คุยหลังบ้าน…5/1

1187 Words
การนัดหมายดูตัวในครั้งแรกผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หนุ่มสาวได้ทำความรู้จักกันในเบื้องต้น หลังจากนี้ก็ให้ทั้งสองได้นัดเจอพูดคุยกันแบบส่วนตัวคงจะดีกว่านี้ เพราะดูจากสีหน้าแววตาของทั้งคู่แล้วคงมีเรื่องที่อยากจะพูดกันสองคน ครั้งนี้ก็ถือว่ามาทำความรู้จักกันไว้ก่อนเท่านั้น ปภังกรกลับมาถึงเพนต์เฮาส์ในราวสี่โมงครึ่ง เมื่อเดินเข้ามาถึงโถงห้องนั่งเล่นที่เมื่อเช้ายัยจอมแก้งของเขานั่งกินแซนด์วิชพร้อมกับเปิดดูรายการสัมภาษณ์ศิลปินเกาหลีคนที่เธอร่ำร้องอยากไปงานแฟนมีตติง และสายตาก็เห็นร่างบางนอนหลับอยู่บนโซฟาตรงนั้นในลักษณะงอตัวตะแคงไปด้านใน สืบเท้าเข้ามาดูใกล้ ๆ ก็เห็นอีกว่าบริเวณหน้าท้องมีถุงประคบร้อนที่เธอกอดไว้อยู่ หน้าซีด อาการแบบนี้บางเดือนก็มีให้เห็นบางเดือนก็ไม่เห็น ปวดประจำเดือนอีกแล้วสินะ เขาทอดถอนหายใจกับอาการปวดรอบเดือนของผู้หญิงที่ผู้ชายอย่างเขาไม่เคยสัมผัสและไม่มีวันรู้จักความรู้สึกแบบนั้น ก่อนมือหนาจะยกขึ้นแตะที่หน้าผาก สัมผัสเพียงแผ่วเบาแต่ก็ทำให้คนที่นอนหลับไม่สนิทรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมามองก็เห็นแววตาห่วงใยจ้องอยู่ “ไปหาหมอมั้ย” เป็นคำถามที่ได้ยินทุกครั้งเช่นกัน “ไม่ เดี๋ยวก็หาย ขอนอนเงียบ ๆ สักพัก มันเพิ่งมา” ตอบเสียงอู้อี้ แล้วงอตัวซุกหน้ากับหมอนคล้ายไม่อยากให้ใครรบกวน คนที่อยู่ด้วยกันมานานเข้าใจอารมณ์ตอนนี้ของเธอดี เขาจึงพยักหน้า นั่งมองสักพักจึงลุกเดินไปทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่นานจอมแก้วก็รู้สึกว่าเบาะโซฟาที่ปลายเท้าของเธอยวบลงเหมือนมีบางอย่างทับลงมา เมื่อลืมตามองก็ใช่ เป็นเขานั่นแหละ เขากำลังนั่งกินแซนด์วิชที่เหลืออีกอันที่เธอเก็บไว้ในตู้เย็น คนที่กำลังเคี้ยวแซนด์วิชในปากจนแก้มตุ่ยรู้สึกว่ามีสายตาแอบมองจึงหันไปมอง จอมแก้วไม่ได้หลบสายตาแต่จ้องเข้าไปในสายตาคู่นั้น ไม่นานเธอก็หลับตาลงพร้อมกับระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างโล่งอก ประจำเดือนมา โคตรดีใจ ตอนแรกนึกว่าจะ... มันไม่มีวันเกิดขึ้นหรอก... เธอต้องไปจากเขาโดยไม่มีพันธะอะไรติดตัวไปด้วย อาการปวดท้องรอบเดือนของจอมแก้วค่อย ๆ ทุเลาลงหญิงสาวจึงลุกขึ้นเดินเหินได้ แต่คนที่เผลอหลับอยู่ตอนนี้กลับเป็นเขาแทน แต่งตัวหล่อออกไปไหนมาไม่รู้นึกว่าจะกินอิ่มมาจากข้างนอก ไหนกลับมาห้องยังมากินของที่เธอเก็บไว้กินเองหมดอีก ริมฝีปากอิ่มได้รูปสวยเบ้ออก ก่อนจะยิ้มให้ตามหลัง ปภังกรรู้สึกว่าหญิงสาวตื่นแล้วเขาก็ลืมตาขึ้นเพราะไม่ได้หลับลึกอะไรขนาดนั้น แค่อยากพักสายตาสักครู่ก็เท่านั้น เห็นหญิงสาวเดินเข้าครัวเหมือนจะหาของกินร่างสูงก็ลุกตามไป เลียบเคียงถาม “ตอนเย็นจะกินไรกัน สั่งจากที่ร้านหรือที่โรงแรมดี ให้เลือก” เขาเอ่ยขึ้น คนที่ยืนหันหลังไม่ได้ทำเป็นหูทวนลมเพราะไม่อยากทำตัวงี่เง่าไม่ยอมพูดจา หันมาตอบว่า “ไม่อยากกินอะไรแล้ว จะกินแค่ไข่ต้มกับผลไม้ เฮียกั้งอยากกินอะไรก็สั่งมาได้เลย” “แค่ไข่ต้มมันจะไปอิ่มท้องอะไร นี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองผอมแค่ไหน นอนกอดเธอทุกวันฉันยังรู้สึกว่ากอดไม้กระดาน อย่าออกไปยืนนอกระเบียงนะลมพัดเดี๋ยวลอยขึ้นไปตามลม” ประโยคท้ายไม่วายค่อนแคะ แต่ประโยคกลาง ๆ นั่นมันบอกให้รู้ว่าเขานอนกอดเธอทุกคืน ถึงจะค่อนขอดว่าเหมือนอะไรก็ช่างเถอะ “ก็ไม่ต้องมากอดสิ” คำพูดเชิงประชดทำให้คนที่พยายามจะเจรจาดี ๆ ถอนฉุน “ที่พูดก็เพราะเป็นห่วง ตัวเองเป็นโรคคลั่งผอมรู้ตัวรึเปล่า” “จอมแข็งแรงดีค่ะ และพอใจกับรูปร่างตัวเอง ไม่ได้อยากจะผอมไปมากกว่านี้ แค่ไม่อยากกินอะไรเยอะ เพราะกินจนไม่นึกอยากจะกินอะไรแล้ววันนี้ เฮียอยากกินอะไรก็สั่งมากินคนเดียวเถอะ” คนฟังฉิวกับท่าทีไม่แยแสของเธอ จึงเดินเข้าไปคุยกันแบบตรง ๆ “นี่ จอมแก้ว เรามาคุยกันตรง ๆ” ร่างบางหันมาสบตา มองหน้าแล้วถาม “เรื่องอะไรคะ” “ก็เรื่องของเราไง” หญิงสาวเลิกคิ้ว เขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึกคล้ายว่าตัดสินใจอะไรสักอย่างที่เด็ดขาดแล้วก่อนพูดออกมา “อีกหกเดือน ฉันจะให้เธอเป็นอิสระ” “เพราะเฮียกำลังจะแต่งงานใช่มั้ย” เธอย้อนถาม จ้องตานิ่งรอฟังคำตอบ “ใช่ เธอเข้าใจไม่ผิด” “แล้วทำไมเฮียไม่ให้อิสระกับจอมเสียตอนนี้เลย จะยื้อไว้ทำไม” พยายามบังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่น บังคับใจไม่ให้หวั่นไหว “ก็เพราะฉันยังไม่ได้แต่งในตอนนี้ไง ยังมีเวลา” “แล้วเฮียต้องการอะไร” “ก็ต้องการให้เธอทำตัวดี ๆ ว่าง่าย ๆ เหมือนกับสองปีแรกที่เธอมาอยู่กับฉันไง จะได้มั้ย ถ้าเธอทำได้ฉันให้เธอ...สิบล้านไปตั้งตัว ถือเป็นโบนัส” หญิงสาวหลุบสายตาลง ขนาดจะแต่งงานเขายังให้เธออยู่เป็นนางบำเรอให้เขาก่อน ก่อนจะสู้สายตากับเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าจอมไม่ทำตาม” คราวนี้ดวงตาคมดูแข็งกร้าวขึ้นมาฉับพลัน จุดยิ้มมุมปากแต่ขึ้นไปไม่ถึงดวงตา “ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยได้จากฉัน เธอจะไม่ได้มันไปเลยสักบาท ถ้าเธอจะไปจากฉันตั้งแต่วันนี้เธอก็ไปแต่ตัว” น้ำเสียงเขากดต่ำแฝงความน่ากลัวสั่นประสาท และย้ำประโยคอีกว่า “เธอจะได้กลับไปอยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิตอีกแน่ถ้าเธอกล้าจะลองดีกับฉัน จอมแก้ว” สุดท้ายเธอก็เป็นได้แค่นกน้อยในกรงทองที่เขาเลี้ยงไว้ ต่อให้เปิดกรงออกไปได้ก็บินออกไปดูโลกได้ไม่เท่าไรก็ต้องบินกลับมาเมื่อถูกผิวปากเรียก จนวันหนึ่งที่เขาเป็นคนทำลายกรงทองนั้นทิ้งเอง เธอถึงจะได้อิสระอย่างแท้จริง ทนเอาเถอะ อีกแค่หกเดือนเอง แลกกับเงินที่เขาบอกจะให้ ถือว่าคุ้ม! “ค่ะ” ู^ ^ ^ ***เห็นแววความเหี้ย....มของคุณเฮียรึยังคะ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยน้า ส่งกำลังใจและคอมเม้นกันมาดว้ยน้าจะได้ลงบ่อย ๆ ค่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD