ชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด เสียงฝีเท้าเดินขึ้นบันไดและตรงมายังห้อง เจ้าของใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาจับจ้องอยู่ที่ประตู และภาวนาว่าอย่าให้คนที่เดินเข้ามาเป็นเขาเลย
“พี่ชาย!!!”
หญิงสาวจ้องมองใบหน้าอันเศร้าหมองของพี่ด้วยหัวใจอันแสนจะเจ็บปวด เมื่อคิดขึ้นได้ว่าพี่ชายคือคนที่พาน้องมาประเคนให้เขาถึงเตียงนอน ส่วนพี่ก็มองน้องได้ไม่เต็มตาเลย และนั่นทำให้น้องถึงกับหัวใจแป้วขึ้นมา เมื่อคาดเดาว่าสิ่งที่เขาบอกล้วนแล้วแต่เป็นความจริง
“พี่ชายหายไปไหนมาทั้งคืน จริงเหรอคะที่เขาบอกว่าพี่เอาหญิงมาแลกกับสร้อยรัตนามณี”
“...”
กันต์กวีแทบจะเข่าทรุดเมื่อเห็นน้ำตาน้อง และไม่กล้าแม้แต่จะสบตา เพราะละอายในการกระทำของตัวเอง จนต้องเดินไปยืนเหม่อมองออกนอกหน้าต่างแล้วปล่อยให้ความเงียบเพิ่มให้บรรยากาศอึมครึมขึ้นกว่าเดิมอีกครู่ใหญ่
“พี่ชายทำกับหญิงได้ยังไงคะ!!! พี่ชายทำร้ายหญิงได้ยังไงคะ!!! พี่ชายยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า!!!”
“...”
หัวใจมันแสนจะเจ็บร้าวเมื่อความเงียบของพี่ตีความหมายได้ว่าเป็นการยอมรับโดยดุษณี นั่นยิ่งเรียกน้ำตาให้ไหลหลั่งออกมาได้มากกว่าเมื่อครู่หลายสิบเท่า มันช่างเป็นความจริงที่ยากจะยอมรับได้ว่าพี่ชายแท้ๆ จะทำน้องได้ถึงเพียงนี้ น้องที่ให้ความรักและเคารพมาตลอดชีวิตนับตั้งแต่จำความได้
น้องที่เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าตามพี่มา เพื่อหมายจะช่วยทำให้สถานการณ์อันเลวร้ายผ่านพ้นไปอย่างที่พี่บอก น้องที่ไม่ได้ระแวงเลยสักนิด ว่ากำลังจะถูกพี่พามาให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ทำลายจนย่อยยับคามือ
ความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับตัวพี่วิ่งย้อนหมุนวนเข้ามาในความคิด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ไม่เคยส่อแววใดๆ ว่าพี่จะทำร้ายน้องด้วยวิธีนี้ ด้วยวิธีที่แสนจะเลือดเย็น สงบนิ่ง ไม่ส่อพิรุธใดๆ ให้สงสัยหรือหวาดระแวงเลยแม้แต่นิดเดียว
“แล้วที่เขาบอกว่าพี่ชายเอาบ้านไปจำนองไว้มันจริงหรือเปล่าคะ!!! บอกหญิงมาสิคะพี่ชายบอกหญิงมา บอกมาว่าพี่ชายไม่มีวันทำแบบนั้นแน่นอน!!! บอกหญิงว่าเขาเข้าใจผิด!!! และบอกว่าหญิงจะไม่ต้องอยู่ที่นี่ รอให้พี่ชายหาเงินมาไถ่บ้านคืน ใช่มั้ยคะ!!!”
น้องตะคอกใส่พี่จนกายสั่นเทาด้วยความโกรธ เกลียด และเสียใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ กับการกระทำที่ไม่ได้ต่างจากผู้ร้ายฆ่าคนของพี่เลย
“พี่ขอโทษนะหญิง พี่ไม่รู้จะทำยังไง พี่ไม่มีทางเลือก พี่ไม่อยากทำให้ท่านแม่เป็นอะไรไปถ้ารู้ว่าสร้อยตกอยู่ในมือคนอื่น”
กัญญาวีร์ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ว่านี่คือพี่แท้ๆ พี่ที่จะกลายเป็นคนสืบต่อนามสกุลที่พ่อรักจะทำเรื่องที่น่าอับอายได้ขนาดนี้ แม้เมื่อครู่ร่างกายจะไร้เรี่ยวแรง แต่ก็ยังมีมากพอที่จะเดินอ้อมไปมองหน้าพี่ มองเพื่อให้แน่ใจว่านี่คือพี่ชายตัวของ
“พี่ชายเลยเอาหญิงมาแลกโดยไม่บอกหญิงสักคำอย่างนั้นเหรอคะ!!! พี่ชายทำได้ยังไงกัน!!! พี่ชายทำลายชีวิตหญิงได้ยังไงกันคะ!!!”
“พี่ยอมรับผิด พี่ไม่ขอแก้ตัวอะไร” แต่พี่ชายก็หันหนีไปอีกทาง เมื่อไม่อาจจะสู้หน้าน้องได้
น้องเองก็ไม่ยอมง่ายๆ เดินอ้อมมาอีก เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจะได้เห็นและได้ยินจากปากพี่เอง
“รวมทั้งเรื่องที่พี่ชายปลอมลายเซ็นท่านแม่เอาบ้านไปจำนองเขาด้วยหรือเปล่าคะ!!! พี่ชายทำจริงๆ เหรอคะ!!!”
“พี่ไม่มีทางเลือกนะหญิง พี่ต้องการจะแก้มือ และหวังจะเอาทุกอย่างคืนให้หมด”
“แต่พี่ชายมีทางเลือกที่จะไม่ก้าวไปหามันตั้งแต่ตอนแรกไงคะ!!! อะไรทำให้พี่ชายต้องเป็นคนที่ถูกผีพนันเข้าสิงกันคะ อะไร!! หญิงถามว่าอะไร!!!”
น้องอดทนไม่ไหวจนต้องตะคอกใส่พี่ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน
“หญิง!!! พี่แค่อยากมีเงิน อยากให้บ้านเรารวยเงิน ไม่ใช่แค่รวยศักดิ์ศรีที่กินลงไปไม่ได้ หญิงเห็นคนอื่นๆ บ้านอื่นๆ หรือเปล่า เขาร่ำรวยกว่าเรา และมองเราเหมือนครอบครัวตลก ที่บ้าราชนิกุล บ้าศักดิ์ศรี บ้าความซื่อสัตย์บ้าความจงรักภักดี ที่ไม่ได้ให้อะไรกับเราเลยนอกจากความจนลงๆ พี่ไม่อยากให้พวกเราเป็นแบบนั้น”
“แต่หญิงเชื่อว่าท่านแม่ พี่หญิง รวมทั้งตัวหญิงพอใจที่จะมีศักดิ์ศรีตามที่ท่านพ่ออยากให้มี มากกว่าต้องร่ำรวยเพราะคดโกงคนอื่น หรืออยากรวยทางลัดจนทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนแบบที่พี่ชายทำอยู่นี้!!! พี่ชายคิดหรือเปล่าคะว่าถ้าวิญญาณท่านพ่อรู้ จะเสียใจสักแค่ไหน!!! ชื่อเสียงอันดีที่ท่านสั่งสมและรักษามาจะต้องพังลงเพราะพี่!!! ท่านแม่จะต้องช็อกตายถ้ารู้ว่าพี่ชายทำอะไรกับหญิง!!! กับสร้อยรัตนามณี!!! และกับบ้านของเรา!!!”
“เพราะอย่างนี้พี่ถึงต้องยอมเอาหญิงมาแลกไงล่ะ พี่ไม่มีทางเลือกได้ยินมั้ยหญิงว่าพี่ไม่มีทางเลือ...”
ยังไม่ทันจะได้พูดจบ สองพี่น้องที่กำลังจะฆ่ากันตายอยู่ในห้อง ต่างก็หันไปหาประตูที่มีเจ้าของเงินโผล่เข้ามาโดยไม่สนใจสักนิดว่าจะมีใครอยากเห็นหน้าหรือไม่
“ขอโทษนะที่เข้ามาขัดจังหวะการสารภาพผิดของคุณสองพี่น้อง แต่! ผมมีงานล้นมือ ไม่มีเวลามากพอที่จะรออีกต่อไปแล้ว ผมแค่อยากจะเข้ามาเตือนคุณชาย ว่าช่วยกรุณาย้ำให้คุณหญิงรู้ด้วยว่า ผมจะไม่รีรอที่จะเข้าไปยึดบ้านหลังนั้น ถ้าเพียงคุณหญิงคิดจะก้าวออกจากบ้านนี้ไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม”
กันต์กวีจ้องมองใบหน้าของชายที่ตัวเองเริ่มจะไม่ชอบขึ้นเรื่อยๆ อย่างหมดหนทางต่อรอง แล้วหันไปมองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของน้องอย่างคนหมดหนทางช่วยได้
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ น้องหญิงจะอยู่ที่นี่กับคุณจนกว่าผมจะหาเงินมาไถ่บ้านคืนได้ ผมรับประกันด้วยชีวิต”
แล้วเขาก็เดินไปหาประตูอย่างรวดเร็ว จนสิงหรัฐที่ยืนกอดอกยิ้มอย่างพอใจอยู่ต้องรีบหลบให้ แต่เขาก็ยังไม่ออกจากห้อง แถมหันกลับไปมองน้องและมองเจ้าของเงินอีกครั้ง