คนที่ยืนแอบอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ถึงกับขบกรามแน่นด้วยความไม่พอใจ เมื่อได้ยินชื่อผู้ชายหลุดออกมาจากปากของฟารีดา หากจำไม่ผิดผู้ชายที่หญิงสาวเอ่ยชื่อนั้นเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่นั่นเอง และเพื่อนๆ ก็เคยเล่าให้เขาฟังว่าฟารีดากับผู้ชายที่ชื่อคาร์ลอสสนิทสนมกันมานานหลายปี
เพียงแต่เขาไม่เคยสนใจที่จะฟังและไม่คิดว่าตัวเองจะดันบ้ามาตกหลุมรักผู้หญิงที่เขาเคยปฏิเสธความรักของเธอเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว
ซ้ำร้ายเขายังปฏิเสธงานแต่งที่ท่านย่าและท่านแม่เป็นคนจัดให้อีก ไม่รู้ว่างานนี้เขาจะต้องใช้แผนการมากแค่ไหนที่จะทำให้ฟารีดากลับมาเป็นของเขา
ชีคหนุ่มเสียงถอนหายใจดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าของร่างงามจะกระโดดลงไปในแอ่งน้ำอีกครั้ง เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด นับตั้งแต่ที่เธอว่ายน้ำเป็น การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาโปรดของเธอ เพราะมันช่วยให้เธอผ่อนคลายและทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
ชายหนุ่มที่ยืนแอบอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่เดินออกมานั่งลงตรงโขดหินที่เงือกสาวแสนสวยเพิ่งจากไป สองมือเริ่มแกะกระดุมเสื้อพร้อมกับกางเกงแล้วกระโดดลงไปในแอ่งน้ำอย่างรวดเร็ว
คนที่กำลังสนุกอยู่กับการว่ายน้ำถึงกับหยุดชะงักไปทันที เมื่อหูได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกระโดดลงมาในแอ่งน้ำ แต่เมื่อเห็นเจ้าสิ่งที่กระโดดลงมาจากโขดหิน โผล่ขึ้นมาตรงหน้าเธอ ดวงหน้างามก็ซีดเผือดทันที
“ทะ...ท่านชีค”
“ถึงกับติดอ่างเลยหรือดาด้า”
คาลิคโผล่ขึ้นมาจากน้ำพร้อมกับดึงร่างของฟารีดาเข้ามากอดแถมสรรพนามที่ใช้เรียกก็กลับมาสนิทสนมอีกครั้งเหมือนในอดีต สองแขนโอบรอบเอวคอดกิ่วเข้ามาจนเนินอกคู่งามแทบจะแนบติดแผงอกกว้างที่แน่นขนัดไปด้วยกล้ามเนื้อ
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะท่านชีค” ฟารีดาได้สติพร้อมกับสั่งให้ชีคหนุ่มปล่อยตัวเธอ แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของเธอจะไร้ผล เมื่อใบหน้าคมคายกลับโน้มลงมาหอมแก้มเธอทั้งซ้ายและขวาโดยไม่สนใจว่าเจ้าของแก้มนวลจะยินยอมให้หอมหรือไม่
“เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ”
ชีคหนุ่มเริ่มไม่พอใจกับสรรพนามที่ห่างเหินเหลือเกินของคนในอ้อมกอด นี่จะต้องให้เขาบังคับอีกแล้วใช่ไหม ผู้หญิงคนนี้ถึงจะหันมาเรียกชื่อเขาเหมือนเดิม โดยที่ตัวเขาเองก็ลืมคิดไปว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะคำพูดและการกระทำของเขาในอดีตแทบจะทั้งนั้น
“ปล่อยฉันนะท่านชีค นี่ท่านจะบ้าไปแล้วหรือ”
“ใครใช้ให้เธอเรียกชื่อฉันเสียห่างเหินแบบนั้น”
เหอะ! ถามได้ว่าใคร ก็เขาเองไม่ใช่หรือที่สั่งให้เธอเรียกเขาแบบนี้ เรื่องราวระหว่างเธอกับเขาที่เกิดขึ้นในอดีต ทุกคำพูดทุกการกระทำที่เขาเคยทำร้ายเธอ มันตราตรึงอยู่ในใจของเขามาเนิ่นนาน
การที่จะให้เธอกลับไปรักและเคารพเช่นในอดีต มันคงไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว เพราะสำหรับเธอและเขามันจะเป็นเพียงแค่เส้นขนานกันตลอดไป เพราะเธอรู้ดีว่าเส้นขนานสองเส้นนี้จะไม่มีทางมาบรรจบกันได้แน่นอน
“ดาด้า”
“เลิกเรียกฉันว่าดาด้าเสียที ท่านเองไม่ใช่หรือที่เป็นคนสั่งให้ฉันเรียกท่านแบบนี้ ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ท่านจำประโยคนี้ได้ไหม หรือว่าเธอเป็นใครแล้วฉันเป็นใคร สองประโยคนี้ท่านชีคคงจะจำได้ขึ้นใจไม่ใช่หรือ ในเมื่อท่านเป็นคนพูดกับฉันเอง”
สายตาคู่คมกล้าก้มลงมามองใบหน้างามที่อาบไปด้วยแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมากระทบผิวขาวเนียนให้ดูน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก แม้จะพบความงามที่อยู่ตรงหน้าแต่เขาก็ไม่อาจจับจอง เพราะคำพูดที่เขาเคยทำร้ายผู้หญิงคนนี้ให้ต้องเสียใจ ต้องเจ็บปวดเพราะความถือดี ยโสและเจ้ายศเจ้าอย่างที่เขาเป็นมาตั้งแต่เล็กจนโต
“ตอนนี้ท่านชีคปล่อยฉันได้หรือยัง อีกอย่างเราสองคนไม่ได้สนิทกันถึงขนาดที่จะเรียกชื่อเล่นกันหรอก ดังนั้นท่านชีคอย่ามาทำตัวสนิทสนมกับคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างฉันจะดีกว่า เพราะมันจะเสียเกียรติของท่านชีคคาลิคเสียเปล่าๆ”
ฟารีดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่ในใจกลับเจ็บปวดไม่น้อยกับคำพูดของเขาในอดีต เพราะว่าเธอกับเขาก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว ยิ่งใกล้เธอก็ยิ่งเจ็บช้ำกับความรักที่เธอไม่สามารถเอื้อมถึง
แม้จะอยู่ใกล้แต่ก็เหมือนไกล ความรักที่เธอมอบให้เขามันก็แค่ความรักของผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่งที่ไม่รู้ฐานะของตัวเอง ทำไมเธอไม่เลือกความรักที่ตัวเองสามารถจับต้องได้อย่างคาร์ลอสล่ะ เธอจะมาสนใจกับความรู้สึกที่มันเป็นแค่เงาที่ติดตัวแต่ก็ไม่สามารถมองเห็นความรักนั้นได้ เพราะคนที่เธอรักหมดหัวใจกลับเป็นคนที่เกลียดเธอสุดหัวใจ
“หยุดพูดเสียทีดาด้า ฉันไม่ต้องการฟังมันอีก”
“ท่านต้องฟัง เพราะมันคือความจริง แล้วกรุณาปล่อยฉันได้แล้ว ท่านชีคจำไม่ได้หรือคะว่าฉันมันสกปรก ไร้ยางอาย ทำตัวสำส่อน มั่วผู้ชายไม่เลือกหน้า ท่านชีคคงไม่คิดที่จะลดตัวลงมายุ่งกับผู้หญิงสำส่อนอย่างฉันหรอกนะ”
ฟารีดาเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าคมคายที่ก้มลงมามองเธอด้วยอาการอึ้งไป ทำไมเธอจะต้องสนใจและรักษาความรู้สึกของเขา ในเมื่อเขาเองไม่ใช่หรือที่บอกกับใครต่อใครว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี ในเมื่อเธอไม่ใช่คนดี เขาก็คงไม่คิดที่จะลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับผู้หญิงอย่างเธอ
“ฉันบอกให้หยุดพูดไงดาด้า”
“ยอมรับความจริงไม่ได้หรือคะท่านชีคคาลิค”
“เธอจะมั่วหรือไม่มั่วมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับฉันอยู่แล้วฟารีดา เพราะฉันไม่ได้เลือกเธอเป็นเมียเสียหน่อย ผู้หญิงอย่างเธอมันก็เป็นได้แค่นางบำเรอหรือไม่ก็แค่คู่นอนของผู้ชายเท่านั้น”
ฟารีดาได้แต่นึกสมเพชตัวเอง สุดท้ายเธอก็เป็นได้แค่นี้ ก็แค่นางบำเรอหรือไม่ก็คู่นอนของผู้ชายอย่างเขาหรือคนอื่นๆ แต่มันก็ดีเหมือนกันในเมื่อเขาก็ไม่เคยมองเธอในแง่ดีอยู่แล้ว ก็ให้เขาเข้าใจว่าเธอเป็นไปอย่างที่เขาคิดก็แล้วกัน อย่างน้อยเธออาจจะจากไปด้วยความรู้สึกที่ตัวเองไม่มีอะไรติดค้างเขา
“ขอบคุณที่บอก ฉันจะได้จำเอาไว้ว่าผู้หญิงอย่างฉันมันก็เป็นได้แค่นางบำเรอหรือคู่นอนของผู้ชายเท่านั้น ตอนนี้ท่านคงจะปล่อยผู้หญิงสำส่อนอย่างฉันได้เสียที เพราะถ้าหากท่านยังกอดฉันอยู่แบบนี้ เชื้อความร่านมันอาจจะติดท่านชีคก็ได้”
แล้วฝ่ามือเล็กก็ยกขึ้นมาผลักอกกว้างอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่ง แต่ยังว่ายไปได้ไม่เท่าไร เธอก็ถูกกระชากให้กลับมาอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งอีกครั้ง แม้จะพยายามดิ้นรนขัดขืนแค่ไหน แต่แรงกอดรัดก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนเธอเริ่มหมดแรง จากนั้นน้ำเสียงหวานก็แว่วขึ้นมา
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะท่านชีค”
...โปรดติดตามตอนต่อไป...