ปารีส, ฝรั่งเศส
บรรยากาศภายในห้องยังอึมครึมเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้อีกฝ่ายเดินทางไปบ้าน สายตาคู่คมสีฟ้าสบตามองดวงหน้างามอย่างไม่พอใจนัก เพราะเขาเคยคุยเรื่องนี้กับหญิงสาวมานานแล้ว
แต่ไม่คิดว่าเขาจะได้รับการปฏิเสธทุกครั้ง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด เธอถึงไม่ยอมให้เขาไปฮาซัสด้วย ส่วนคนที่ทำหน้าเครียด
เมื่อรุ่นพี่หนุ่มกำลังรุกเธอจนเกินเหตุ กี่ครั้งแล้วที่เธอปฏิเสธเรื่องที่เขาขอไปเที่ยวอาซัสกับเธอด้วย
แต่เธอก็ไม่เคยอนุญาตให้เขาเดินทางกลับไปอาซัสพร้อมเธอเลยสักครั้ง เพราะเธอรู้ดีว่าหากพาเขากลับไปด้วย เธออาจจะมีปัญหากับเขาคนนั้น คนที่เธอไม่อยากนึกถึงและไม่อยากพบเจอ
ยิ่งนึกถึงยามเขาอารมณ์เสีย เธอก็ยิ่งกลัว เพราะเขาไม่พอใจอะไรก็มักจะมาลงที่เธอเสมอ
“ตกลงรอบนี้คุณจะไม่ให้ผมไปด้วยอีกแล้วใช่ไหม”
“ดาด้าไม่อยากมีปัญหากับ...”
“กับใครหรือดาด้า” ฟารีดาถึงกับพูดไม่ออก
เมื่อนึกไปถึงบุตรชายเพียงคนเดียวของอดีตชีคคาราเซียน่า
“อย่าไปพูดถึงเขาเลยคุณคาร์ลอส เอาไว้ดาด้าจัดการเคลียร์ปัญหาที่นั่นเรียบร้อยแล้ว ดาด้าจะพาคุณไปเที่ยวที่ฮาซัสแน่นอน แต่ตอนนี้ดาด้ายังไม่พร้อมที่จะพาคุณไปด้วย”
น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นอาการไม่ชอบใจจากนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวย เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าคาร์ลอสกำลังคิดอะไรอยู่
คาร์ลอสสบตามองฟารีดาอย่างสงสัย เกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวกับผู้ชายคนนั้น หรือมันมีเรื่องร้ายแรงระหว่างคนทั้งคู่
ชายหนุ่มได้แต่ถามตัวเองว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ อยากเป็นเพียงเพื่อนรุ่นพี่หรือว่าอยากเป็นคนรักของรุ่นน้องสาวผู้นี้ คำตอบที่ได้ก็คือ เขาอยากเป็นคนรักของเธอ
“แล้วเมื่อไรผมจะได้ไปเที่ยวฮาซัสล่ะดาด้า”
“อีกไม่นานหรอกค่ะ ดาด้าจะพาคุณไปเที่ยวฮาซัส แต่ครั้งนี้ดาด้าขอกลับไปคนเดียวก็แล้วกัน อีกอย่างดาด้าก็ไปไม่นานเสียหน่อย คุณก็รู้นี่นาว่าดาด้าจะต้องมาสอบสัมภาษณ์งานที่นี่อีก”
ฟารีดาบอกให้อีกฝ่ายเข้าใจ หญิงสาวได้แต่หวังเอาไว้ว่าเขาคงจะไม่คิดอะไรเกินเลยกับเธอ เหมือนอย่างรุ่นพี่ร่วมคณะคนอื่นๆ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เธอก็คงจะทำใจลำบากน่าดู คนที่เธอรักจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น คนที่เธอไม่สามารถที่จะรักและครอบครองหัวใจของเขา คนที่เกลียดเธอคนนั้น เธอรู้ดีว่าเขาคงไม่มีวันรักเธอ เพราะเขาเกลียดเธอมากที่สุดในชีวิต
‘ฉันจะไม่มีวันรักเธอฟารีดา จำใส่สมองของเธอเอาไว้ ฉันเกลียดเธอ’
‘แต่ฟารีดารักพี่คาลิคจริงๆ นะคะ’
ฟารีดาบอกอีกฝ่ายอย่างเจ็บปวด เธอรักเขาด้วยใจจริง รักเขามาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาช่วยเธอตอนที่เธอตกลงไปในสระว่ายน้ำ
‘แต่ฉันเกลียดเธอ จำเอาไว้ฟารีดา เธอเป็นใครแล้วฉันเป็นใคร อย่าหวังอะไรที่มันสูงจนเกินไป เพราะคนอย่างฉันไม่มีทางรักผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอแน่นอน’
คาลิคมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างเหยียดหยาม ยัยบ้านี่คิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงกล้ามาบอกว่ารักเขา ชายหนุ่มได้แต่นึกสมเพชเด็กสาวที่ท่านชีคคาราเซียน่าผู้เป็นพระมารดารับอุปการะเมื่อหลายปีก่อน
ฟารีดามองใบหน้าคมคายด้วยความเจ็บปวด น้ำตาคลออยู่บนดวงตาคู่หวาน เธอผิดเองที่ดันหลงรักลูกชายของผู้มีพระคุณ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เขาเป็นใคร เธอก็แค่อยากจะบอกให้เขารู้ความรู้สึกที่เธอมีกับเขาเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายเธอขนาดนี้
ไม่รักคำเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องถึงขนาดด่าทอ ต่อว่าเธอด้วยถ้อยคำที่รุนแรงถึงเพียงนี้ ฟารีดาเงยหน้าขึ้นมามองผู้ชายที่เธอหลงรักอีกครั้ง ก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องหนังสือ หากไม่รักเธอก็ไม่ว่า แต่ทำไมต้องทำร้ายจิตใจของเธอด้วย ในเมื่อเขาไม่รักแล้วทำไมเธอจะต้องรักเขา
“เป็นอะไรหรือเปล่าดาด้า ทำไมเงียบไปเลย”
คาร์ลอสถามเมื่อเห็นอาการนิ่งเงียบของฟารีดา สายตาคู่คมมองใบหน้างามอย่างเป็นห่วง ไม่รู้ทำไมเวลาเขาเห็นอาการนิ่งเงียบของรุ่นน้องสาวคนนี้ เขาก็มักจะรู้สึกเจ็บแปลบที่ใจเสมอ
“อ๋อ...เปล่าหรอกค่ะ ดาด้าไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย”
ฟารีดาเงยหน้าขึ้นมาตอบคาร์ลอสด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ยิ่งเห็นแววตาเจ็บปวดของเขา เธอก็รู้แล้วว่าเขาคิดเช่นไรกับเธอ แต่เธอคงจะมอบหัวใจดวงนี้ให้กับใครไม่ได้แล้ว ถึงแม้ใครคนนั้นจะไม่รักเธอ แต่เธอก็ไม่พร้อมที่จะมอบหัวใจให้ใครเหมือนกัน
“แน่ใจนะ ผมเห็นดาด้านั่งเงียบแถมยังเหม่ออีก ไม่สบายใจอะไรเล่าให้ผมฟังได้นะดาด้า อย่าลืมสิว่าผมเป็นรุ่นพี่ของคุณนะ ที่สำคัญผมยังรักคุณด้วย สิ่งไหนที่ผมช่วยได้ ผมก็อยากจะช่วย”
“คุณคาร์ลอส”
ฟารีดาถึงกับชะงักไปนิด เมื่อได้ยินคำว่ารักจากปากของรุ่นพี่หนุ่มคนนี้ หลายปีที่ผ่านมาเขาอยู่เคียงข้างเธอมาเสมอ ไม่ว่าเรื่องอะไร เขาก็พร้อมที่จะทำเพื่อเธอ แต่ในอดีตเขาบอกเธอเพียงแค่ว่า เขาอยากมีน้องสาว ดังนั้นจึงขอให้เธอเป็นน้องสาวของเขา แต่ทำไมวันนี้เขาถึงเปลี่ยนความรู้สึกได้ล่ะ
“ไม่ต้องทำหน้าประหลาดแบบนั้นเลยนะดาด้า”
คาร์ลอสบอกอย่างหยอกเย้า การที่เขาหันมารักแล้วมันแปลกมากนักหรือ ในเมื่อเขารักเธอตั้งแต่แรกเห็น เพียงแต่ไม่เคยได้บอกความจริงไปเท่านั้น แม้ตอนนั้นเขาจะบอกฟารีดาว่าคิดกับเธอแค่น้องสาว หากแต่ในใจเขากลับรักเธอจนหมดหัวใจ โดยไม่สามารถรักผู้หญิงคนไหนได้อีกแล้ว
“คนเรามันก็เปลี่ยนความรู้สึกกันได้ไม่ใช่เหรอ อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นสิ ผมใจเสียนะดาด้า อีกอย่างคุณก็ยังไม่มีใครไม่ใช่เหรอ การที่จะรับผมไว้พิจารณาสักคนคงไม่มีปัญหาใช่ไหม”
“แต่ดาด้าคิดว่าคุณเป็นพี่ชายมาตลอดเลยนะคะ”
ฟารีดาบอกอย่างงงๆ เธอไม่คิดว่ารุ่นพี่หนุ่มคนนี้จะคิดเกินเลยกับเธอถึงเพียงนี้ อย่างมากก็แค่ชอบ แต่นี่มันเกินคำว่าชอบไปมากทีเดียว หญิงสาวได้แต่นึกสงสัย ว่าเหตุใดชายหนุ่มตรงหน้าเธอนี้ถึงได้รักเธอ
“ไม่รู้ล่ะ ตอนนี้ดาด้าก็รู้ความรู้สึกของผมแล้ว ดังนั้น คราวหน้าผมจะไปหาคุณที่ฮาซัสแน่นอน ถึงคุณไม่ยอมพาผมไปก็ไม่เป็นไร เพราะผมไปเองได้”
คาร์ลอสบอกอย่างหนักแน่น คราวนี้เขายอมให้ฟารีดากลับไปฮาซัสเพียงคนเดียว แต่ครั้งหน้าเขาจะต้องเดินทางไปยังบ้านเกิดเมืองนอนของผู้หญิงที่เขารักให้ได้
ที่สำคัญเขาอยากเห็นหน้าผู้ชายที่ทำให้สาวน้อยในดวงใจของเขาต้องหวาดกลัวสักครั้ง อยากรู้ว่าเขาคนนั้นของฟารีดาน่ากลัวตรงไหน
“ก็ได้ค่ะ”
“ทันทีที่ถึงฮาซัส ดาด้าโทรมาบอกผมด้วยก็แล้วกัน ผมจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ได้สิคะ ดาด้าถึงฮาซัสเมื่อไร ดาด้าจะโทรมารายงานกับคุณพี่ชายทันที ไม่ต้องเป็นห่วง ว่าแต่ตอนนี้ดาด้าต้องรีบไปเก็บเสื้อผ้าแล้ว เดี๋ยวจะตกเครื่อง”
ฟารีดาพยักหน้าอย่างเบาใจ อย่างน้อยเธอก็ทำให้แผนการที่คาร์ลอสจะไปฮาซัสกับเธอล้มเหลวอีกครั้ง หากนับดูครั้งนี้คงเป็นครั้งที่ห้าแล้วกระมังที่ชายหนุ่มขอให้เธอพาเขาไปเที่ยวบ้านเกิดของเธอรัฐฮาซัส ซึ่งติดพรมแดนระหว่างตุรกีกับซีเรีย
รัฐอาซัสเป็นเพียงรัฐเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างรอยต่อของตุรกีกับซีเรีย เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของฮาซัสก็จะเป็นการทำอัญมณี เพชรพลอยและเครื่องประดับต่างๆ อีกหลายชนิดและยังมีส่วนประกอบ เครื่องจักรกล คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ เครื่องใช้และเครื่องตกแต่งภายในบ้านเรือน ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ สินค้าเศรษฐกิจของรัฐฮาซัสจะผสมผสานระหว่างตุรกีกับซีเรีย
...โปรดติดตามตอนต่อไป...