หลังพูดคุยเจรจากันก่อนแต่งเป็นอันรู้เรื่องแล้วปภังกรก็กลับมาที่เพนต์เฮาส์อย่างอารมณ์ดี และยิ่งอารมณ์ดีขึ้นไปอีกเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนพบกับยัยจอมแก้งของเขานั่งไขว้ขาสวมชุดนอนสายเดี่ยวเสมือนว่ากำลังรออยู่ตรงปลายเตียง
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะเอ่ยคำใดออกมาร่างบางก็ลุกเดินเข้ามาหา มือนุ่มคว้าจับแขนทำสีหน้าออดอ้อน ดวงตาคมจ้องมองด้วยความแปลกประหลาดใจอยู่อึดใจ ก่อนจะยกยิ้มเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตกลงอะไรกันไว้
“ทำไมกลับช้าจังคะเฮีย จอมเตรียมน้ำอุ่นไว้รอจนตอนนี้น้ำเย็นหมดแล้ว”
น้ำเสียงหวานจ๋อยที่เขาไม่ได้ยินมานานเอ่ยออกมา คนฟังสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นธรรมชาติ ใส่จริตแสแสร้งเข้าไปจนเกินพอดี ประกอบกับดวงตาคู่หวานที่กะพริบถี่ ๆ บอกเลยว่าตอนนี้มันเหมือนเธอกำลังทำหน้า ‘ตอแหล’ ใส่ไม่มีผิด
ชายหนุ่มทำเสียงในลำคอ ก่อนจะเอ่ย
“ต่อไปไม่ต้องเรียกเฮีย”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ จอมก็เรียกเฮียกั้งแบบนี้มาตลอดนี่”
เขาชักสีหน้ามอง จอมแก้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ชายหนุ่มจึงเอ่ยต่อว่า
“ก็ตอนนี้ไม่ชอบ”
บอกเสียงดุ ๆ ... แต่ก่อนชอบ แต่ตอนนี้ไม่ชอบให้เธอเรียกว่า ‘เฮีย’ แล้ว ไม่อยากให้ซ้ำกับคนอื่น
“แล้วจะให้จอมเรียกเฮียว่าอะไรล่ะคะ”
เขาระบายลมหายใจออกหนัก เบี่ยงตัวออกจากมือนุ่มที่เกาะแขนอยู่ เดินไปทาง Walk-in Closetพลางว่า
“จะเรียกอะไรก็เรียก แต่ไม่ต้องเรียกเฮีย”
จอมแก้วเดินตาม เบื้องหลังที่เขาไม่เห็นเธอทำหน้ายู่ใส่ กลอกตามองบน ก่อนจะปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้กลับมาบ้องแบ๊วยามเมื่อเขาหันหน้ามา โดยที่หารู้ไม่ว่ากิริยาที่เธอทำเมื่อครู่สะท้อนอยู่บนบานกระจก
“งั้นก็ เรียกคุณกั้งเหมือนคนอื่นละกัน ง่ายดี”
“อืม”
ตอบกลับมาสั้น ๆ หญิงสาวยืนมองเขากำลังแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มจึงเดินเข้าไปช่วยทำให้ เมื่อช้อนตามองหญิงสาวก็ทำเป็นยิ้ม ยิ้มแบบตอแหล ที่เขาไม่ชอบ
“จอมช่วยค่ะ เดี๋ยวจอมจะเตรียมน้ำให้ใหม่ก็ได้ น้ำเก่ามันเย็นแล้วปล่อยทิ้งไป อาเสี่ยอย่างคุณกั้งไม่ต้องคิดถึงเรื่องสิ้นเปลือง”
หมับ! มือที่กำลังแกะกระดุมลงมาถึงเม็ดที่สามชะงักเมื่อถูกมือหนาล็อกข้อมือไว้อย่างแรง
“โอ๊ย คุณกั้ง บีบข้อมือจอมทำไม มันเจ็บนะ”
“ก็หยุดทำหน้าตอแหลแบบนี้สักทีเถอะ เห็นแล้วรำคาญตา”
เขาปล่อยให้ข้อมือเล็กเป็นอิสระ จอมแก้วสลับมือนวดข้อมือตัวเองพร้อมทำเสียงโอดครวญ
“อะไรของคุณเนี่ย จอมทำอะไรผิด จอมก็เป็นแบบที่คุณอยากให้เป็นอยู่นี่ไง”
เขาชักสายตามามอง ร้อง เหอะ ออกมา จอมแก้วลอบค้อน บ่นอุบอิบว่า
“ไม่ชอบก็บอกกันดี ๆ ลงไม้ลงมือแบบนี้มันใช่ที่ไหน ตัวเองแรงเยอะยังกะ...”
กำลังจะหลุดคำสุดท้ายว่า ‘ควาย’ ดีนะเงยหน้ามองกระจกก่อนจึงเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องเธออยู่ หญิงสาวจึงหน้าเหวอไปครู่ หยุดคำพูดนั้นไว้ทัน แต่คนที่รอฟังไม่จบด้วย ร่างสูงที่เปลือยท่อนบนหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า มือหนาทรงพลังจับต้นแขนเรียวนุ่มดึงเข้ามาใกล้จนใบหน้าเกือบชิด ถ้าหญิงสาวไม่รีบขืนตัวเม้มปากไว้ก็ต้องมีการจูบเกิดขึ้น
“จะเปรียบฉันเป็นอะไร พูดต่อให้จบสิ”
“ปะ เปล่าซะหน่อย”
“พูดมันออกมา จะเปรียบฉันว่าแรงเยอะยังกับอะไร ถ้าเธอไม่พูด คืนนี้ไม่ต้องหลับต้องนอน”
เขากดเสียงต่ำขู่ในประโยคสุดท้าย ซึ่งคำว่าไม่ต้องหลับต้องนอนจอมแก้วรู้ดีว่าหมายถึงอะไร
“จะ จอมยังเป็นประจำเดือนอยู่นะ”
“เธอคิดว่าฉันจะแยแสกับเรื่องนั้นเหรอ รู้นี่ว่าที่ผ่านมาเกือบสี่ปี ฉันลองท่าแปลกแบบไหนกับเธอมาบ้างฮึ”
เขาพูดขึ้นมาทำให้ภาพเหตุการณ์มีเซ็กส์ระหว่างเขากับเธอเกิดขึ้นที่ไหน อะไร ยังไงบ้าง มันมีทั้งความดิบเถื่อน เร่าร้อน รุนแรงและอ่อนโยนละมุนละไมสลับสับเปลี่ยนกันไป
"พูดมา จะบอกว่าฉันเหมือนกับอะไร ไม่งั้น”
“อุ๊ย!”
มือหนากระชากร่างบางให้ชิดเข้ามาอีกก้าวจนอกอวบเบียดกับอกแกร่งแน่นตึง อีกทั้งมืออีกข้างก็ยังล็อกช่วงเอวคอดก่อนที่จะกางฝ่ามือขยำที่แก้มก้นงอนเด้ง
“เอ่อ ก็จะเปรียบว่า แรงเยอะยังกับกระทิงไง”
“จริงเหรอ”
“ก็ จริงสิ กระทิงมันแรงเยอะขวิดทีเดียวไส้ทะลักเลยนะ คุณกั้งไม่เคยเห็นรึไง”
จอมแก้วรีบอธิบาย ดีนะที่ในหัวคิดถึงสัตว์ตัวนี้ขึ้นมาแทนเจ้าตัวที่ใช้ไถนาได้จึงพูดชื่อมันออกมา ปภังกรทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อคำพูดของเธอเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ยอมปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระทั้งที่ใจจริงอยากจะจับเธอแก้ผ้าอีกรอบแล้วอาบน้ำพร้อมกันใหม่ ถ้าไม่ติดที่เมื่อสักครู่ตอนลูบไล้ก้นเด้งมือสัมผัสได้กับแผ่นผ้าอนามัยที่หญิงสาวสวมอยู่
“แล้วไป อย่าให้รู้ว่าที่จริงเธอกำลังแอบด่าฉันอยู่”
เมื่อโดนปล่อยให้เป็นอิสระหญิงสาวก็ยู่หน้าใส่ คราวนี้ทำต่อหน้าไม่ได้หลบ เพราะเธอกำลังงอนเขาอยู่จริง
“ถ้าไม่เชื่อ แล้วคุณกั้งคิดว่าจอมจะเปรียบคุณเหมือนตัวอะไรล่ะ”
ชายหนุ่มไม่พูด แต่ยกมือคาดโทษไว้ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป หญิงสาวจึงยิ้มออกมาอย่างซุกซนเธอไม่พูดเสียอย่างเขาก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าเธอเปรียบเขาเหมือนเจ้าทุย
^
^
^
***โปรดติดตามตอนไปนะคะ ทนอยู่หรืออยู่ทนกันแน่