สี่ชั่วโมงต่อมา
ณ...ห้องทำงานของท่านประธานใหญ่แห่งอัสมาอิลกรุ๊ป
ใบหน้าคมฉายแววบึ้งตึงจนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับขนลุกซู่ อาจเพราะตอนนี้พวกเขารับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตจากชายหนุ่มร่างสูง หุ่นกำยำ หลังจากที่พวกเขาได้ฟังเรื่องทั้งหมด
ทุกคนต่างก็ลงความเห็นว่าตอนนี้เจ้าเพื่อนรักจอมเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าคนนี้ กำลังถูกพระมารดาบังคับให้แต่งงาน
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิวะคาลิค แค่แต่งงานเองไม่เห็นจะร้ายแรงอะไรเลยนี่หว่า”
คนที่เห็นเรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องไร้สาระเอ่ยขึ้น ใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกช่างประสานกับหัวใจเจ้าชายหนุ่มแห่งนูกานา รัฐหนึ่งในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มั่งคั่งไปด้วยอัญมณีที่ดีที่สุดของโลกในเวลานี้
“หุบปากไปเลยนะราชิต นายไม่ลองมาเป็นฉันไม่มีวันเข้าใจหรอก ถ้าเกิดพ่อนายบังคับให้นายแต่งงาน นายจะแต่งไหม”
คาลิคสวนกลับราชิต หรือ ราชิต ซามา อัสมูซา อย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มไม่เชื่อหรอกว่าราชิตจะยินดีแต่งงานกับผู้หญิงที่บิดาเลือกให้
“แต่ถ้าผู้หญิงที่พ่อฉันเลือกมาให้สวย น่ารัก เรียบร้อยเหมือนฟารีดา ก็ไม่แน่หรอกคาลิค ฉันอาจจะตกลงแต่งงานโดยไม่คัดค้านเลยนะ”
ราชิตตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ชายหนุ่มหันไปมองบรรดาเพื่อนๆ ที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ อย่างสบายใจ
“เหอะ!” คาลิคทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจกับความคิดของเพื่อน
“ฉันจะบอกให้แกรู้เอาไว้นะคาลิค ฟารีดาเป็นผู้หญิงสวย น่ารัก เรียนก็เก่ง ฉันว่าแกโชคดีที่ได้แต่งงานกับเธอ หรือนายว่าดีไหมชารีฟ”
ราชิตหันไปขอความเห็นจากชารีฟ หรือชีค ชารีฟ อับดุลลาร์ ชีคหนุ่มรูปหล่อมาดขรึม เข้าใจยากและที่สำคัญจีบหญิงไม่เก่ง แม้จะเป็นถึงผู้ปกครองรัฐ แต่ก็ไม่เคยถือตัวว่าตัวเองเป็นชีคยามอยู่กับเพื่อนๆ แต่หากเป็นคนอื่นล่ะก็ ชีคหนุ่มผู้นี้จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทีเดียว
“ไม่รู้สิ ฉันไม่ขอออกความเห็น”
เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าคาลิคจะเป็นเช่นไร เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่การตัดสินใจของเพื่อนมากกว่า เรื่องบางเรื่องเขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่เรื่องการแต่งงานของเขา จะไม่ถูกใครหรือคนใดบังคับได้เป็นแน่ เขาจะแต่งงานกับคนที่เขารักเท่านั้น
“ฉันว่านายคิดมากไปหรือเปล่าคาลิค ฟารีดาอาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ บางทีถ้าท่านป้ารู้ ท่านอาจจะยกเลิกงานแต่ง”
เทฟาเซีย หรือ เจ้าชายเทฟาเซีย โนอา โฮบิลเอล มูฮัมหมัดแห่งโคเบีย เอ่ยขึ้น เพราะเมื่อไม่นานมานี้เขาได้เจอกับฟารีดาที่ฝรั่งเศส ตอนที่เขาเข้าไปทัก ข้างกายของเธอก็ยังมีหนุ่มหล่อยืนอยู่ข้างกายด้วย ดังนั้นเรื่องที่คาลิคจะถูกบังคับให้แต่งงานอาจจะไม่เป็นจริงก็ได้ หากท่านป้าราเซียน่ารู้ว่าว่าที่ลูกสะใภ้มีแฟนอยู่แล้ว
“นายหมายความว่าอย่างไร” คาลิคเงยหน้าแล้วหันมามองเทฟาเซียด้วยความสงสัย
“ไม่เห็นมีอะไรน่าสงสัยนิคาลิค เมื่อหลายวันก่อนฉันไปเจอฟารีดากับเพื่อนชายของเขาที่ฝรั่งเศส ถ้าจำไม่ผิดผู้ชายคนนั้นชื่อคาร์ลอส ลาสดิเย่ ลูกชายของนักธุรกิจใหญ่ด้านไอทีชื่อดังของฝรั่งเศส เอลดินอฟ ลาสดิเย่”
“แล้วนายไปทำไมที่ฝรั่งเศส”
“ฉันก็ไปเที่ยวบ้างสิ พอดีฉันผ่านไปหน้ามหาวิทยาลัยที่ฟารีดาเรียนอยู่ก็เลยได้เจอเขา”
เทฟาเซียตอบอย่างอารมณ์ดี ขนาดเขาเห็นเพียงแค่แวบแรก เขายังรู้สึกชอบเลย ไม่รู้ว่ากี่ปีแล้วนะที่คาลิคกับสาวสวยผู้นี้ไม่ได้เจอกัน เขาอยากรู้เหลือเกินว่าหากเจ้าเพื่อนจอมดื้อด้านคนนี้ได้พบฟารีดาแล้ว
จะยังพูดแบบนี้อีกไหม หลายปีที่ผ่านมา เขาได้เจอกับเธอหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินเธอถามถึงคาลิคเลย
ไม่รู้ว่าสองคนนี้มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า?
“หรือนายไม่เคยเจอฟารีดา ฉันเจอฟารีดาออกจะบ่อย ยังเคยไปนั่งทานข้าวด้วยกันเลย เวลาที่ฉันไปเที่ยวฝรั่งเศส” คราวนี้เป็นครอส คัลลิสโต้ ลูกชายของเจ้าของบริษัทน้ำมัน คัลลิสโต้ ออย เป็นคนถามขึ้น หลังจากที่เขานั่งเงียบมานาน
“ฉันเองยังเคยเจอฟารีดาเลย ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ สวย น่ารักเป็นบ้าเลย เวลายิ้มก็ทำให้โลกสดใสขึ้นมาเลย” เขายังจำรอยยิ้มของเธอได้เป็นอย่างดี รอยยิ้มที่อ่อนโยน กิริยามารยาทก็น่ารัก หากไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ก็นับว่าผิดปกติเต็มที
“ดูท่านายจะปลื้มผู้หญิงคนนี้น่าดูเลยนะ ครอส”
คาลิคเริ่มประชดเพื่อน ทำไมมีแต่เพื่อนเขาล่ะที่ได้เจอกับฟารีดา ขนาดเขาอยู่พระราชวังฮาซัสกับคฤหาสน์อัสมาอิล ยังไม่เคยได้เจอกันเลยในช่วงสี่ปีมานี่ อาจเพราะหญิงสาวขอพระมารดาเขาไปเรียนที่ฝรั่งเศสก็ได้ เลยทำให้เขาไม่เคยได้เห็นเธอ
“ก็สวยน่ารักซะขนาดนั้น ใครบ้างจะไม่ชอบวะ อย่าว่าแต่ฉันเลย โนอายังชอบเลย จริงไหมเพื่อน”
ชายหนุ่มหันไปส่งยิ้ม ยักคิ้วให้กับเพื่อนอย่างหยอกล้อ อย่าว่าแต่เขาเลยที่ชอบในความน่ารักของสาวน้อยฟารีดา ไม่ว่าจะเป็นเทฟาเซีย ราชิตและ ชารีฟต่างก็รักและเอ็นดูฟารีดากันทั้งนั้น พวกเขายังเลยคิดเลยว่าหากมีน้องสาวนิสัยแบบนี้สักคนคงจะดีไม่น้อย
“ฉันรักฟารีดาเหมือนน้องสาวโว้ย ครอส นายอย่ามาพูดแบบนี้สิ”
คนที่ถูกพาดพิงถึงกับหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ใครบ้างไม่อยากได้ฟารีดาเป็นน้องสาว สวย น่ารัก นิสัยดี เรียนเก่ง ถ้าหากเขามีน้องสาวแบบนี้ รับรองได้เลยว่าเขาจะต้องมีเรื่องสนุกๆ ให้ทำอีกเพียบ
แถมยังมีคนมาให้ออกกำลังอีก หึๆ นี่ถ้าหากคาลิครู้ว่ามีหนุ่มๆ ตามจีบฟารีดากันตรึมจะเกิดอะไรขึ้นหนอ…
“แล้วฉันว่าอะไรนายหรือยัง เจ้าชายเทฟาเซีย โนอา โฮบิลเอล มูฮัมหมัด”
ครอสเรียกชื่อเต็มของเพื่อนออกมาอย่างกวนๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเทฟาเซียคิดเช่นไรกับฟารีดา เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าไอ้คนที่บอกว่าเกลียดนี่สิ กำลังคิดอะไรกับฟารีดาอยู่กันแน่
“นายเจอฟารีดาบ้างหรือเปล่าคาลิค” ราชิตหันมาถาม
“ฉันไม่ได้เจอยัยนั่นมาเกือบสี่ปีแล้ว และฉันก็ไม่อยากเจอด้วย พวกนายไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด ฉันว่าพวกนายคงตาถั่ว ที่คิดว่ายัยนั่นสวย น่ารัก เพราะถ้าเป็นอย่างที่พวกนายเล่ามา ฉันก็คงจะไม่ต้องแต่งงานกับหล่อน”
คาลิคเริ่มคิดแผนกำจัดฟารีดาขึ้นมาทันที เขาจะไปบอกพระมารดาว่า ว่าที่ลูกสะใภ้ของท่านมีคู่รักอยู่แล้ว แค่นี้เขาก็รอด บางทีพระมารดาของเขาอาจจะเลิกสนใจฟารีดาแล้วหันมารักเขาเหมือนเดิม เพราะเท่าที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเขาจะถูกแย่งความรักจากครอบครัวไปเพราะผู้หญิงคนนี้เสมอ
“อย่าบอกนะว่านายจะไปบอกท่านป้าว่าฟารีดามีแฟนแล้ว”
ชารีฟเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าเจ้าเล่ห์แกมร้ายกาจของเพื่อน เห็นทีคาลิคคงจะเกลียดฟารีดาจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่คิดแผนบ้าๆ แบบนี้ขึ้นมาหรอก เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่ไปบอกหรอกว่าฟารีดามีแฟน แต่เขารู้ดีว่าไอ้เพื่อนบ้าคนนี้จะต้องวางแผนมากกว่านั้น
“ของมันแน่อยู่แล้วเพื่อน ฉันไม่มีทางแต่งกับผู้หญิงมั่วผู้ชายแบบนั้นหรอก”
“ฉันว่านายพูดแรงไปแล้วคาลิค ถึงจะมีผู้ชายมาชอบฟารีดาเยอะ ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะทำตัวไม่ดีนี่หว่า ฉันว่านายน่ะใส่ร้ายฟารีดามากไป”
ครอสเริ่มไม่เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อน เพราะเท่าที่เขารู้จักและสนิทกับฟารีดามา หญิงสาวดูจะเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย อ่อนโยนเสียด้วยซ้ำ เรื่องที่คาลิคพูดเขาไม่มีทางเชื่อหรอก
“แล้วนายรู้ได้อย่างไรครอส หรือว่านายก็เป็นหนึ่งในผู้ชายของยัยฟารีดา”
“พูดบ้าๆ ไอ้คุณชีค ฉันรักฟารีดาเหมือนน้องนะโว้ย ไม่ได้คิดลึกอย่างที่แกบอกหรอก ถ้าฉันมีน้องสาวแบบฟารีดา ชีวิตนี้คงจะมีความสุขน่าดู”
ชายหนุ่มนึกไปถึงเรื่องราวสนุกๆ ในอนาคตหากเขามีน้องสาว อย่างน้อยเขาก็จะได้มีความสุขกับการที่มีน้องสาวให้คอยเป็นห่วงเป็นใย ครอสยิ้มกับความคิดของตัวเอง
“ฉันว่าพวกเรามาเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า พูดถึงเรื่องฟารีดาแล้วชักจะทะเลาะไปกันใหญ่”
“เออ...ฉันก็เห็นด้วย” ชารีฟพยักหน้าเห็นด้วย
“ฉันก็เหมือนกัน” เทฟาเซียพยักหน้ากับความคิดของราชิต
“พวกนายน่าจะเปลี่ยนเรื่องตั้งนานแล้ว”
คาลิคบอกอย่างไม่พอใจนิดๆ เมื่อเพื่อนๆ มัวแต่พูดเรื่องของฟารีดา เขาล่ะเซ็งกับเรื่องนี้เต็มที แต่ก็เอาเถอะเขาก็หาทางทำให้เจ้าหล่อนยอมยกเลิกงานแต่งได้แน่นอน เพียงแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเท่านั้น
...โปรดติดตามตอนต่อไป...