Rainy 2

1548 Words
Rainy 2 ช่วงกลางวันทำงาน ตอนกลางคืนกลับมาที่คอนโดฯ ตัวเองก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ บนโซฟา บางทีก็อยากจะแยกเวลาทำงานกับเวลาพักผ่อนออกจากกันให้ได้ แต่ไม่รู้ทำไมเวลาที่เป็นช่วงเวลาดึก ๆ หัวฉันจะแล่นและคิดงานออกแบบได้ ยังดีที่งานชิ้นก่อนหน้านี้ปิดจบไปแล้วและกำลังอยู่ในขั้นตอนการส่งผลิตก่อนจะส่งออกไปยังหน้าร้านของเรา ซึ่งมีทั้งภายในประเทศมีสามสาขา และมีนอกประเทศอีกเกือบยี่สิบสาขา เพราะแบบนี้เราสองพี่น้องเลยต้องทำงานกันอย่างหนักส่วนพ่อกับแม่ยังคงทำงานอยู่เหมือนเดิม แต่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา นั่งนิ่ง ๆ อยู่ในห้องสักพักโทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้ามา ฉันยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายก่อนจะพบว่าเป็นคนส่งอาหาร ได้ยินแบบนั้นก็หยิบกระเป๋าสตางค์ก่อนจะเดินออกจากห้องพักไปลงไปรับข้าวที่สั่งมา ชุดหมูกระทะถูกวางลงบนโต๊ะกินข้าว เสร็จแล้วก็เดินไปเตรียมกระทะย่างไฟฟ้าจนเรียบร้อยถึงได้เดินไปเตรียมน้ำแข็งใส่แก้วเพื่อเทน้ำอัดลม เตรียมทุกอย่างเสร็จก็เริ่มคีบหมูและสามชั้นลงไปย่างบนเตาไฟฟ้า ระหว่างนี้ก็เลื่อนดูสิ่งที่น่าสนใจในโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ แต่ยังไม่ทันจะได้ดูอะไรเป็นชิ้นเป็นอันโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเคียงข้างแก้วน้ำอัดลมก็ส่งเสียงเรียกเข้ามาเสียก่อน “ค่ะแม่” คนสวยของฉันโทร.มาในช่วงเวลาหนึ่งทุ่มแบบนี้ มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่านะ (คนสวยของแม่หนูทำอะไรอยู่ลูก?) น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยถามอย่างน่ารัก “หนูกำลังกินข้าวค่ะแม่” (หนูกินกับอะไรคะ?) “หมูกระทะค่ะ” (คนสวยของแม่กินหมูกระทะทุกสัปดาห์เลยนะเนี่ย) ปลายสายเอ่ยแซวน้ำเสียงเจือแววขบขัน ทั้งยังหัวเราะออกมาให้ได้ยินเบา ๆ อีกด้วย “หนูอยู่ลัทธิหมูกระทะค่ะ ว่าแต่แม่โทร.มามีอะไรด่วนหรือเปล่าคะ” ระหว่างที่ถามมือก็ยื่นไปพลิกหมูบนเตาไฟฟ้าตรงหน้าไปเรื่อย ๆ (พี่รินเล่าให้แม่ฟังแล้วค่ะ ที่หนูอยากไปพักผ่อน) “อ๋อ ค่ะแม่” ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้อยู่ต่อหน้าแม่แต่ฉันกลับพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ (แม่ถามมณีเขาแล้วนะลูก บอกว่าพักได้ เดี๋ยวให้ไปพักที่บ้านของมณีเขาที่ปัว) “จะไม่รบกวนป้ามณีเกินไปเหรอคะแม่” (แม่เองก็เกรงใจ แต่มณีเขายืนยันว่าไม่เป็นอะไร อีกอย่างลูก ๆ ของมณีก็แต่งงานอยู่ที่นั่นหนูจะได้มีคนช่วยดูแลหรือแนะนำที่เที่ยวด้วยไง) “แบบนั้นก็ได้ค่ะแม่ แต่หนูไม่รู้ว่าพี่รินอนุมัติวันลาพักหนูกี่วัน” (สามเดือนมั้งถ้าแม่ฟังไม่ผิด ให้พักผ่อนให้หัวโล่งไปเลย แต่เวลามีประชุมก็คอนเฟอเรนซ์เอานะลูก) “ได้ค่ะแม่” (เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ไปกินข้าวเที่ยงด้วยนะคะคนสวย แล้วเราค่อยคุยกันต่อนะ” “ค่ะแม่ แม่เองก็พักบ้างนะ อย่ามัวแต่แกล้งพ่อ” ก่อนวางสายไม่ลืมแซวแม่ตัวเองกลับไป พ่อฉันน่ะขี้หึงขี้หวงแม่มาก คลั่งรักสุด ๆ แม่ก็ชอบแกล้งให้พ่องอแง พอพ่องอนก็โทร.มาฟ้องลูก บอกเลยปวดหัวมากค่ะ แต่ก็น่ารักดีนะแบบนั้นน่ะ หลังจากที่วางสายจากแม่ฉันก็นั่งปิ้งย่างหมูบนเตาย่างต่ออย่างไม่เร่งรีบ หมูย่างเกรียม ๆ น้ำจิ้มแซ่บ ๆ ทำให้ฉันถึงกับยกยิ้มมีความสุขเวลาได้กินของอร่อยทั้งยังเป็นเมนูที่ชอบแบบนี้ เวลาปิดจบงานของทีมฉันกับพี่ ๆ ในทีมหากไม่ไปกินชาบูก็จะไปกินหมูกระทะนี่แหละ เมนูประจำทีมเลยก็ว่าได้ เกือบสามทุ่มฉันถึงกินหมูกระทะเสร็จ หลังจากที่เก็บของทำความสะอาดทุกอย่างเรียบร้อยก็เอาเศษอาหารต่าง ๆ ไปทิ้งที่ถังขยะของคอนโดฯ ก่อนจะกลับขึ้นมาทำความสะอาดห้องพัก จนไร้กลิ่นควัน นั่นจึงทำให้ฉันเดินกลับเข้าไปยังห้องนอนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด เตรียมพักผ่อนสำหรับคืนนี้ ชีวิตประจำวันของฉันนั้นไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด ซ้ำยังดูน่าเบื่อเกินไปสำหรับบางคนเสียด้วยซ้ำ แต่ฉันกลับมีความสุขกับรูทีนเดิม ๆ ของตัวเอง เพราะตัวฉันมั่นใจว่าไม่ได้ไปเบียดเบียนใครยังไงล่ะ แค่ใช้ชีวิตให้ตัวเองมีความสุขก็เพียงพอแล้ว อ้อ งานอดิเรกของฉันอีกหนึ่งอย่างเลยก็คือ การซื้อหนังสือค่ะ ส่วนมากจะเป็นหนังสือนิยายแต่ซื้อมาก็ไม่เคยเปิดอ่านเลยสักครั้ง ซื้อมาดองไว้ให้ตัวเองมีความสุข เพราะจะหาเวลาอ่านจนจบเรื่องนั้นยากมาก ดังนั้นขอแค่ได้ครอบครัวไว้ก่อนก็ถือว่าเป็นความสุขอีกหนึ่งอย่างของฉันแล้วล่ะ เช้าของวันถัดมาบริเวณหน้าห้องทำงานที่คุ้นเคยก็ได้รับเสียงทักทายจากเลขาฯ ที่รู้ใจเป็นสิ่งแรก “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณข้าว” “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ฟ้า ข้าวสั่งกาแฟไว้นะคะ เดี๋ยวคงมาถึงฝากพี่ลงไปรับให้หน่อยนะคะ” เดินผ่านพี่เลขาฯ เข้ามาในห้องไม่ลืมที่จะเอ่ยบอกอย่างรวดเร็ว “ได้ค่ะ คุณข้าวจะรับมื้อเช้าเป็นข้าวต้มหรือแซนด์วิชดีคะ?” พี่เลขาฯ เดินตามเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารหลายแฟ้ม “ข้าวอยากกินเค้กสักสองชิ้น” “ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้ ส่วนงานวันนี้มีตรวจแบบจากทีมต่าง ๆ และเข้าร่วมประชุมในช่วงบ่ายนะคะ “ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวข้าวทำงานต่อเลยมีอะไรค่อยแจ้งเข้ามา นะคะ” วางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงานพร้อมกับเอ่ยบอกเลขาฯ ระหว่างนี้ก็ยื่นมือไปเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเริ่มทำงานของวันนี้ เอกสารบนโต๊ะถูกยกขึ้นมาเปิดดูอย่างเชื่องช้าทั้งยังวิเคราะห์แบบไปด้วย “ข้าวยุ่งอยู่ไหม?” นั่งทำงานไปได้สักพัก ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะและเปิดเข้ามา เป็นพี่นรินทร์ที่มาหาฉันตั้งแต่เช้าของวันแบบนี้ “ไม่ค่ะ เข้ามาก่อน” กวักมือเรียกพี่ชายอย่างเป็นกันเอง เมื่อพี่นรินทร์เดินเข้ามาเลขาฯ ของฉันก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับกาแฟเย็นหนึ่งแก้วกับเค้กอีกสองชิ้น “มีของพี่ฟ้าหนึ่งแก้วนะคะ แล้วก็ของพี่นรินทร์เป็นอเมริกาโน่” บอกเลขาฯ เมื่อของว่างและกาแฟถูกวางลงบนโต๊ะแล้วเรียบร้อย พี่ฟ้าเดินออกจากห้องก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมกับกาแฟเย็นอีกหนึ่งแก้ว “เก็บสายตาหน่อยค่ะพี่ริน ใจเย็น ๆ ให้กันหน่อย” แกล้งแซวพี่ชายที่มองตามเลขาฯ ฉันจนลับสายตา “โอเค” พี่นรินทร์พยักหน้ารับก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ส่วนฉันเมื่อเห็นท่าทีผ่อนคลายของพี่ชายเพียงคนเดียวของตัวเองก็ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นดื่มสลับกับกินเค้กที่สั่งมา “แล้วมีอะไรคะ มาหาตั้งแต่เช้าเลย” “เรื่องที่เราจะไปพักร้อนนั่นแหละ ให้พักสามเดือน พักที่บ้านของเพื่อนแม่ ที่นั่นมีลูก ๆ ของป้ามณีอยู่ พี่จะได้ไม่ห่วงมากถ้าไปอยู่ นาน ๆ” “ค่ะพี่ แต่โรงแรมใกล้ ๆ ไม่มีเลยเหรอคะ?” “มี แต่ก็ห่วงความปลอดภัยนั่นแหละ อีกอย่างโรงแรมของลูกสะใภ้ป้ามณีเต็มตลอดทั้งปีเลยล่ะ พี่กับแม่เลยตัดสินใจให้พักที่บ้านของป้ามณี” “แบบนั้นก็ได้ค่ะ หนูยังไงก็ได้ ขอแค่มีที่นอนให้หนูก็พอ” บอกพี่ชายที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ตรงหน้า “อื้อ เดี๋ยวเที่ยงนี้แม่คงจะเอาเบอร์แล้วก็คอนแท็กต์ของป้ามณีให้ แล้วก็เดินทางศุกร์หน้าเลยนะ” พี่นรินทร์ย้ำอีกครั้งด้วยความเบาใจ ที่ฉันยอมตกลงอย่างง่ายดายเกี่ยวกับการไปพักผ่อนของฉัน “โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูจะจองตั๋วเครื่องบินเอง” “ได้เลย” “หนูไม่อยู่ ก็จีบเลขาฯ หนูสักทีเถอะค่ะ ชัดเจนหน่อย” “พี่จีบอยู่ตลอดเถอะ เลขาฯ เราใจแข็งจะตายยกให้พี่อยู่นู่นเลยบนหิ้ง ไม่เคยจะมองเป็นผู้ชายคนหนึ่งเลย” พี่นรินทร์ตัดพ้ออย่างน่าเห็นใจ แต่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกอยากจะหัวเราะกับใบหน้าง้ำงอของเขามากขนาดนี้กันนะ หมดกันภาพลักษณ์เจ้านายสุดขรึมของทุกคน “ก็เข้าหาเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งสิคะ พี่เข้าหาพี่ฟ้าทีไรมีแต่เอาเรื่องงานมาอ้างอะ” “นั่นสินะ ขอบใจมากเด็กน้อย เที่ยงนี้ชวนเลขาฯ เราไปกินข้าวด้วยกันล่ะ แม่เองก็อยากเจอ” ก่อนเดินออกจากห้องทำงานฉันไป พี่นรินทร์ไม่ลืมหันกลับมาย้ำทั้งยังขยิบตาส่งให้ฉันอย่างกวน ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD