาฉายแววอะไรบางอย่างที่หญิงสาวไม่ได้คิดไปเองว่าแมทธิวอยากจะยื้อเธอไว้ที่นี่อีกสักหนึ่งหรือสองชั่วโมง
“เปล่าค่ะ...ฉันยังไม่กลับคืนนี้ ฉันพักอยู่ที่โรงแรมใกล้ ๆ กับที่นี่ อาจจะอีกสักสัปดาห์ถึงจะกลับค่ะ แล้วคุณล่ะคะ นี่คงถึงเวลาที่ประธานบริหารฮัตเทอร์ตัน กรุ๊ปจะกล่าวคำอำลากับลูกค้าของเขาแล้ว”
“ผมนอนดึกกว่าที่คุณคิดอีกนะ”
แมทธิวกล่าวพร้อมทั้งปรายยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์บนใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นเร็วแรงอีกครั้ง ทุกครั้งที่เห็นแมทธิวและทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับเขาคาริสมารู้สึกว่าสติสตังของเธอแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย เธอมาที่นี่เพื่อตีสนิทกับเขาไม่ใช่หรือ แต่ดูเหมือนเธอกำลังจะลืมบทบาทแท้จริงที่ต้องแสดงต่อหน้าผู้ชายคนนี้ไปชั่วขณะ
“พวกนักธุรกิจต้องนอนดึกใช่ไหมคะ ฉันรู้”
“บางคืนผมก็แทบไม่ได้นอนเลย”
“คุณคงหมายถึงเวลาที่ได้คุยกับพวกสาว ๆ อย่างนั้นซีคะ”
หญิงสาวพูดเสียงกลั้วหัวเราะแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นจิบขณะเลื่อนสายตาออกไปยังสระน้ำ ใช่...เธอแทบไม่กล้าประสานสายตากับเขา นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มแกมเขียวมรกตนั้นราวกับมีเสน่ห์ลึกลับสะกดความรู้สึกของเธออย่างไรอย่างนั้น
“ผมคิดเรื่องการทำธุรกิจ...แต่ไม่มีเวลาได้พูดคุยกับพวกสาว ๆ อย่างที่ใคร ๆ คิด ”
“ยกเลิกนัดและประชุมช่วงบ่ายทั้งหมดวันพรุ่งนี้...เพราะผมมีธุระด่วน”
“เอ้อ...ค่ะ...ฉันจะแจ้งให้ทุกฝ่ายทราบวันพรุ่งนี้ ว่าแต่...เมื่อครู่ฉันเพิ่งไปส่งมิสไคลน์ขึ้นรถเพื่อส่งเธอกลับโรงแรมแล้วค่ะ...ไม่ทราบว่าเธอเป็นยังไงบ้างคะ?”
“เธอโอเคและแฮปปี้มากที่ได้ร่วมงานกับเรา”
“เธอน่ารักนะคะ และเธอก็เป็นคนสวยมาก”
แมทธิวไม่กล่าวตอบโต้ต่อความเห็นของเลขาสาว ทว่านัยน์ตาของเขากลับฉายประกายที่ทำให้โรมี่เข้าใจ เลขาของเขารู้ดีว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับเจ้านายของเธอเสียแล้ว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอทำงานกับแมทธิวและรู้ดีว่าเขาไม่เคยแสดงความชื่นชมหรือตื่นเต้นต่อผู้หญิงคนไหนอย่างออกนอกหน้า เขาทำแต่งานและให้ความสำคัญกับธุรกิจของฮัตเทอร์ตัน กรุ๊ป มาเป็นลำดับต้น ๆ ทว่าวันนี้กลับมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป บางอย่างที่โรมี่รู้สึกได้ด้วยเซนส์ของความเป็นผู้หญิง
“มันคงเป็นธุระสำคัญมากใช่มั้ยคะ...บอส”
เขาพยักหน้า “พรุ่งนี้ให้คนไปรับมิสไคลน์ที่โรงแรมตอนทุ่มตรง ผมเชิญเธอไปดินเนอร์ที่เพนท์เฮ้าส์ในลินท์วูด และถ้ามีลูกค้าติดต่อมาให้คุณบอกเขาว่าผมไม่ว่าง ผมจะปิดโทรศัพท์และการสื่อสารทุกอย่าง ผมอยากคุยกับมิสไคลน์แบบที่ไม่ต้องมีงานหรือใครรบกวน”
“ค่ะ...บอส”
โรมี่รับคำสั่งอย่างที่เคยปฏิบัติแต่ก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าเจ้านายของเธอทำอย่างกับจะออกเดทกับสาวอย่างไรอย่างนั้น แต่ถึงเขาจะแปลกเปลี่ยนไปอย่างไร แต่แมทธิวก็ยังเป็นเจ้านายที่เธอยินดีรับคำบัญชาเสมอ
คาริสมาคิดว่าการได้ไปดินเนอร์กับแมทธิว คอนเนอร์ ฮัตเทอร์ตันในค่ำคืนนี้เป็นสิ่งที่พิเศษสุดสำหรับเธอ คนของเขามารับเธอที่โรงแรมตรงตามเวลาที่เขาบอกไว้เป๊ะนั่นคือหนึ่งทุ่มตรง
หญิงสาวในชุดกระโปรงผ้าไหมออแกนซ่าสีชมพูอ่อนราวกลีบกุหลาบแสนสวยก้าวขึ้นรถลีมูซีนที่คนของแมทธิวมารับเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่นัดพบนั่นคือเพนท์เฮ้าส์ของมหาเศรษฐีหนุ่มในลินท์วูด
ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี มีอย่างเดียวเท่านั้นที่รบกวนความรู้สึกของหญิงสาวนั่นคือการนัดทานดินเนอร์กับแมมทธิวครั้งนี้เธอต้องหาทางเพื่อให้ลุแก่เป้าหมายที่คิดหวังไว้แต่แรก
“ลูกต้องหาทางเข้าไปตีสนิทกับแมทธิว ทำให้เขาตายใจแล้วแฮ็คข้อมูลของบริษัทด้วยสิ่งนี้”
เสียงของวิชเยนดังก้องอยู่ในหูของหญิงสาว คาริสมาเปิดกระเป๋าคลัชต์ใบเล็กของเธอซึ่งภายในมีเพียงสมาร์ทโฟนและของอีกอย่างหนึ่งที่หญิงสาวดึงมันออกมาและกำไว้แน่น
“นี่อะไรคะพ่อ?”
“มันเป็นโปรแกรมที่จะดูดข้อมูลจากฮัตเทอร์ตัน กรุ๊ป...มันจะช่วยแฮ็คข้อมูลสำคัญออกมาให้เรา”
“แค่นั้นใช่ไหมคะพ่อ?”
วิชเยนอ้ำอึ้งก่อนตอบ “พอเราได้ข้อมูลที่ต้องการมันจะทำลายระบบทุกอย่างในเครือข่ายของฮัตเทอร์ตัน”
“อะไรนะคะ
***! นี่พ่อหมายความว่าโปรแกรมนี้มันเป็นไวรัสทำลายระบบของบริษัทด้วยอย่างนั้นหรือคะ!”***