หรือถ้าพี่กับแม่มีข้อสงสัยเกิดขึ้นในถายหลัง เขาก็มีหน้าที่ต้องกำจัดมันออกไปจากหัวพี่หัวแม่ เพื่อไม่ให้ทุกอย่างในบ้านเลวร้ายไปมากกว่านี้นั่นเอง
“พี่ชายคะเราไปตลาดกันค่ะ”
กันต์กวีสะดุ้งน้อยๆ เมื่อน้องกลับมาพร้อมตะกร้าที่เต็มไปด้วยผักสารพัด ผินก็ได้ไม่ต่างกันนัก เขาไม่แปลกใจอะไรแล้วที่น้องมาบอกแบบนี้ เพราะมันชาชินกับหน้าที่ของน้องที่ไม่ใคร่จะได้ทำบ่อยครั้งนักเมื่ออยู่ที่บ้านแล้ว
“ไปทางไหนไกลหรือเปล่า จะปั่นถึงมั้ย”
พี่ชายที่หิ้วตะกร้าเดินตามน้องไปหากระท่อมที่มีเอี่ยมนั่งประกอบท่อสำหรับทำสปริงเกอร์อยู่อย่างอารมณ์ดี เมื่อมีงานสวนให้ทำทั้งวี่วัน
“ปกติลุงเอี่ยมจะพาไปค่ะ แต่วันนี้เราจะนั่งรถพี่ชายแทน ให้ลุงเอี่ยมทำงานไปเลยตามสบาย พรุ่งนี้หญิงจะได้มีร่มเวลาทำงานไงคะ”
“ดีเลยครับ ลุงเบื่อไปนั่งรอป้าจะแย่ ไม่รู้ซื้ออะไรนักหนากว่าจะกลับได้”
เอี่ยมยิ้มแป้นไปหาสองพี่น้องแล้วปรายตาไปหาเมียที่กำลังวุ่นกับการยกตะกร้าผักรัดไว้ท้ายจักรยาน
“เบื่อก็ไม่ต้องกินสิ ผู้ชายจะไปคิดอะไรแค่กลับบ้านมีจานข้าวปลาอาหารรออยู่ก็ตักเข้าปากได้แล้ว ไม่ได้รู้เลยว่ากว่าจะทำเสร็จเมียต้องเหนื่อยแค่ไหน คิดๆ แล้วน่าปล่อยให้กินข้าวกับน้ำปลาให้เข็ด ไปกันค่ะคุณหญิง เบื่อคนบ่น”
“เอาแล้วสิกู”
สองพี่น้องหันไปยิ้มให้กันเมื่อเห็นเอี่ยมหน้าจ๋อยตาละห้อยมองบั้นท้ายเท่ากะละมังของเมียตาไม่กะพริบ ก่อนจะเดินไปหาจักรยานแล้วปั่นตามผินไปท่ามกลางแดดเปรี้ยงๆ แต่ก็ยังยิ้มได้ พูดคุยกันได้ไปตามทาง
อีกไม่กี่นาทีต่อมาทั้งสามก็อยู่ในรถที่มีแอร์เย็นฉ่ำ มุ่งหน้าออกจากสวนไปเข้าเมืองแล้ว กัญญาวีร์รีบลงจากรถทันทีเมื่อถึงตลาด แล้วก็จับจ่ายของที่ต้องการอย่างรีบเร่งเพราะกว่าจะไปถึงบ้านก็คงจะสี่โมงเย็น มีเวลาทำอาหารแค่สามชั่วโมงกับสี่ห้าเมนูเลี้ยงสิบหกคน
กันต์กวีเองก็ช่วยน้องหิ้วจนหนักอึ้ง แล้วยังมีน้ำใจเช่นชายชาติทหารช่วยผินหิ้วอีกมืออย่างไม่หวงแรง เพราะเขาสัมผัสได้ว่าน้องจะสนิทกับผินมากเป็นพิเศษ นั่นแปลว่าผินต้องเป็นคนดีมีน้ำใจกับน้องด้วย เขาจึงอยากผูกมิตรไว้เผื่อจะได้ฝากฝังให้ช่วยดูแลน้องเวลาตัวเองไม่อยู่
“ถ้าทำอะไรไม่ทันจริงๆ ก็โทรไปบอกป้านะคะคุณหญิง ป้าจะแอบขึ้นไปช่วย คุณเนย์ยังไม่กลับจากออฟฟิศไม่มีทางรู้หรอกค่ะ แล้วป้าจะโทรบอกลุงเอาระกำมาให้ ถ้าจะใช้ให้ติดไฟที่เตานอกชานก็ได้นะคะไม่ต้องเกรงใจ ลุงอยากช่วยค่ะ”
แต่พอถึงบ้าน ผินก็ทำให้เขาผิดหวังด้วยการหิ้วถุงสารพัดเดินลัดใต้ถุนออกไปทางห้องแถว ที่เดาว่าอาจจะมีโรงอาหารสำหรับคนงานอยู่ทางนั้น
“ขนของขึ้นบ้านกันค่ะพี่ชาย”
คนน้องท่าทางจะอ่อนแรงหันไปยิ้มจางๆ ให้พี่ แล้วหิ้วถุงเดินขึ้นบันไดเล็กที่ก้าวออกไปก็เป็นครัวเลยทันที เขาไม่รู้ว่าน้องจะทำเมนูอะไรและจะทันไหมกับเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง รู้แต่ว่าเขาจะช่วยทุกอย่างที่น้องสั่งการมาเลย
“พี่ช่วยอะไรได้บ้างจ๊ะ”
พี่ชายพับแขนเสื้อเตรียมพร้อมเอ่ยถาม น้องหันมามองแล้วยิ้มออกมาด้วยความขำ แต่ก็ส่งเสื้อกันเปื้อนให้อยู่ดี เพราะต้องการคนช่วยจริงๆ ในเย็นนี้
“พี่ชายช่วยปอกกระเทียมแล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ นะคะ หญิงจะปอกกุ้งไว้แช่น้ำปลาค่ะ”
“ให้ทำอะไรก็ได้ยกเว้น...”
“ปอกหั่นหัวหอมใช่มั้ยคะ หญิงจำได้อยู่แล้วว่าพี่ชายไม่ชอบ”
พี่ชายหัวเราะร่าเมื่อน้องรู้ทัน และนี่ก็ทำให้อดคิดถึงตอนเข้าครัวช่วยกันทำอาหาร เวลาจะจัดงานวันเกิดให้สมาชิกในบ้านไม่ได้ ทุกคนต่างมีความสุขกันถ้วนหน้า แต่พอพี่ไปเรียนเมืองนอก ก็เหมือนห่างบ้านห่างทุกคนไปเลย
กลับมาก็ทำงานไม่มีเวลาได้สังสรรค์บ่อยครั้งเหมือนเมื่อก่อน น้องสาวก็ยุ่งเรื่องเรียน แล้วต่างคนก็ค่อยๆ ห่างกันไป จะรวมตัวพร้อมหน้ากันได้ทีก็สุดสัปดาห์เท่านั้น
“สวัสดีค่ะคุณหญิง! เอ๊ย!! คุณฟาง มีอะไรให้อัญช่วยบ้างคะ”
ห้าโมงครึ่งนิดๆ แขกคนแรกก็เดินเข้าครัวมา โดยปราศจากเจ้าของบ้านหนุ่ม กัญญาวีร์กำลังวุ่นอยู่กับการทำน้ำพริกระกำรีบหันไปส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ส่วนพี่ชายหัวใจกระตุกว้าบ ตั้งแต่แรกที่สาวสวยในเดรสแขนกุดพื้นสีขาวลาดจุดสีดำแต่งชายด้วยผ้าลูกไม้สีดำยาวถึงเข่าเดินเข้าครัวมาแล้ว
สายตาคู่คมจ้องมองผิวขาวใส ผมสีน้ำตาลดัดปลายเป็นลอนใหญ่ตามแบบสมัยนิยม ดวงหน้ารูปไข่ยิ้มแป้นให้น้องสาวเขามือก็ถือถาดสตรอว์เบอร์รี่ลูกใหญ่มาด้วย
“สวัสดีค่ะคุณอัญ ทำไมมาเร็วจังเลยคะ ยังไม่มีใครมาสักคนค่ะ”
“พอดีอัญไปส่งงานอาจารย์ในเมืองเสร็จก็เลยแวะมานี่ ให้ป้านากับมายตามมาทีหลัง เพราะกลัวคุณหญิง เอ๊ย!!! คุณฟางจะยุ่ง เฮ้อ!!! ขออัญเรียกคุณหญิง ได้หรือเปล่าคะ บอกตรงๆ ว่าถนัดปากกว่า คุณเนย์ คุณไชยและคนอื่นๆ อัญเห็นเรียกคุณหญิงหมด จะให้อัญเรียกฟางอยู่คนเดียวได้ยังไงกันคะ”
“แล้วแต่คุณอัญก็ได้ค่ะ”
กัญญาวีร์ไม่รู้จะห้ามยังไง แม้ในใจจะไม่ต้องการแบบนั้น แต่ก็ต้องจำยอม
“ค่อยดีขึ้นหน่อยค่ะ! อัญรีบมาแทบแย่ ครั้งก่อนเห็นคุณหญิงทำกับข้าวคนเดียวเก็บล้างคนเดียว เลยบอกพี่มายกับป้านาว่าจะรีบจะมาช่วยคุณหญิงก่อนค่ะ มีอะไรบ้างคะ บอกได้เลยไม่ต้องเกรงใจค่ะ”
“อืม! งั้นฝากเอาฟอยล์ห่อปลาพวกนี้ทีได้หรือเปล่าคะ ลุงเอี่ยมกำลังติดไฟให้อยู่นอกชานค่ะ เอ! หรือจะเปื้อนมือ ไม่เอาดีกว่าค่ะ คุณอัญช่วยแกะสลักพวกแตงกวาเป็นใบไม้ที่หญิงทำให้พี่ชายดูตรงนั้นค่ะ อุ๊ย! ตายจริง ลืมแนะนำค่ะ นี่พี่ฟ่างค่ะ”