EP 42

1369 Words
“งั้นเอาไว้เราได้ไปตลาดด้วยกันค่อยหาซื้อเองนะคะ ป้าจะรีบไปรีบกลับ แล้วจะได้เอาของสดไปไว้ให้คุณหญิงทำมื้อเย็นด้วย” “ค่ะ” ดวงหน้าสวยส่งยิ้มทั้งน้ำตาให้ป้าอวบ ก่อนจะลุกขึ้นไปขุดต่อ เพราะวันนี้จะต้องทำให้ได้หนึ่งแปลงเป็นอย่างน้อย ไม่งั้นจะไม่มีทางเสร็จตามที่เขาสั่งแน่ และแม้จะเหนื่อยแต่ก็พยายามท่องคำว่า ‘ศักดิ์ศรี’ เอาไว้จนขึ้นใจ แล้วฝืน ‘ขุด ขุด ขุด ขุด ขุด ขุด ขุด’ ‘คาด คาด คาด คาด คาด คาด’ จนเสร็จหนึ่งแปลงในเวลาห้าโมงนิดๆ ถึงได้ลากกายอันหนักอึ้งไปหาจักรยานปั่นกลับบ้าน แล้วขึ้นไปอาบน้ำเป็นเรื่องแรกก่อน ค่อยเก็บผ้าจากราวเอาไปกองไว้รอรีดเมื่อมีเรี่ยวแรง ครัวเป็นเป้าหมายต่อไปเพื่อหุงหาอาหารที่ตัวเองเหนื่อยจนไม่อยากจะกินหรือทำอะไรด้วยซ้ำ แต่ก็ได้แค่ ‘ไม่อยาก’ เท่านั้น ร่างบางที่ยังอ่อนแรงอยู่มาก เลยตรงไปหาตู้เย็นที่มีของสดสารพัดเต็มอยู่ด้วยฝีมือการซื้อหามาไว้ของป้าผินผู้ใจดี กะเพราไก่ ไข่เจียว ต้มจืดเต้าหู้ กับผัดผักรวมคือเมนูที่คิดไว้เย็นนี้ เพราะง่ายและใช้เวลาไม่นานกับเรี่ยวแรงที่หลงเหลืออยู่ ชั่วโมงกว่าๆ ทุกอย่างตั้งรอเขาเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวเองเลี่ยงไปอยู่อีกห้องเพื่อรีดผ้าเฉพาะของเขา ส่วนของตัวเองแค่พับก็แทบจะหมดเรี่ยวแรงแล้ว พอเสร็จออกมาโต๊ะก็ว่างเปล่าไม่มีเขา พอๆ กับอาหารในจานที่ว่างเปล่าไปเรียบร้อยแล้ว มือบางรีบรวบรวมไปล้างเก็บ แล้วรีบเข้านอนด้วยความเหนื่อยอ่อน ไม่กี่นาทีก็หลับเป็นตาย เลยไม่มีโอกาสได้เห็นเจ้าของร่างสูงที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง แล้วจ้องมองร่างเล็กที่นอนขดอยู่ด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ หรือถ้ามีเขาก็ต้องกำจัดมันออกไปจากใจให้ได้ภายในเวลาไม่นานนัก ‘แกจะใจอ่อนไม่ได้นะไอ้เนย์’ ‘แกจะลืมว่าน้องแกต้องทนทุกข์เพราะคนพวกนี้มากแค่ไหนไม่ได้นะ’ ‘แกจะลืมว่าพ่อแม่ต้องเสียน้ำตาเพราะคนพวกนี้มากแค่ไหนไม่ได้นะ’ ร่างสูงใหญ่เดินออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว เมื่อได้ข้อสรุปให้ตัวเองแล้ว ว่าแผนการจะต้องเดินหน้าต่อ ไม่มีรีรอไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ใครที่เกี่ยวข้องกับความสูญเสียของเขา จะต้องได้รับผลตอบแทนทั้งนั้น ไม่มีเว้นแม้แต่คนเดียว   หกโมงเช้า คือเวลาที่เจ้าของร่างกายอันอ่อนแรงลุกขึ้นจากเตียง แม้จะปวดเมื่อยไปทั้งตัว แต่ก็ต้องเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเรียกความสดชื่นคืนกลับมาให้ได้ ก่อนจะเดินเข้าครัวแล้วครุ่นคิดถึงเมนูเช้าไว้ให้เขา และตัวเองที่หิวอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะเมื่อคืนเหนื่อยจนกลืนอะไรไม่ลง ขนมปังปิ้ง ไข่คน ไส้กรอกทอด น้ำผลไม้ ถูกเอาไปวางไว้บนโต๊ะ เพราะง่ายและเสร็จเร็ว ส่วนตัวเองเลือกที่จะนั่งกินอยู่เคาน์เตอร์ครัว ไม่สนใจกับอีกคนที่จะกินหรือจะไปไหนเมื่อไหร่เลยสักนิด เพราะมีงานเก็บกวาด ซักรีดรออยู่มากมายให้ต้องรีบไปทำ แม้จะมีมื้อเช้าลงท้องไปแล้ว น้ำผลไม้หวานๆ เย็นๆ ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกเรี่ยวแรงที่ใช้ไปเมื่อวานนี้กลับคืนมาเลย กระนั้นกัญญาวีร์ก็ยังคงก้มหน้าทำงานต่อไปไม่ปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว “หวังว่าวันนี้คุณคงจะไม่ใช้ใครทำงานให้อีกหรอกนะ หรือราชนิกุลอย่างพวกคุณถนัดแต่งานหลอกล่อให้คนอื่นโง่เป็นควายแล้วทำให้งานงกๆ พอหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่งไม่ดูดำดูดี” เขาเอ่ยห้วนๆ ก่อนลงบันไดไปหลังมื้อเที่ยงเสร็จสิ้น จานชามในมือบางที่กำลังเก็บอยู่บนโต๊ะแทบอยากจะปลิวลงพื้นด้วยความโกรธเกลียดคนที่ขับรถออกไปแล้ว แต่ก็ยังทำได้แค่คิดอยู่เช่นเดิม ก๊อกน้ำถูกกระแทกเปิดใส่จานอาหารด้วยความเหลืออด ก่อนจะล้างๆ ให้เสร็จแล้วลงไปข้างล่างคว้าจักรยานได้ก็ปั่นไปหาแปลงผักทันที จอบวางอยู่ใกล้ๆ มือถูกคว้าขึ้นแล้วทำงานที่ค้างไว้เมื่อวานให้เสร็จ “คุณหญิง! ทำไมมาเร็วนักล่ะคะ” ผินจอดจักรยานได้ก็ร้องทักด้วยความแปลกใจ “ฟางอยากทำให้เสร็จเร็วๆ น่ะค่ะป้า” ใบหน้าสวยเศร้าหันไปตอบแล้วหันกลับมาหางาน “แต่อย่าลืมเสื้อกับหมวกสิคะเดี๋ยวจะไม่สบายนะ” ผินเดินเอาทั้งสองอย่างมาส่งให้ด้วยความเอื้อเฟื้อ นั่นทำให้กัญญาวีร์ยิ้มออกมาอย่างขอบคุณ เพราะความโกรธทำให้ลืมข้าวของทุกอย่างที่ควรจะเตรียมมา แล้วก็คิดขึ้นได้ว่าตัวเองลืมแม้กระทั่งกินมื้อเที่ยง “ป้าเอาน้ำกับขนมมาให้ด้วยค่ะ” ถุงผ้าใบเดิมถูกส่งให้ กัญญาวีร์รีบรับมาเปิดดู เห็นเค้กกล้วยหอมก็หิวขึ้นมาทันใด เลยรีบคว้าขึ้นมาหมายจะส่งเข้าปาก แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นรถของเขาแล่นตรงมาทางแปลงผัก ความอยากที่มีมลายหายสิ้น เลยต้องเก็บเข้าไปไว้ที่เดิม “คุณเนย์มีอะไรหรือเปล่าคะ ลุงเอี่ยมยังไม่กลับจากในเมืองกับคุณไชยค่ะ” ผินเดาสุ่ม เพราะเหตุผลเดียวที่เจ้านายมาสวน ส่วนใหญ่จะคุยกับเอี่ยมเท่านั้น สิงหรัฐยิ้มน้อยๆ ให้ แต่สายตาจับจ้องอยู่กับร่างเล็กที่ยืนนิ่งในมือจับด้ามจอบอยู่เลยเดินตรงไปหา แล้วมองแปลงอันยาวยืดที่เจ้าหล่อนทำเสร็จเมื่อวาน แต่นั่นเพราะมีคนช่วยทำไปแล้วเกือบครึ่ง วันนี้เหรอ ‘หมดสิทธิ์’ เพราะตัวช่วยถูกเขาส่งเข้าไปในเมืองตั้งแต่กินมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว เลยอยากจะมาดูว่าสาวสูงศักดิ์ จะอวดดี อวดเก่ง จะเย่อหยิ่ง จองหองไปได้สักกี่มากน้อย “มาดูกันว่าวันนี้คุณจะได้งานเท่าเมื่อวานหรือเปล่า” แล้วเขาก็เดินผละไปใบหน้ายิ้มเยาะเย้ยให้คนข้างหลัง แต่พอนึกอะไรขึ้นได้ก็หมุนร่างสูงที่มีกางเกงยีนฟอกกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกลับไปมองร่างเล็กๆ ที่หันหน้ากลับไปหางานแล้ว “อ้อ! แล้วก็ไม่ต้องรอตัวช่วยแบบเมื่อวานหรอกนะครับคุณหญิง กว่าลุงเอี่ยมจะมาก็คงใกล้มืดโน่นล่ะ จำไว้ให้ดีๆ ว่าอยู่ที่นี่จะต้อง ‘อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ’ วันนี้ถ้าไม่ได้แปลงหนึ่งคุณไม่ควรจะกลับบ้านนะหรือถ้าจะฝืนคำผมก็ตามใจ แต่งานทั้งหมดคุณต้องทำให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ จำเอาไว้ด้วย” กัญญาวีร์เพียงแค่ยืนนิ่งฟังคำโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองแม้จนนิดเดียว ด้วยรู้ดีว่าตอนนี้เขาคงกำลังยิ้มเยาะเย้ยเหมือนที่เคยๆ ทำมาแน่ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมหรือเพราะอะไร เขาถึงต้องให้มาทำงานหนักขนาดนี้ด้วย ‘เพราะนายนี่เป็นคนพาลไงล่ะฟาง’ แต่ก็ไม่คิดจะหาคำตอบอื่นใด มากกว่าคิดในแง่ร้ายแบบนี้ แล้วก็ก้มหน้าทำงานด้วยความโกรธ จนแทบจะกัดริมฝีปากตัวเองให้เลือดออกด้วยซ้ำ “สมน้ำหน้า” เก่งเจ้าเดิมยืนอยู่ไกลๆ ซ้ำเติม จนถูกสี่ป้าหันไปจ้องมองด้วยสายตาไม่ชอบเอามากๆ ส่วนอีกคนกลับไม่สนใจจะเอาคำนี้ใส่ในหัวด้วยซ้ำ เพราะสิ่งเดียวที่มีในใจคือ ต้องทำงานให้เสร็จเพื่อไม่ให้เขาดูถูกได้ ด้วยทิฐิอันแรงกล้า ด้วยศักดิ์ศรีที่มีอยู่ในตัวจนแทบไม่อยากก้มหัวให้ใครถ้ายังไม่ไร้สิ้นหนทางเดิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD