เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็จะผ่านพ้นไปอีกครึ่งวัน ร่างหนาที่นอนคว่ำตะแคงใบหน้าอยู่บนเตียงนอนขนาดคิงไซซ์เพิ่งรู้สึกตัว ทันทีที่สมองตื่นจากการได้นอนหลับเต็มที่ร่างกายเขาก็พลิกตัวนอนหงายพร้อมกับเปิดเปลือกตา ชายหนุ่มไม่มีอาการงัวเงียใด ๆ ตามมา สิ่งแรกที่เขาทำคือกวาดสายตาไปรอบห้องที่ตนเองนอนอยู่ ภายในห้องแม้จะยังสลัว ๆ เพราะปิดม่านทึบไม่ให้แสงอาทิตย์ที่ร้อนฉ่าจากข้างนอกทะลุเข้ามาได้โดยง่าย ข้างกายของเขาว่างเปล่าไร้เงาคนที่นอนอยู่ด้วยเมื่อคืน
“ไปไหน”
เสียงพึมพำดังขึ้นก่อนเสียงพรูลมหายใจออกแรง มือหนาสะบัดผ้าห่มคลุมออกให้พ้นตัวก่อนจะก้าวขายาว ๆ ลงมายืนบนพื้น ร่างกายกำยำได้สัดส่วนของคนสูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรที่ดูแลตัวเองอย่างดีสวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเดินออกมาจากห้องนอนสู่อาณาจักรส่วนตัวบนเพนต์เฮาส์หรูของคอนโดมิเนียมกลางเมืองหลวงของเขา
เขาคิดว่าจะเจอใครอีกคนที่นอนอยู่ด้วยกันเมื่อคืนกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ หรือเดินอยู่ตรงไหนสักที่ในห้องชุดขนาดใหญ่นี้ แต่ก็ไม่ ไม่มีแม้แต่เงา เหมือนมีเพียงเขาอยู่คนเดียว
“ไปไหน บอกแล้วไงว่าตื่นแล้วให้รอ”
ชักมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาเมื่อสาวเจ้าที่อาศัยอยู่ร่วมกันมาปีนี้เป็นปีที่สี่หมู่นี้ชักจะดื้อมาขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่เชิงว่าหมู่นี้หรอกเธอเป็นแบบนี้มาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว พูดอะไรก็ไม่ค่อยเชื่อฟัง
สองปีแรกว่านอนสอนง่าย ให้ทำอะไรก็ทำ ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ พูดจาก็หวานหูช่างออดอ้อนเอาใจ ‘เฮียเหนื่อยมั้ยคะ จอมนวดให้นะ’ ‘เฮียจะนอนแช่น้ำอุ่นมั้ย เดี๋ยวจอมผสมน้ำให้’ ‘เมื่อคืนเฮียดื่มเยอะ จอมเตรียมกาแฟดำไว้ให้แล้ว’ แต่พอปีที่สามก็เริ่มมีข้อแม้ ยิ่งมาตอนนี้ก็มีทั้งข้ออ้าง ต่อรอง บางทีถึงขั้นทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วก็ไม่ทำมันเสียดื้อ ๆ จอมแก้วเด็กดีคนเดิมหายไปไหน ไปตามคืนกลับมาให้ที คงต้องสอนบทเรียนเด็กดื้อให้หลาบจำสักครั้งจะได้ไม่กล้าหืออือ
คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด
เมื่อแน่ใจแล้วว่าผู้หญิงที่ตอนแรกมาขออยู่กับเขา ให้เขาคุ้มครองแถมเลี้ยงดูให้อีกสองปี ปีที่สามเป็นของแถมเพราะไล่แล้วยังไม่ยอมไปตอนนี้ไม่ได้อยู่ในที่แห่งนี้แน่นอนชายหนุ่มก็กดโทรศัพท์หาทันที
เบอร์ที่โทร. ออกบ่อยที่สุด ขึ้นชื่อมาคนแรก
‘จอมแก้ง’ ที่แปลว่าขูดให้หมด หรือเคล็ดยอก ชื่อจริงของเธอคือจอมแก้ว แต่เขาจงใจพิมพ์เป็นจอมแก้ง
สมาร์ตโฟนที่อยู่ในกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นลิมิติดอิดิชันที่ราคาสามารถซื้อรถประเภทเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้สองคันถ้วนส่งเสียงเรียก แต่หญิงสาวยังไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ในทันทีเพราะมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยถุงชอปปิงเกือบสิบใบ แต่ถ้าให้เดา คนที่โทร. มาในเวลานี้ไม่มีใครหรอก นอกจาก...
เฮียกั้ง
“ก็ยังไม่ว่างง่ะ ไปถึงรถก่อนค่อยรับแล้วกันนะ”
คนที่โทร. เข้ามากำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด ส่วนคนที่มือยังไม่ว่างรับโทรศัพท์กำลังหน้าระรื่น มองของที่ตัวเองรูดบัตรชอปปิงมาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ ของพวกนี้รุ่นลิมิติดทั้งนั้น อีกหน่อยราคาขึ้นแน่นอน ซื้อไว้เก็งกำไรแต่เนิ่น ๆ จะได้ราคาดี เจ้าตัวผู้หวังลงทุนในอนาคตกระหยิ่มยิ้มย่อม
ปีนี้น่าจะเป็นปีสุดท้ายแล้วที่เธอจะได้อยู่กับเขา ดังนั้น...
มีอะไรได้ก็ต้องกอบโกยให้ได้เยอะ ๆ พอเขาทิ้งตัวเองจะได้ไม่ลำบากทีหลัง
เสียงโทรศัพท์เงียบลงไปสองวินาทีมันก็แผดร้องขึ้น คราวนี้เหมือนจอมแก้วจะได้ยินเสียงคำรามของคนโทร. ลอยออกมาจากเครื่องปรับอากาศของห้างด้วย
“รับสายเดี๋ยวนี้จอมยายจอมแก้ง”
เฮ้ย อะไรจะหลอนขนาดนั้น
เออ ๆ รับก็ได้ ถ้าเขาโทร. ติดกันสองครั้งแบบนี้แสดงว่าเริ่มหงุดหงิดละ เธอก็ไม่อยากมีปัญหาหรอกขี้เกียจทะเลาะด้วย ทะเลาะกับผู้ชายที่ชื่อปภังกรนี่ไม่ใช่เรื่องตลกชวนหัว
“ฮัล...”
{อยู่ไหน บอกให้รอทำไมไม่รอ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง จะลองดีกันใช่มั้ย ฉันชักจะหมดความอดทนกับเธอเข้าทุกทีแล้วนะยัยจอมแก้ง}
“ถ้าเรียกชื่อไม่ถูกจะวางแล้วนะ”
{จอมแก้ว}
“ว่าไงคะเฮียกั้ง ตื่นแล้วเหรอคะ”
เออ ให้มันได้อย่างนี้ ปภังกรเยาะตัวเอง
{อยู่ไหน} ปรับน้ำเสียงเข้มขึ้นอีกระดับ ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ได้มีอารมณ์มาเล่นกับเธอ
“อยู่ห้างค่ะ กำลังจะกลับแล้ว ได้ของที่สั่งไว้แล้ว”
ที่แท้ก็รีบออกไปชอปของ จะซื้อมาถมหัวตัวเองหรือไง ไอ้ที่มีอยู่ก็ไม่เห็นจะใช้งาน ซื้อมาเปลืองพื้นที่ ซื้อได้ทุกเดือน ไม่รู้จักเกรงใจคนหาเงินบ้าง คอยดูเถอะถ้ายังดื้อไม่เชื่อฟังอีกละก็ไอ้ที่ซื้อไว้ทั้งหลายแหล่กูจะยึดให้หมด ไม่ให้ติดตัวไปด้วยเลยสักชิ้น
{อยู่นั่น อย่าเพิ่งกลับ}
“ฮะ เฮียจะมาเหรอ”
{ใช่สิ ออกไปหาอะไรกิน}
คนโทร. หาวางสายลงก่อนพร้อมกับพรูลมหายใจออกอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องตรงดิ่งไปชำระร่างกายอย่างรวดเร็ว แล้วขับรถคันหรูคู่ใจที่ใช้เป็นประจำไปหาหญิงสาวที่ห้างสรรพสินค้าตามที่บอก
^
^
^
***อ่านแล้วฝากกดติดตามและส่งกำลังใจ คอมเมนต์พูดคุยกันด้วยนะค้าาาา