ตอนที่ 6
“งั้นเรากลับกันดีกว่าครับ ดึกแล้วคุณเนย์จะได้พักผ่อนด้วย ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
ด้วงเหมือนจะรู้ใจเลยรีบตัดบท แม้สามสาวจะไม่มีทีท่าว่าอยากกลับแต่อย่างใด โดยเฉพาะลูกสาวที่ดูจะมีความสุขมากมายเวลาได้มาอยู่ใกล้ๆ หนุ่มรูปหล่อพ่อแม่รวยเช่นเขา
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าลูกรักสิงหรัฐเข้าเต็มเปา และรักมานาน รักตั้งแต่แรกเห็น ตอนเขากับพ่อแม่มาเจรจาซื้อที่ทางแถวนี้เมื่อห้าปีก่อนแล้วด้วยซ้ำ แม้จะรู้ว่าลูกไม่มีหวัง แต่เรื่องของหัวใจใครจะคาดเดาล่วงหน้าได้
“กลับกันเถอะดาว วันหลังค่อยมารบกวนคุณเนย์ใหม่ พ่อเหนื่อยมาทั้งวันแล้วอยากพักบ้าง”
สิงหรัฐไม่ได้ทักท้วงนอกจากยิ้ม พอสองพ่อลูกลุก แขกสาวอีกคนก็ลุกตาม กัญญาวีร์อยากจะรีบเดินเข้าห้องแทบแย่ แต่ก็จำต้องยืนส่งอัญรวีเพื่อนใหม่ป้ายแดงตามมารยาทที่ดีก่อน
“ไว้ว่างๆ จะมาฝากท้องกับคุณเนย์ใหม่นะคะ” อัญรวียิ้มสดใสก่อนจะรีบเดินไปหาอัลตีสคันโปรดแล้วขับออกไปก่อน ทิ้งช่วงจากรถสองพ่ออยู่ห่างๆ
“คุณเนย์อยากได้กาแฟสักถ้วยหรือเปล่าคะ จีนว่าจะนั่งดูงานอยู่ข้างนอกสักพักก่อนค่อยเข้านอนค่ะ”
สาวมั่นหันไปเอ่ยเมื่อแขกกลับจนหมดแล้ว สิงหรัฐที่รีบคว้าเอาเอวคอดของอีกคนไว้ไม่ให้เดินขึ้นบันได ก่อนจะหันไปยิ้มบางๆ ให้แขก “คงไม่แล้วล่ะครับ กะว่าจะเข้านอนเลย ลุยมาตั้งแต่เช้าแล้วคงนั่งต่อไม่ไหวแน่ๆ”
เขารีบปฏิเสธและให้แขกสาวเดินขึ้นบันไดก่อน ส่วนตัวเองรวบตัวแม่ครัวเอาไว้ไม่ให้ห่างกายไปไหนได้ “เชิญคุณจีนตามสบายนะครับ จะดื่มกาแฟแบบไหนก็บอกได้ เดี๋ยวคุณหญิงจะยกมาให้”
“งั้นจีนเปลี่ยนใจเข้านอนเลยดีกว่าค่ะ เหนื่อยเหมือนกัน ค่อยตื่นมาลุยต่อตอนเช้าน่ามีแรงกว่า”
เมื่อแผนอยากยืดเวลาให้ได้อยู่ต่อกับเจ้าของบ้านหนุ่มหล่อไม่เป็นผล แถมมือไม้ยังซุกซนอยู่กับแม่คุณหญิงตกยากอย่างไม่เกรงใจแขกแบบนี้ มัลลิกาก็จำเป็นต้องถอยไปตั้งหลักก่อน
“ผมว่าก็ดีนะครับ งั้นกู๊ดไนท์ครับ คุณจีนเข้าห้องเลยมั้ยครับ ผมจะได้รอปิดไฟ”
แม้ปากจะพูดกับแขกตาจะมองแขก แต่มือเขาไม่ยอมปล่อยจากเอวคอด และไม่สนใจด้วยว่าแขกจะคิดยังไง กัญญาวีร์พยายามดึงมือเขาออก พยายามจะผละไปให้ห่าง แต่ไม่มีทางทำได้ถ้าเขาไม่คิดจะปล่อยไป
“ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะ”
“ปล่อยฉันนะ!”
ทันทีที่แขกเข้าห้องได้ เจ้าของเอวก็ส่งเสียงหนักๆ สายตาดุดันไปหา เพราะไม่ชอบใจเอามากๆ ที่เขาจงใจจะประกาศให้แขกได้รู้ว่าได้หม่อมราชวงศ์มาเป็นนางก้นครัวกับเป็นนางบำเรอในเวลาเดียวกัน
“ปล่อยทำไม”
แต่เขาไม่สนใจ แถมรั้งแขนเล็กๆ ตามไปหาปลั๊กไฟแล้วปิดๆ ๆ ๆ ๆ จนมืดมิดไปทั้งบ้าน มีแต่แสงจันทร์สาดส่องนำทางมาตามระเบียงเท่านั้นที่ทำให้พอจะมองเห็น
“ปล่อยสิ! ฉันเหนื่อยจะเข้านอน”
กัญญาวีร์พยายามสลัดกายออกจากสองวงแขนที่รวบกอดไว้หลวมๆ
“คุณจะนอนได้ยังไงถ้าผมยังไม่อนุญาต ลืมไปแล้วเหรอว่าคุณต้องทำหน้าที่อะไรต่ออีก”
“ไม่นะ ปล่อย...อย่า...ปล่อ...”
และต่อให้อีกฝ่ายจะขัดขืนยังไง จะเบี่ยงหน้าหนีแค่ไหน แต่ก็ไม่วายถูกเขาดันจนแผ่นหลังตรึงอยู่กับเสาไม้สักต้นใหญ่กลางบ้าน เมื่อความคิดถึงคะนึงหาเรือนร่างเย้ายวนใจมาทั้งวี่วัน จนไม่อาจจะรออีกแม้แต่นาทีเดียว จึงมอบจุมพิตอันดูดดื่มให้อย่างเป็นสุขใจ
ผิดกับเจ้าของริมฝีปากสีกุหลาบคนละเรื่องที่ไม่เป็นสุขเอาเสียเลย เมื่อหวาดหวั่นว่าแขกสาวที่คงจะสนใจในตัวเขาเปิดประตูออกมาเห็นเข้า แต่รู้สึกเหมือนเขาจะไม่สนใจอะไรเลยสักนิด เพราะกำลังถูกไฟพิศวาสเข้าเล่นงานอย่างหนักหน่วง
“อย่านะ! ไม่ใช่ที่นี่ฉันขอร้อง!”
เจ้าของอกอิ่มต้องรีบยกมือขึ้นกำเสื้อไว้ เมื่อมือเขาเลื่อนไปปลดกระดุมได้หลายเม็ดแล้ว พร้อมส่งน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างไม่เคยมีมาก่อน นั่นทำให้เขาชอบใจเป็นที่สุด จึงหยุดชั่วครู่ด้วยการช้อนเอาร่างเบาหวิวเดินตรงไปห้องตัวเองที่อยู่ติดๆ กัน
“ปิดประตูสิถ้าคุณกลัวใครจะมาเห็น แต่สำหรับผมคงไม่ต้องบอกนะว่าแคร์หรือเปล่า”
ข้ามธรณีประตูได้เขาก็หมุนกายกลับไปหาประตูพร้อมกับเย้าหยอกคนในวงแขนที่ปิดเปลือกตาเอาแก้มแนบอกเขาเพื่อหนีอายอยู่เท่านั้น แต่เมื่อถูกขู่และรู้ดีว่าเขาไม่แคร์เลยจำต้องลืมตาแล้วปิดประตูลั่นดานอย่างแน่นหนา
“ทีนี้ก็เหลือแต่เรื่องเสียงแล้วล่ะ ว่าคุณจะควบคุมไม่ให้เล็ดลอดออกไปข้างนอกได้ยังไง อย่าลืมนะว่ารสชาติผมอร่อยแค่ไหน คุณมีความสุขกับมันยังไง หรือวันนี้คุณรอให้ถึงเวลานี้ด้วยความทรมานกันแน่”
“หยาบคาย!! ปล่อยฉันลงนะ” เพราะเกลียดน้ำคำเย้ยหยันของเขาอย่างที่สุด
“โอ๊ย!!!”
“หยาบคาย!! ปล่อยฉันลงนะ” เพราะเกลียดน้ำคำเย้ยหยันของเขาอย่างที่สุด
“อีกหน่อยคุณก็จะรักผมเองล่ะ ถ้าเราเอากันบ่อยๆ”
“หยาบคาย!!! ออกไปนะ ฉันจะกลับห้อง บอกให้ออกไป...”
ร่างเล็กถูกประกบลงไปปิดปากด้วยปากอุ่นอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ปรารถนาจะได้ยินคำด่าทอใดๆ อีก นอกจากมอบบทรักอันหอมหวานให้อย่างคนหิวโซ กระดุมที่เหลือไม่กี่เม็ดถูกปลดภายในเวลาไม่กี่วินาที ทั้งเสื้อทั้งบราเซียร์ก็หลุดออกจากกายสาวในเวลาไม่กี่วินาทีเช่นกัน
กางเกงยีนถูกดึงออกจากปลายเท้าในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนจะโน้มกายลงไปจูบแพนตี้สีหวานที่โอบคลุมกายสาวอันเย้ายวนใจกระทิงป่าให้กระเจิดกระเจิง จนแทบจะทานทนไม่ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะทน เพื่อสำรวจเรือนกายขาวราวหิมะตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าด้วยริมฝีปากกับสองฝ่ามือ