ผู้หญิงของเขา…1/1
รถยุโรปสมรรถนะเยี่ยมขับเข้ามาภายในอาณาบริเวณบ้านหลังใหญ่สีงาช้างสไตล์คลาสสิกที่ผสมผสานศิลปะกรีกและโรมัน เหนือหลังคาโดมตรงกลางมีรูปปั้นพญาอินทรีกางปีกเกาะอยู่แสดงถึงความสูงส่งอำนาจบารมีและความยิ่งใหญ่ของผู้เป็นเจ้าของ ก่อนจะถึงตัวบ้านมีถนนคอนกรีตยาวกว่าร้อยเมตรสองข้างทางเป็นสนามหญ้าโล่งสีเขียว ตรงกลางหน้าบ้านเป็นวงเวียนลานน้ำพุ
ปภังกรเป็นบุตรชายคนโตในจำนวนพี่น้องทั้งหมดสี่คนของตระกูล ‘อมรทรัพย์สิรินุกุล’ เขาไม่ได้เกิดจากภรรยาที่จดทะเบียนสมรสของบิดา ทว่าเกิดจากภรรยาคนแรกที่เจ้าสัวแสงชัยผู้เป็นบิดารักมากที่สุด ปภินดาหรือหลันฮวามารดาของเขาเสียชีวิตไปแล้วเมื่อสิบปีก่อน และถึงแม้เขาไม่ได้เกิดจากภรรยาที่เจ้าสัวจดทะเบียนสมรสด้วยแต่ปภังกรกลับได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับแสงสว่างและในบรรดาพี่น้องทั้งหมดเขาเป็นผู้ที่ถือหุ้นมากที่สุด
ร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์หนุ่มจีนพิมพ์นิยม เรือนผมดกดำ ดวงตาเรียวยาวหางตาชี้ขึ้นเล็กน้อยแบบที่เรียกว่าตาหงส์ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีแดงตัดกับผิวขาวจัด กรอบหน้าชัด เปิดประตูลงมาจากรถด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย หลังจากที่ซื้อเพนต์เฮาส์ส่วนตัวก็ไม่บ่อยนักที่เขาจะกลับเข้ามาบ้านเว้นเสียแต่ว่าจะมีวาระสำคัญที่สมาชิกในครอบครัวทุกคนต้องอยู่กันพร้อมหน้าหรือบิดาต้องการพบตัว
เจ้าสัวแสงชัยในวัยใกล้เจ็ดสิบปีนั่งเอนหลังพักผ่อนอยู่ในห้องส่วนตัว จิบชาพลางมองทัศนียภาพเบื้องหน้าที่เป็นสวนสไตล์อังกฤษซึ่งมีคนสวนคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอเพราะเป็นสวนของภรรยาสุดที่รัก ยามเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาเห็นบิดามองเหม่อก็ส่งสัญญาณให้รับทราบด้วยการเคาะเบา ๆ ที่กรอบประตู
“ป๊า ผมมาแล้ว”
“มาเร็วดีนี่”
“ป๊ามีอะไรด่วนหรือครับ ถึงได้ให้คนโทร. ตาม”
ลูกชายเดินมานั่งลงที่โซฟาอีกตัวเยื้องกับเก้าอี้เอนหลังของบิดา ยื่นมือออกมารินน้ำชาในกาให้ตัวเองโดยมีสายตาทรงอำนาจของผู้เป็นพ่อจ้องมองก่อนจะเหยียดปากเป็นรอยยิ้มเพียงเล็กน้อย
“ฉันมีแน่ ๆ ถึงได้เรียกแกมาคุยที่นี่”
ปภังกรเลิกคิ้วแทนคำถาม ‘แล้วมันอะไรล่ะครับ’
เจ้าสัวแสงชัยเป็นคนเข้มงวด ใบหน้าที่มีเชื้อสายจีนชัดเจนนั้นเคร่งขรึมเป็นนิจ ลูกคนอื่น ๆ มักจะเกร็งยามคุยกับบิดาซึ่งแม้จะเกษียณตัวเองมาหลายปีแล้วแต่ความน่าเกรงขามไม่ได้ลดน้อยถอยลงไป แต่กับปภังกร เขากลับคุยกับบิดาได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนพ่อลูกทั่วไปคุยกัน บ่อยครั้งที่พูดคุยเรื่องส่วนตัวหรืออื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ ผู้เป็นลูกจะพูดกวนประสาทจนบิดาต้องออกงิ้ว
คนลูกจ้องเข้าไปในดวงตาผู้เป็นพ่อ รอฟัง
“ก็ที่ฉันเคยบอก”
“ป๊าครับ ป๊าเคยบอกอะไรผมเยอะแยะไปหมด ผมจำไม่ได้หรอก ป๊าจะบอกอะไรป๊าบอกมาเลยไม่ต้องอ้อมค้อมเหมือนตาแก่”
“ไอ้นี่ แล้วฉันก็แพ่นกระบาลให้เสียหรอก”
“เหอะ”
คนลูกแค่นเสียงขึ้นจมูก หากลัวไม่
“ให้ไวเลยป๊า มีอะไรก็ว่า อย่าลีลา”
“ทำไม อยู่บ้านนี้มันร้อนนักรึไง ถึงได้รีบมารีบกลับ นี่บ้านโว้ย ไม่ใช่วัด”
“ก็มันไม่อยากอยู่จะให้อยู่ทำไมล่ะ”
ปภังกรยังไม่วายย้อนคำไม่ตกฟาก
“มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมาเหอะ”
บิดาเงียบเสียงลงอึดใจ ใช้สายตาจ้องมองใบหน้าลูกชายที่ชักสีหน้าอิดหนาระอาใจยามที่ต้องกลับมาบ้าน ก่อนจะเอ่ยว่า
“ถึงเวลาที่แกจะทำให้ฉันตายตาหลับได้แล้วไอ้สกังก์” ชื่อเล่นถูกเปลี่ยนจากสัตว์น้ำลักษณะคล้ายกุ้งไปเป็นสัตว์บกสายตาแย่แต่สามารถป้องกันตัวด้วยการฉีดสารกลิ่นสุดทน แสดงว่าเริ่มเคือง
“หา...ป๊าจะไปอยู่กับแม่แล้วเหรอ”
ลูกชายแสร้งทำสีหน้าตกใจ จนตาแก่ต้องยกมือทำท่าจะแพ่นกระบาลเอาจริง ๆ
“แกไม่ต้องมาแช่งฉัน ถึงเวลาฉันไปแน่”
ครั้นเห็นบิดาทำเป็นโกรธขึ้นมาคนเป็นลูกก็เข้ามาแสร้งทำโอ๋
“โอ๋ ๆ ล้อเล่นน่า อย่างป๊าต้องอยู่อีกหมื่นปีหมื่น ๆ ปีเลย”
“เฮอะ แค่ร้อยปีกูก็จะแย่ละ แกจะให้ฉันอยู่ถึงหมื่นปี ให้อยู่ในสภาพไหนวะไอ้กั้ง”
ปภังกรหัวเราะชอบใจ เหมือนตอนที่เขาเป็นเด็กแล้วเล่นกับบิดา แต่ตอนนั้นมีความสุขกว่านี้เพราะมีแม่อยู่ด้วย แต่ความสุขแบบสามคนพ่อแม่ลูกก็มักจะไม่ยืดยาวนักเมื่อเมียอีกคนของเจ้าสัวคอยแต่จะพาลูกเข้ามาร่วมวง
“ป๊ามีอะไร”
“ลูกสาวของอาเฉียง หนูหยาดพิรุณเรียนจบจากเมืองจีนกลับมาแล้ว ถึงเวลาที่แกต้องไปดูตัว แต่ถึงจะดูไม่ดูยังไงแกก็ต้องแต่งกับคนนี้แหละไอ้กั้ง”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อได้ฟัง สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่างทว่าก็ไม่ได้กังวล
“จะให้ไปดูตัวเมื่อไหร่ล่ะป๊า”
“อาทิตย์หน้า แกช่วยทำตัวดี ๆ กับเขาหน่อย คนนั้นเมียตัวจริงของแก”
“ไม่ต้องห่วงหรอกป๊า ผมเป็นสุภาพบุรุษที่ให้เกียรติสุภาพสตรีอยู่แล้ว”
“เออ ถ้าดูตัวกันแล้วจะได้หาฤกษ์แต่งงานเร็ว มีหลานให้ฉันอุ้มเร็ว ๆ ด้วย”
ประโยคนี้ปภังกรไม่ได้ต่อบทสนทนา เขายกน้ำชาดื่มอีกจอก ดวงตามองออกไปยังสวนด้านนอกแต่ใจเหม่อลอยคิดถึงหน้าใครคนหนึ่ง ก่อนเสียงของบิดาจะลอยเข้าหูตามมาอีกว่า
“ส่วนผู้หญิงที่แกเลี้ยงไว้อย่าให้มาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวหรือหน้าที่การงานให้มากเกินไปจนสลัดออกไม่พ้น จำเอาไว้”
ปภังกรคิดถึงหน้าคู่หมายในวัยเด็กของเขา เด็กสาวแก้มใส ผิวราวราวกับหยวกกล้วย ดวงตาเล็กชั้นเดียว หน้ากลม ๆ ถักเปียสองข้าง ชอบใส่ชุดกี่เพ้าเวลาเจอเขา ไม่รู้โตขึ้นหน้าตาจะเป็นอย่างไร ท่าทางเป็นคนพูดง่าย เข้าใจอะไรง่าย อย่างนี้น่าจะคุยกันได้ ในความคิดของเขา ถ้าเมียแต่งเข้ากันไม่ได้ก็หาที่ถูกใจเพิ่มสักคนสองคน จะเอามาอยู่ร่วมบ้านหรือเลี้ยงไว้นอกบ้านค่อยดูอีกที เรื่องการมีเมียมากกว่าหนึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกของบ้านเขา อีกฝ่ายน่าจะเข้าใจ
^
^
^
***เปิดตัวให้นักอ่านฉาบกันได้แล้วค่า ฝากกดติดตามกดหัวใจ คอมเมนต์มาพูดคุยกันด้วยน้า