เมื่อทุกคนกลับมาถึงก็ตรงไปดูอาการของหนุ่มน้อยทันที ก่อนหน้านี้หนุ่มน้อยไข้ขึ้นคนเป็นแม่จึงต้องอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากเช็ดตัวและทานยาแก้ไข้สำหรับเด็กไปแล้วอาการของหนุ่มน้อยก็ดีขึ้นตามลำดับ
“อาดา”
“คร๊าบ ว่าไงครับคนเก่งทานข้าวต้มร้อนๆหรือยังเอ่ย” น้องเบย์ส่ายศีรษะไปมาเบาๆเป็นการปฏิเสธ
“งั้นอยากทานอะไรล่ะครับ”
“อยากทานขนมครับ”
“อย่าตามใจแกเลยจ้ะน้องดา” ลูกสะใภ้ของบ้านรีบห้ามปราม
“งั้นขนมที่ว่าอาดาทำมาให้ดีไหมครับ รับรองว่าอิ่มท้องเหมือนกัน”
“ก็ได้คร๊าบ” จบประโยคหนุ่มน้อยก็ซบลงที่อกอุ่นของหญิงสาวอย่างต้องการจะออดอ้อน ดรัณภพเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ที่หลานชายเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อของหลานเลย หลังจากกินของอร่อยจนพอใจก็ทานยาอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานหนุ่มน้อยก้หลับปุ๋ยไป
“ขอบคุณมากเลยนะคะ วันนี้น้องดาเหนื่อยมาแล้วทั้งวันแท้ๆยังต้องมาเอาใจลูกชายของพี่อีก”
“ดาเต็มใจดูแลแกเองค่ะพี่บัว ถึงวันนี้จะเหนื่อยหน่อยแต่พอเห็นน้องเบย์ยิ้มได้ก้พอใจแล้วค่ะ”
“น้องดาเลี้ยงเด็กเก่งจังเลยนะคะ”
“เคยช่วยญาติห่างๆเลี้ยงหลานน่ะค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง น้องดาไปพักเถอะค่ะ วันนี้พี่ดีใจด้วยนะคะ น้องดาเก่งทุกอย่างเลย”
“ชมกันเกินไปแล้วค่ะพี่บัว” หญิงสาวบอกออกไปยิ้มๆ เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องนอนของตัวเอง หญิงสาวก็กระโดดขึ้นไปนอนกลิ้งบนเตียง เธอกล่าวขอบคุณตนเองที่พยายามทำอะไรให้มันเต็มที่ที่สุดแล้ว ผลของของความพยายามมันช่างหอมหวาน เธอจะเก็บเงินก้อนนี้เอาไว้เป็นทุน คืนนี้คงเป็นคืนที่เอหลับฝันดีที่สุดแน่ๆ
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นแต่เช้า ปลุกหญิงสาวขยับตัวบิดขี้เกียจไปมาเบาๆแล้วก็ต้องตกใจว่าตนเองนั้นตื่นสายกว่าทุกวัน เรียกได้ว่าเลยเวลามื้ออาหารตอนเช้าไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอรีบลุกไปเปิดประตูห้อง ในใจคิดว่าคงเป็นใครสักคนที่มาปลุกให้เธอตื่นไปทำงาน
“อาดา” เมื่อประตูเปิดออกเธอก็ได้ยินเสียงเล็กๆเรียกเธอ เธอจึงก้มลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ต้องหน้าหนุ่มน้อยทันที หญิงสาวลืมตัวไปว่าเวลานี้เธอสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อบางเบาทำให้คนตัวโตที่ยืนอยู่สามารถมองเห็นร่างกายของเธอแทบจะทะลุปรุโปร่ง ชายหนุ่มรู้สึกทึ่ง นอกจากจะหน้าตานี้และคนตรงหน้ายังซ่อนรูปอีกด้วย
“น้องเบย์นี่เอง มาหาอาดาแต่เช้ามีอะไรครับ”
“อยากเล่นกับอาดาครับ”
“คะ คุณ!”
“ผมยืนอยู่ตั้งนานแล้วไม่เห็นหรือไง”
“อะ เอ่อคือ...ขอโทษที่ฉันตื่นสายค่ะ”
“วันนี้คุณแม่ท่านบอกว่าให้เธอพักหนึ่งวัน จะไม่เป็นการรบกวนใช่ไหมถ้าตาเบย์จะขอมาเล่นกับเธอด้วย”
“ไม่รบกวนเลยค่ะ น้องเบย์เข้ามาในห้องอาดาก่อนนะคะ”
“คร๊าบ” หนุ่มน้อยก้าวเท้าเล็กๆเข้าไปด้านในห้องแล้ว คนตัวโตกำลังจะก้าวตามแต่โดนดักคอเอาไว้ก่อน
“แค่น้องเบย์คนเดียวค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะฉันดูแลน้องเบย์ได้” จบประโยคหญิงสาวก็ปิดประตูใส่หน้าเจ้าของบ้านทันที
“งั้นก็ตามใจ จะช่วยเลี้ยงแท้ๆอยากเหนื่อยคนเดียวก็ดี ฉันจะได้เอาเวลาไปนอนพัก”ชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมาเบาๆ แล้วบอกกับตัวเอง ความจริงเขาจะเข้านอกออกในห้องไหนก็ได้นี่หน่า แต่เพื่อเป็นการให้เกียรติเขาจะไม่ไปยุ่งพื้นที่ส่วนตัวของนวินดาก็แล้วกัน เวลานี้ในบ้านเหลือเพียงเขา นวินดา หลานชายและสาวใช้เพราะคนอื่นๆต่างออกไปทำธุระข้างนอก ดรัณภพเคาะประตูห้องของหญิงสาวอีกครั้งเมื่อถึงเวลามื้อกลางวัน หญิงสาวผละห่างหนุ่มน้อยช้าๆ เพื่อไปเปิดประตู
“พาหลานไปกินข้าวกลางวันได้แล้ว”
“น้องเบย์ดื่มนมแล้วก้หลับไปเลยค่ะ”
“งั้นเธอก็ลงไปทานข้าวก่อนสิ”
“อะ เอ่อคุณภพคุณดาลงไปทานข้าวได้เลยนะคะเดี๋ยวป้าเฝ้าคุณหนูเอง”
“ฝากด้วยนะคะ”
“ได้เลยค่ะคุณดา”
ท่าทางเขี่ยอาหารไปมาอย่างกับน้องเบย์ของคนตรงหน้าทำให้เธอต้องรวบช้อนและมองหน้าเขา เมื่อเธอหยุดทานเขาก็หยุดด้วยซ้ำยังเงยหน้าขึ้นมาถามว่ามองหน้าเขาทำไม
“ทำไมไม่กินดีๆละคะ อาหารไม่ถูกปากหรอ”
“ก็ไม่เชิง”
“อยากให้ฉันทำอะไรให้ทานไหม”
“ทำใหม่ๆก็ดีเหมือนกัน”
“งั้นรอแปบนึงนะคะ”
“อืม” ในตู้เย็นเวลานี้มีเพียงกุ้งสดกับไข่ไก่และผักบางชนิด หญิงสาวจึงทำข้าวผัดกุ้งให้ชายหนุ่มได้รับประทานเพราะมันทั้งอร่อยและทำได้ไม่ยาก ชาหนุ่มแอบลุกไปดูคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารแล้วก็รู้สึกขอบคุณ
“ข้าวผัดกุ้งหอมๆมาแล้วค่ะ”
“ขอบคุณ” สิ่งที่หญิงสาวทำมาให้หน้าตาน่าทานกว่าอาหารที่ป้าแม่บ้านทำหลายเท่า
“ห้าร้อยบาทค่ะ กุ้งตัวโตๆเลยค่ะ” หญิงสาวบอกออกไปน้ำเสียงทะเล้น
“ว่าแล้วไง” ชายหนุ่มบอกออกไปหน้างอ ทั้งหมดที่ทำลงไปเพื่อผลประโยชน์สินะ
“คิกๆ ล้อเล่นค่ะ ฉันจะมาคิดเงินคุณได้ยังไงละคะ ทานให้อร่อยนะคะขอขึ้นไปดูน้องเบย์ก่อนกลัวตื่นมาแล้วไม่เจอจะร้องไห้”
“แล้วเธอ...” ชายหนุ่มจะถามเธอว่าไม่ทานต่อหรอก็ไม่ทันได้เอ่ยถามจนจบประโยค