2

1498 Words
เมฆินพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านที่รบกวนจิตใจ ร่างสูงถอดเสื้อผ้าออกเผยให้เห็นแผงอกแน่นตึงด้วยมัดกล้ามเนื้อได้สัดส่วนสวยงาม ลอนซิกซ์แพ็กหน้าท้องเรียวลงมาจรดเอวสอบซึ่งมีมัดกล้ามเนื้อคล้ายเข็มขัดพาดสองข้าง มือใหญ่คว้าหยิบอื้อมไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า หยิบเอาผ้าขนหนูสีสะอาดตามาพันปกปิดข่วงล่างแล้วก้าวขาไปยังห้องน้ำส่วนตัว หวังใช้ความเย็นของสายน้ำจากฝักบัวบรรเทาความร้อนรุ่มในอก ชำระความคิดเพ้อเจ้อให้หมดไป ทว่าเมื่ออาบน้ำเสร็จ เปลี่ยนเป็นชุดนอนสบายตัวแล้วทิ้งร่างลงกับฟูกหนานุ่มบนเตียงไม้ขนาดคิงไซซ์เนิ่นนานนับชั่วโมง เขากลับยังข่มตาหลับไม่ลง ได้แต่สบถอยู่ในใจกับคำถามหนึ่ง ‘เชี่ยเอ๊ย ถ้าเด็กนั่นเป็นลูกกูล่ะ’ ไม่รู้ว่าเพราะแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาในคืนนี้ มันช่างเหมือนคืนนั้นหรือเปล่า จึงทำให้สมองของเขามีแต่ชื่อเมริน เมริน เมริน เต็มไปหมด ไม่เพียงแต่ชื่อ ยังมีดวงหน้าหวานสวยกับดวงตาทอประกายเศร้าของผู้หญิงคนนั้นด้วย พานทำให้นึกถึงเรื่องทั้งที่พยายามจะลบมันออกไปจากความทรงจำอันไร้แก่นสาร เพราะบอกตัวเองอยู่เสมอว่า มันไม่ได้สลักสำคัญสักนิด เมื่อหกปีก่อน “ริน! แย่แล้ว! ไอ้รามมันโดนนายเหมืองจับตัวไป” เพล้ง! เสียงของ ‘คำแก้ว’ เพื่อนสาวทำเอาเมรินตกใจจนเผลอทำแก้วกาแฟที่เตรียมไปเสิร์ฟลูกค้าร่วงทันที ขณะหันมามองเจ้าของเสียงที่รี่มาบอกถึงหน้าเคาน์เตอร์ด้วยแววตาตระหนก ใบหน้าซีดเผือด “กะ...เกิดอะไรขึ้น” ไม่ทันที่คำแก้วจะตอบ เจ้าของร่างบางก็ไม่รั้งรอ ก้าวขาออกจากหลังเคาน์เตอร์ทันที “เดี๋ยวฉันมานะ” เมรินรีบถอดผ้ากันเปื้อนวางพาดกับเคาน์เตอร์ชงกาแฟลวกๆ แล้วพาร่างบางออกจากประตูร้านไปยังวินมอเตอร์ไซค์ซึ่งห่างจากตัวร้านกาแฟแค่ไม่กี่ก้าว โดยมีเสียงเพื่อนสาวตามหลังมาทักท้วง แต่เธอก็ไม่ได้สนใจฟังเท่าไร หญิงสาวนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ แล้วบอกจุดหมายหลายทางไปยัง ‘เหมืองแร่ทองคำเมฆิน’ ทันที เธอไม่อยากจะคิดว่า ‘ราม’ พี่ชายของตนเองไปทำอะไรที่นั่น แต่ก็ขออย่าให้เป็นแบบที่คาดเดาด้วยเถิด ที่ผ่านมา รามติดหนี้พนันออนไลน์ แถมไม่ยอมทำมาหากินอื่นๆ ตัวเมรินซึ่งเป็นน้องสาวก็ต้องรับภาระดูแลพี่ชายอีกคน ส่วนบิดามารดาก็ชิงลาโลกไปเสียแล้ว ตอนนี้ เธอจึงทำได้แค่เป็นพนักงานร้านกาแฟและเรียนมหาวิทยาลัยทางออนไลน์ไปด้วย ลำพังเงินเดือนเท่านี้ก็ไม่เพียงพอในการดูแลพี่ชายที่เป็นผีพนันได้แน่นอน แต่เมื่อสองสามวันก่อน หญิงสาวแอบเห็นว่ารามดูจะอู้ฟู่ผิดปกติ หวังว่าเขาคงไม่ได้ทำในสิ่งที่โง่ที่สุดหรอกนะ ความคิดทั้งหมดทั้งมวลหยุดลงเมื่อมอเตอร์ไซค์จอดหน้าสำนักงานเหมือง ร่างบางรีบลงจากเบาะ บอกให้พี่วินรั้งรอสักครู่ก่อนจะก้าวเร็วๆ ไปยังประตูสำนักงาน ผลักบานกระจกเข้าไปอย่างร้อนรน “ขอโทษนะคะ ฉันมาหาพี่ชายฉันค่ะ” เมรินพูดอย่างรวดเร็วเมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ ‘ติดต่อ สอบถาม’ พนักงานสาวสวยเงยมองด้วยแววตามีคำถาม “คะ? ใครนะคะ?” “เอ่อ...พี่ชายฉันค่ะ ชื่อ ราม พอดีว่า...” แม้เธอจะไม่เคยเจอนายเหมืองที่นี่ แต่กิตติศัพท์เรื่องความโหดและร้ายของเขาใครๆ ก็รู้ไปทั่วจังหวัด การจะบอกว่ามาหาชายหนุ่มเจ้าของเหมืองดูจะไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง “ใคร!” เสียงทรงอำนาจดังขึ้นมา ทำเอาเมรินสะดุ้ง ก่อนเสสายตามองร่างสูงโปร่ง ผิวสีแทนบ่งบอกถึงการทำงานหนัก ใบหน้าคมคายแฝงไปด้วยแววตาดุดัน ไรหนวดที่ขึ้นมาเพียงเล็กน้อยแสดงให้เห็นว่าเขาดูแลตัวเองดีอยู่เหมือนกัน เธอเผลอจ้องคนตัวโตจนได้ยินเสียงดังๆ เรียกสติอีกครั้ง “ฉันถามว่าเธอเป็นใคร” คราวนี้ หญิงสาวรีบละสายตาจากคนตรงหน้า ดูท่าทีลนลาน ก่อนจะค่อยๆ เปล่งเสียงออกมา “ฉันเมรินค่ะ เป็นน้องสาวพี่ราม คนที่คุณจับตัวไป” เมรินพูดพร้อมกับพยายามทำสีหน้ามาดมั่น แววตามั่นคง ไม่ตื่นตระหนกจ้องมองเขากลับ ชายตรงหน้ามองเธอหัวจดเท้าอย่างพิจารณา ก่อนจะกระตุกยิ้มหนึ่งที ถ้าเดาไม่ผิด ดูจากรูปร่างลักษณะแล้วเขาคงเป็น ‘นายเหมืองเมฆิน’ ที่ใครๆ ก็พูดถึงกันสินะ “อ้อ! งั้นตามมา” แล้วร่างสูงก็ก้าวออกจากประตูสำนักงานโดยไม่เหลียวหลัง เมรินจึงรีบเดินตามเขาออกไป เบื้องหลังจึงมีแต่พนักงานสาวสวยมองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสีหน้างุนงง สงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาทีเมื่อครู่ เมฆินเดินนำเมรินเข้ามาในบ้านพักของตนเองซึ่งห่างจากตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาดัดแปลงเป็นสำนักงานสำเร็จรูปไม่ไกลนัก เขาไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม บอบบาง จะมีพี่ชายเป็นโจรกล้าบุกถ้ำเสือเช่นนี้ แต่ต่อให้จะรู้สึกชอบใจในรูปร่างหน้าตาผู้หญิงคนนี้แค่ไหนก็ต้องข่มไว้ ห้ามใจอ่อนกับสิ่งที่พี่ชายเธอได้ทำเลวระยำเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ ผีพนันตัวเอ้ก็ถูกจับมัดมือ มัดเท้าติดเก้าอี้เอาไว้กลางห้องโถง ตรงหน้าเขามีโต๊ะไม้ตัวหนึ่ง “พี่ราม! พวกคุณทำอะไรพี่ชายฉัน” เมรินไม่รอช้ารีบวิ่งไปหารามที่ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ บริเวณใบหน้ามีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด บ่งบอกให้รู้ว่าคนป่าเถื่อนพวกนี้คงทำร้ายร่างกายพี่เธออย่างหนัก “ถามมันดีกว่าไหม ว่ามันทำเลวอะไรไว้กับฉันบ้าง!” เพล้ง! เมฆินหยิบเอาแจกันดินเผาใกล้มือมาปาลงกับพื้นจนแตกกระจายระบายโทสะ แต่นั่นไม่ทำให้เมรินตกใจกลัวชายหนุ่มอีกแล้ว เพราะสิ่งที่เขาทำ มันเรียกได้ว่า ‘ชั่วร้าย’ ไม่ต่างกัน “พี่ขอโทษริน พี่แค่จะเอาเงินไปใช้หนี้ พี่...ไม่ได้ตั้งใจขโมยเพชร ทองคำ ของนายเหมืองไป” รามพูดพร้อมกับร้องไห้ราวกับคนเสียสติ “ใจเย็นนะพี่ราม ถ้างั้น ไปเอาเพชร กับ ทองคำมาคืนเขานะ” เมรินพยายามหาทางออกให้พี่ชาย แม้เธอจะรู้ว่าความหวังนั้นริบหรี่เหลือเกิน “หึ พี่ชายเธอเอาเพชรของฉันไปขายแล้วไม่รู้เท่าไหร่ เงินก็เอาไปใช้หมดแล้วไง จะเอาที่ไหนมาคืนล่ะ งั้นก็มีทางเดียวที่จะชดใช้ความผิดของมันได้ เฮ้ย!” เมฆินพูดพร้อมกับหันไปส่งสัญญาณให้ชายฉกรรจ์รูปร่างบึกบึนที่ยืนอยู่ข้างประตูด้านในตัวบ้าน ซึ่งเมรินเองไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครอยู่ที่นี่อีกสองคน นอกจากเธอ พี่ชาย และเมฆิน “ครับ นายเหมือง” ทั้งสองคนรับคำอย่างรู้ใจผู้เป็นนาย ก่อนปรี่เข้าหาราม “หลีกไป น้องสาว” คนหนึ่งผลักตัวเมรินให้พ้นทาง ทำเอาเธอหลุดอุทานขณะร่างบางเซถอยไปหลายก้าว “ว้าย!” เมื่อหญิงสาวพ้นจากระยะทำการไปก็ตามไปสมทบเพื่อน ส่วนอีกคนตรงไปจับข้อมือหัวขโมยที่ถูกมัดติดกันมาวางคว่ำลงกับโต๊ะ กดยึดไว้ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ”ไม่! อย่า!” รามตกใจร้องเสียงหลง ชักมือกลับ ยื้อแรงกับชายร่างใหญ่จนข้อมือไม่อยู่นิ่ง “ฤทธิ์มากนักเหรอมึง!” คนตามมาสมทบไม่รั้งรอ ขบกรามแน่นก่อนเงื้อแขน กำมือเป็นกำปั้นจนเส้นเลือดปูดโปน แล้วส่งหมัดลุ่นๆ เข้าที่กึ่งปากกึ่งจมูกของหัวขโมยตัวร้าย ผลัวะ! เสียงปะทะตามมาด้วยเลือดสดๆ ทะลักจากจมูกชายหัวขโมย “อ๊อก!” “พี่ราม!” เมรินเบิกตาโพลงตกใจสุดขีด ทำอะไรไม่ถูก ขาแข็งยืนนิ่ง ไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะมาเห็นพี่ชายโดนทารุณกับตาแบบนี้ “หึหึ! นี่ละผลของการริทำตัวเป็นขโมย” เมฆินหัวเราะในลำคอ จ้องมองหน้ารามอย่างเคียดแค้น กรามขบกันจนขึ้นเป็นสัน ก่อนปรายตามองมายังหญิงสาวที่ยืนร่างสั่นเทา ดูท่าเธอจะตกใจไม้น้อย จากนั้น ชายฉกรรจ์ทั้งสองก็ช่วยกันจับข้อมือของรามไว้จนแน่น ก่อนคนหนึ่งจะหยิบมีดเล่มเขื่องจากซองเหน็บข้างเอว เงื้อขึ้นทำท่าจะสับลงไปที่มือของราม!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD