ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตารับประทานอาหาร ผิวหน้าขาวเนียนริมฝีปากแดง ผิวขาวจัดตามเชื้อชาติ รูปร่างสูงสง่าได้สัดส่วนเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศ ไม่ว่าจะแต่งตัวเป็นทางการหรือลำลองก็ดูดีมีรสนิยม
ชายหนุ่มนั่งรับประทานอาหารเงียบ ๆ กระทั่งสเต็กหมดจานก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเป็นอันว่าอิ่ม หยิบผ้าขึ้นมาซับริมฝีปากเป็นลำดับสุดท้ายก่อนจะเหลือบตามองหน้าคนที่นั่งเงียบอยู่ฝั่งตรงข้ามมอง ดวงตากลมโตฉายแววซุกซนขี้เล่นจ้องมองเขาอยู่ อยู่ด้วยกันมาสามปีกับอีกหกเดือน บ่อยครั้งที่เขาไม่ต้องพูดออกมาเธอก็เข้าใจว่าเขาคิดหรือต้องการอะไร จอมแก้วมองผู้ชายตรงหน้าที่เธอไม่เคยคิดอาจเอื้อม การที่ได้นั่งมองเขาเฉย ๆ ก็เพลินตาดี เมื่อเห็นว่าเขาอิ่มแล้วเธอจึงพูดขึ้น
“อิ่มแล้ว ก็กลับบ้านได้แล้วสิคะ”
“ยัง”
“อ้าว”
“แล้วจะไปไหน”
“เดินย่อย” คนไม่ค่อยใช้คำเปลืองบอกมา
หญิงสาวไหวไหล่ รับบัญชาอย่างไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ทั้งสองคนเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ไปเรื่อยเป็นลูกค้าระดับวีวีไอพีของหลายช็อป ไม่ได้ของอะไรติดไม้ติดมือมาเพราะคอลเลกชันใหม่ ๆ ยังไม่เข้า
“เฮียกั้ง จอมเหนื่อยเดินแล้ว กลับกันเถอะ”
คนที่ได้ของชอปปิงแล้วเริ่มบ่นอิดออด
“เดินไม่ไหวแล้ว แทบจะลากขาไปแล้วเนี่ย”
“หึ ก็ใครใช้ให้ออกมาก่อน”
“โอ๊ย ก็ SA ส่งไลน์มาบอกว่ากระเป๋าใบใหม่มาถึงแล้วให้เข้ามาดู จอมก็รีบมาสิ...อุ๊บ!”
หลุดปากพูดแล้วก็รีบยกมือตะครุบปากตัวเอง แต่ไม่ทันแล้ว
“อ๋อ ที่แท้ก็ออกมาใช้เงิน”
“แหม ก็ของมันต่อยอดได้นี่นา จอมก็ต้องวางแผนอนาคตตัวเองไว้บ้างสิ พอถึงเวลาเฮียไล่ก็จะได้มีทุนไปตั้งตัวบ้างไง”
หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าร่าเริง ไม่ทุกข์ไม่ร้อนหากวันนั้นมาถึงเพราะเธอเตรียมตัวไว้หมดแล้ว ส่วนคนฟังมีสีหน้าเรียบค่อนไปทางตึง ยังไม่ทันเอ่ยคำใดออกมาเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนความสนใจมาที่เครื่องมือสื่อสารแทน
ชื่อที่โชว์บนหน้าจอสมาร์ตโฟนเครื่องหรูคือหนึ่งในแก๊ง ‘หนุ่มโฉด’ ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทของปภังกร
ปลายนิ้วเรียวยาวทรงพลังกดรับ จอมแก้วมองอย่างสังเกตอยู่ตลอดเวลา ชายหนุ่มรับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะตอบกลับคนในสาย
“เออ ตอนเย็นเจอกัน”
หลังจากกดวางสาย เขาก็ลอบระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ พอหันมาก็สบกับดวงตากลมแป๋วที่จ้องมองด้วยความอยากรู้เต็มที่ เมื่อเขายังไม่เอ่ยปากพูดหญิงสาวก็ย่นคิ้วกดดัน
“เดี๋ยวเราแยกกันตรงนี้ ฉันมีธุระ”
“อ้อ ค่ะ รับทราบ งั้นแยกกันเลยนะเฮีย บัย”
ไม่ถามเลยว่าธุระอะไร ได้รับทราบข้อมูลแล้วก็ยิ้มแฉ่ง ยกมือขึ้นขยับนิ้วบอกลา ท่าทางอยากแยกจากเขาเต็มทนแล้ว ไอ้กิริยาแบบนี้มันน่ามันเขี้ยวอยากทำอะไรสักอย่างกับเธอนัก จอมแก้วยิ้มร่าเมื่อจะได้อิสระชั่วคราวอีกครั้งอย่างน้อยการที่ไม่มีเขาอยู่ข้างกายเธอก็ทำอะไรได้สะดวกหลายอย่าง
“เดี๋ยว ยัยจอมแก้ง”
“จอมแก้วค่ะ”
คร้านจะแก้ ปภังกรไม่สนใจ กระชากข้อมือเรียวกลับมาอย่างไม่แรงนักเพื่อจะบอก
“ยังไงคืนนี้ฉันก็จะกลับเพนต์เฮาส์”
“อาฮะ รับทราบ แต่ถ้าจอมง่วงจอมนอนก่อนนะ”
เธอขานรับ ก็อยู่กันมาเข้าปีที่สี่แล้วจะอะไรกันนักหนาล่ะ ไอ้ที่ต้องให้ตระเตรียมน้ำอุ่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย หรือสวมชุดนอนแบบไม่ได้นอนถ่างตารอเขามาเล่นบทอัศจรรย์นั่นมันก็ไม่ใช่แล้วไหม บ่อยไปที่เขาบอกจะมาแล้วก็ไม่มา แถมไม่โทร. มาบอกด้วย เธอเคยรอเขาตั้งแต่หัวค่ำจนเข้าวันใหม่ไปหลายชั่วโมง จนเริ่มเรียนรู้อะไรมากขึ้น จึงไม่ได้ตั้งตาคอยเมื่อเขาบอกว่าจะมา ก็ถ้าเขามาแล้วและยังมีแรงเหลือก็ปลุกเธอเอง...
ู^
^
^
***ฝากกดติดตาม คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ