ถึงจะไม่เคยเห็น แต่หลินซานซานก็รู้เพราะร่างกายของคนตรงหน้าหาได้มีองค์เอวเฉกเช่นสตรีเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะพิศทางไหนก็เป็นร่างกายของบุรุษ กล้ามเนื้อแกร่ง หน้าอกราบเรียบ มิหนำซ้ำยังมี...มี...
จะกรีดร้องก็ทำไม่ได้เพราะตกใจจนคลำหาเสียงของตนเองไม่เจอ ขณะที่จางอี้ซวนตระหนักได้ว่าตนเองอยู่ในสภาพใด รีบคว้าเอาอาภรณ์ที่ตกอยู่บนพื้นมาสวมปกปิดร่างกายตนเอง ว่าออกมาด้วยสีหน้าราบเรียบ
“มีสิ่งใดกับพี่สะใภ้ของเจ้าหรือ”
ยังมีหน้ามาเรียกแทนตัวเองว่าพี่สะใภ้อีก มังกรน้อยบินถลาเล่นลมให้นางเห็นขนาดนี้ พี่สะใภ้อะไรกัน!
สวรรค์! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!
ดวงตาเบิกโพลง ใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ หากแต่หาใช่เพราะเขินอาย เป็นเพราะพรั่นพรึงกับสิ่งที่เห็นเต็มสองตามากกว่า
หนึ่งคือพี่สะใภ้ที่กลายเป็นบุรุษ และสองคือมังกรของพี่สะใภ้!
พลันนางก็รีบหุนหันตั้งท่าจะหนีออกไปด้านนอก จางอี้ซวนเห็นอย่างนั้นก็มิอาจยอมปล่อยให้นางไปได้ รีบถลาเข้าไปดักหน้า ใช้ร่างกายที่พร่างพราวไปด้วยหยดน้ำขัดขวางนางเอาไว้
“อย่าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีออกไปโดยง่าย”
เขาว่าเสียงต่ำ สร้างความหวั่นเกรงให้กับหลินซานซานมากขึ้นไปอีก ดวงตากลมโตสั่นระริก ประกายความหวาดหวั่น ดวงหน้าพริ้มเพราซีดขาว นางหวาดกลัวบุรุษตรงหน้าเหลือเกิน แต่กระนั้นก็ต้องพาตนออกไปจากที่แห่งนี้ให้จงได้
นางหลุบตัวลงต่ำ เบี่ยงตัวหลบหมายจะพุ่งไปที่ประตู ทำให้อีกฝ่ายต้องร้องเรียกเสียงเขียว
“จะไปไหน”
จางอี้ซวนเข้าไปฉุดแขนของหญิงสาวให้กลับมาอยู่จุดเดิม หลินซานซานเบิกตาโพลง ดิ้นหนีสุดแรง
“ปล่อยข้า! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”
ใครจะปล่อยให้นางออกไปบอกความลับของเขากัน จางอี้ซวนไม่ปล่อยไม่พอ ยังพยายามจับร่างเล็กๆ ของนางให้หยุดดิ้น
“ข้าบอกให้ปล่อยข้า!”
เกิดเป็นความชุลมุนแล้ว นางร้องเสียงดังไม่หยุดด้วย จางอี้ซวนขมวดคิ้วมุ่น หากมีใครได้ยินเสียงของนางเข้า มิเป็นเรื่องใหญ่หรือ?
“อยู่นิ่งๆ !”
เขาตัดสินใจออกแรงตรึงนางให้อยู่กับที่มากกว่าเดิม แกล้งบีบแขนนางแรงๆ เพื่อให้ความเจ็บปวดสะกดให้นางหยุดดิ้นพล่าน แต่ก็หาได้ช่วยอะไรสักนิด หลินซานซานดิ้นขลุกขลักไม่หยุด เรียวคิ้วกระบี่ของจางอี้ซวนขมวดมุ่นกว่าเดิมแล้ว
“ข้าบอกให้อยู่นิ่งๆ !”
ยิ่งเสียงดังก็ยิ่งทวีความน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม องคาพยพบนใบหน้าคร้ามดูโกรธเกรี้ยว หลินซานซานก็หวาดกลัวอยู่หรอก แต่หากเชื่อฟังเขา นางมิต้องเดือดร้อนกว่าเดิมหรือ? เขามาดีหรือมาร้าย ผู้ใดเล่าจะรู้!
“ข้าไม่หยุด! ปล่อยข้านะ!”
เหตุใดนางจึงดื้อด้านเช่นนี้!
จางอี้ซวนบริภาษในใจ เขาตั้งใจว่าหากนางตั้งสติได้เมื่อไร จะอธิบายแท้ๆ ว่าสิ่งที่นางเห็นคืออะไร แต่นางกลับดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด เป็นเช่นนี้เขาจะอธิบายได้อย่างไนกันล่ะ
“ข้าสั่งให้เจ้าหยุด! จงหยุด!”
“ไม่! ข้าไม่หยุด! ช่วย...อุ๊บ!”
นางทำท่าจะร้องขอความช่วยเหลือ จางอี้ซวนเห็นก็ตะครุบกลีบปากสีสวยนั้นไว้มั่น ฉับพลันก็เกิดเป็นความชุลมุนอลหม่าน สตรีดิ้นรนขัดขืน บุรุษตรึงร่างให้อยู่กับที่ วุ่นวายกันอยู่พักใหญ่จนบังเกิดเป็นความพลาดพลั้งที่ชวนให้อัปยศ มือของจางอี้ซวนที่หลายจะคว้าหัวไหล่หลินซานซานที่หมายจะหนีพลาดไปประทับลงไปยังหน้าอกนุ่มหยุ่นข้างหนึ่ง เขาถึงกับชะงักเมื่อประจักษ์ได้ว่ามือของตนวางทาบอยู่กับสิ่งใด
อื้อ...หือ...
ผู้ใดเล่าจะคิดว่าร่างเล็กแต่กลับเต็มไม้เต็มมือเช่นนี้ ถึงกับเผลอจับอยู่อย่างนั้นเสียนาน ก่อนจะได้สติ
ไม่! ถึงสิ่งนั้นมันจะนุ่มพอดีมือเพียงใด เขาก็ไม่ควรฉวยโอกาสกับนาง จางอี้ซวนชักมือออกทันที ขณะที่หลินซานซานได้แต่อ้าปากค้าง น้ำตาคลอหน่วยด้วยประหวั่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น พลันส่งเสียงสะอื้นออกมา
“ทะ...ท่านจับหน้าอกข้า!”
สวรรค์! ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะมีบุรุษมาแตะเนื้อต้องตัว แล้วเหตุใดครั้งแรกของนางจะต้องเป็นพี่สะใภ้กำมะลอผู้นี้ด้วย!
คิดแล้วก็เต้นเร่าๆ อยากจะกัดลิ้นตายเสียตรงนั้น นางไม่บริสุทธิ์เพราะถูกพี่สะใภ้ล่วงเกินเสียแล้ว!
จางอี้ซวนเห็นก็เลิกเคลิบเคลิ้มกับความนุ่มมือทันใด ตระหนักได้ถึงความผิดตน รีบแก้ตัวพัลวัน
“เมื่อครู่นี้ชุลมุน เจ้าไม่หยุดดิ้น มือข้าก็เลยเผลอไปโดน หากเจ้าเงียบเสียง ยอมฟังข้าตั้งแต่คราแรก ข้าก็คงไม่พลั้งมือไปล่วงเกินเจ้าอย่างนี้”
แม้จะแก้ตัว แต่ก็มิวายกล่าวโทษนาง หลินซานซานเม้มริมฝีปากแน่น ตัวสั่นระริกด้วยโกรธกรุ่น
“ท่านจับของข้า”
“ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
“จับเสียนาน เช่นนี้เรียกว่าไม่ได้ตั้งใจหรือ!”
โวยวายมาอย่างนี้ จางอี้ซวนก็ขมวดคิ้วมุ่น
“ข้าบอกแล้วว่าหาได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ”
อุบัติเหตุกับมารดาท่านน่ะสิ! จับมาเต็มไม้เต็มมือเช่นนั้น ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นอุบัติเหตุอีกหรือ!
“แต่เจ้าจับหน้าอกข้า! เจ้าจับของข้า!”
หลินซานซานเสียสติในครานี้ ปล่อยโฮออกมาเสียงดังจนได้ ทั้งโกรธ ทั้งขวัญเสียจนน้ำตาไหลอาบใบหน้าเปรอะเปื้อนไปหมด จางอี้ซวนก็ไม่รู้จะทำเช่นใด ถึงเขาจะเป็นหนุ่มฉกรรจ์ แต่ก็ใช่ว่าจะช่ำชองเรื่องสตรี เมื่อครั้งอยู่ชายแดนเคยได้ยลโฉมสตรีเสียที่ไหน หันไปทางใดก็มีแต่บุรุษร่วมกองทัพ เรือนร่างสตรีก็เพิ่งจะได้ล่วงเกินเป็นครั้งแรก กล่าวได้ว่าเขายังครองพรหมจรรย์ก็ไม่แปลกนัก
แต่ในยามนี้ สตรีตรงหน้ากำลังร้องไห้โฮเพราะเขาพลั้งมือไปลวนลามนางเข้า ถึงจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ในเมื่อสัมผัสไปแล้ว มันก็...รู้สึกดี
ไม่สิ! ไม่ใช่! เขาต้องรับผิดชอบต่างหาก!
“ท่านจับของข้า! จับ...ฮึก...จับของข้า...”
หลินซานซานยังคงโวยวายประโยคเดิมไม่เลิกรา เสียงทวีดังขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย หากขืนปล่อยให้นางพร่ำพูดเช่นนี้ไม่หยุด ผู้อื่นจะต้องได้ยินเสียงนางแน่ ดังนั้นจางอี้ซวนก็เลย...