กัญญาวีร์พยายามสะกดกลั้นอารมณ์หวีดหวิว ที่กำลังคืบคลานเข้ามาเล่นงานเรื่อยๆ ๆ ๆ อย่างยากลำบาก และยากยิ่งเมื่อแพนตี้หลุดออกไปจากการโอบอุ้มกาย แล้วมีสายตาอันลุกวาวของเขาเข้าโอบคลุมไว้แทน ก่อนจะค่อยๆ สำรวจอย่างชิดใกล้ทุกซอกทุกมุม ประหนึ่งกำลังทำงานวิจัยชิ้นสำคัญในชีวิตก็ไม่ปาน
“อืออออ”
แต่ก็ไม่วายเผลอให้เสียงหลุดลอดออกมาเมื่อเขาดื่มด่ำเป็นคำแรก จนนำพาคลื่นแห่งความหวานไหวไล่ตามเล่นงานอย่างไม่ปรานีแทบไม่มีอากาศจะหายใจ เมื่อเขาอ่านออกว่าหญิงสาวกำลังตกอยู่ในภาวะใด เลยเร่งเร้าการลิ้มลองให้เร็วขึ้นและหนักหน่วงขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มเอมเลย
กายสาวสั่นสะท้าน สองมือขยุ้มผ้าปูที่นอนจนแทบจะขาดคา สองปลายเท้าก็งองุ้มเครียดเกร็ง สองปทุมก็แตกตื่นเครียดขึงตั้งแต่ฐานยันปลายยอด ที่เพิ่งถูกเขาเลื่อนขึ้นมาครอบครองอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนจะหยัดกายขึ้นสอดสองมือไว้ใต้ต้นคอระหง ให้ใบหน้ามองตรงมายังเขา เพื่อให้ได้มอบจุมพิตอันเลิศล้ำให้ได้ถนัดและหนักหน่วง จริงจังกว่าเมื่อแรกมาก
จนริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อ บัวงามก็สั่นระริกด้วยอีกมือของเขาที่เร่งเร้าตรงยอดดอยให้ผู้เป็นเจ้าของเคร่งเครียด เพราะกำลังต่อสู้กับความต้องการที่โหมกระหน่ำเข้าใส่อย่างไม่ลดละ และยิ่งบุกหนักอีกเมื่อมือเขาเลื่อนลงไปหยอกเย้ากับปลายเกสรอันอ่อนไหว จนแน่ใจว่าหญิงสาวพร้อมที่จะมีเขาแล้ว
จึงหยัดกายขึ้นแล้วค่อยๆ ประคองสองเรียวนุ่มขาวออกห่างเพื่อเปิดทางให้กายชายผายตึงและพร้อมจะแหวกว่ายไปหาแหล่งชุ่มชื้นที่มีความสุขอันแสนวิเศษกว่าสิ่งมหัศจรรย์ใดๆ ในโลกรออยู่ภายใน และครั้งนี้เขาไม่คิดจะปรานีต่ออีกกาย เมื่อมั่นใจว่ามีชั่วโมงบินที่จะรับกับความรุนแรงได้แล้ว
“อื้ห์มมมมม”
สาวสูงศักดิ์อายจนแทบอยากกลั้นใจตายเสียตรงนี้ เมื่อเสียงที่ตัวเองไม่คาดคิดว่าจะเปล่งออกมาหลุดจากลำคอ เพราะเป็นสุขกับการเยี่ยมเยือนอันแปลกใหม่ของเขาเป็นครั้งแรก แต่ก็มีครั้งที่สองสามสี่ห้าตามมา และครั้งต่อๆ ไปที่หญิงสาวไม่มีกะจิตกะใจนอนนับได้
มิหนำซ้ำยังลืมเลือนความอายจนหมดสิ้น เมื่อเขาโน้มกายไปหาแล้วยกสองแขนเรียวให้กอดเกี่ยวเขาไว้ กลีบกุหลาบสวยถูกครอบครองอย่างนุ่มนวล พอๆ กับกายอีกส่วนของเขาที่ครอบครองในท่วงทำนองที่คล้ายคลึงกัน มันช่างหอมหวานในความรู้สึกของสาวสูงศักดิ์
จนเผลอลูบไล้ไปตามแผ่นหลังที่มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเต็ม แม้ในห้องจะมีเครื่องปรับอากาศ แต่ความร้อนแรงของกายสาว ก็แผ่กระจายส่งผ่านกายกำยำของเขาจนทะลุออกไปหาแผ่นหลังกว้าง
“จูบผมสิคุณหญิง จูบผมหรือทำในสิ่งที่คุณหญิงอยากจะทำสิ” เขาเองก็เผลอส่งเสียงนุ่มนวลไปให้ เจ้าของกายาอันอุ่นอิ่ม
“ไม่!!!”
ทว่าอีกฝ่ายกลับส่งเสียงแข็งกลับมาให้ แม้จะยุ่งยากเพียงใดกับการเอ่ยปฏิเสธแค่คำเดียวออกมาก็ตาม
“แน่ใจเหรอว่าคุณจะทนหลอกตัวเองได้ ผมไม่มีทางเชื่อ”
สิ้นคำเขาก็ทำเจ้าของประโยคปฏิเสธจนตรอกอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีว่าไม่มีใครเอาชนะธรรมชาติได้ กัญญาวีร์พยายามผลักไสความสุขทางกายที่กำลังเรียกร้องให้ตอบสนองเขาอย่างที่สุด
แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธใดๆ ได้นอกจากทำในสิ่งที่ร่างกายกำลังต้องการอยู่ตอนนี้ให้จบสิ้นไปเท่านั้น เพื่อให้ได้พบพานกับความสุขสมที่เคยมีมานับตั้งแต่ถูกเขาหยิบยื่นความแปลกใหม่ให้
แต่กับแขกสาวผู้หาได้เข้านอนอย่างที่บอกไว้ กลับไม่เป็นสุขเอาเสียเลย เมื่ออยากจะพิสูจน์ให้แน่ใจในข้อสงสัยของเจ้านายหนุ่มกับสาวใช้สูงศักดิ์ จนต้องแอบย่องออกมาเอาหน้าแนบประตูห้องของชายที่ตัวเองมีจิตสมัครรักใคร่มานับตั้งแต่ผู้เป็นพ่อแม่ของเขาว่าจ้างมาตกแต่งบ้านหลังนี้แล้ว
และถ้าน้องสาวเขาไม่งี่เง่าเอาหัวทิ่มพื้นตายไปก่อน จนทำให้พ่อแม่ของเขาต้องพลอยตายไปด้วยแล้ว ป่านนี้มัลลิกามั่นใจว่า คงได้เขามาอยู่ในกำมือแล้วอย่างแน่นอน เพราะตัวเองทั้งเก่ง ทั้งสาว ทั้งสวย ทั้งรวย และฉลาดรอบรู้ไปเสียทุกเรื่อง
‘หนูจีนเก่งจังเลยนะคะ รู้ไปทุกเรื่องเลย ถ้าไม่ติดเป็นเจ้าของบริษัท ป้าจะจีบให้มาเป็นผู้จัดการที่นี่ซะเลย หรือไม่ก็จะยุให้ตาเนย์จีบมาเป็นสะใภ้ป้าดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียค่าจ้างด้วย ดีมั้ยคะคุณ’
แม่ของเขาเอ่ยทีเล่นทีจริงทำนองนี้หลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยจะทำตามคำแม่ยุยงเลยแม้แต่ครั้งเดียว มิหนำซ้ำยังควงสาวสวยระดับนางแบบ นางร้ายในละครแทบไม่ซ้ำหน้า บางครั้งก็มีสาวๆ นักศึกษาที่มัลลิการู้ดีว่าเป็นพวกไซด์ไลน์และไม่ถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญเลยสักนิด
หรือแม้แต่แม่ลูกสาวพ่อผู้รับเหมาที่แสนจะดัดจริตก็ไม่อยู่ในสายตาด้วย ส่วนสาวผู้แสนสวยน้องเจ้าของไร่กาแฟนั่นก็แค่ทำให้หัวใจหวาดหวั่นเล็กๆ เท่านั้น แต่กับสาวสูงศักดิ์ที่ได้มาอยู่ใกล้ชิดเขาในฐานะนางก้นครัวตอนกลางวันแล้วผันเป็นนางบำเรอในตอนกลางคืนนี่สิ ที่กำลังสั่นต้นกล้าแห่งความมั่นใจของตัวเองให้โอนเอนซ้ายขวาไปได้
แม้เจ้าหล่อนจะอยู่ก้นครัว แม้จะเป็นนางบำเรอแบบลับๆ แต่รัศมีความงามสง่า สมกับความเป็นราชนิกุลของเจ้าหล่อนก็เจิดจรัสเหนือกว่าสาวใดๆ รอบโต๊ะอาหาร หรืออาจจะทั้งตำบล อำเภอ จนไปถึงจังหวัดก็ว่าได้ และไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหล่อนมาตกระกำลำบากอยู่ในสวนนี้ได้ยังไง
แต่ก็อีกนั่นล่ะ ลำบากในตอนกลางวันแล้วได้สุขสันต์ในตอนกลางคืน กับชายที่หล่อเหลา ร่ำรวย และไร้ซึ่งข้อผูกมัดใดๆ ไร้ซึ่งทายาทที่จะมาแก่งแย่งสมบัติพัสถานด้วย และถ้าได้เขามาเป็นคู่ครองจะมีอะไรสุขใจเท่านี้ได้
“ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้ใครมาแย่งคุณไปได้หรอกนะ คุณต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น”
สาวมั่นบอกกับตัวเองด้วยหัวใจของคนไม่อยากยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ก้าวขึ้นสังเวียนด้วยซ้ำ