ตอนที่ 5
สงกรานต์ลุกจากเก้าอี้เดินไปชงกาแฟให้ท่านนายผู้บัญชาการใหญ่ได้รับประทานก่อนที่เธอจะถูกกินหัว เพราะชักช้าไม่ทันใจพ่อเจ้าประคุณอย่างหงุดหงิด อยากรู้นักว่าจะมีอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของไร่ผู้ยโสและอวดดีอย่างโตมรพ่ายแพ้ได้บ้าง มีและเธอหาเจอนะ จะรีบนำมาใช้พร้อมถวายหัวหมูเป็นการแก้บนสักเก้าหัวสิบหัวเลยเชียว
แล้วฉันมานั่งคิดเรื่องเจ้านายให้ปวดหัวทำไมกัน รีบชงกาแฟให้เสร็จแล้วพาให้โตมรก่อนจะถูกกินหัวดีกว่า แต่เมื่อยื่นมือไปจับช้อนน้ำตาล ความรู้สึกบางอย่างก็ผุดขึ้นในหัว ถ้าตักเกลือแทนน้ำตาล มันจะดีไหมนะ
แต่พอคิดถึงดวงตาสีสนิมเปลี่ยนเป็นสีแดงเรืองรองลุกโชน ใบหน้าสีแทนกร้านแดดกร้านลมเพราะทำงานกลางแจ้งอยู่เป็นประจำเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ ทำให้เธอต้องหยุดคิดในทันที เพราะถ้าทำจริงละก็...มีหวังเธอคอหักตายเพราะมือใหญ่ที่กำเพียงข้างเดียวก็รอบลำคอเธอแล้วล่ะ
สงกรานต์ทิ้งช้อนคนกาแฟลงข้างๆ แก้วเมื่อได้ยินเสียงหวานใสของใครบางคนที่อยู่ด้านหลัง
“ทำอะไรอยู่คะพี่สงกรานต์ ให้น้ำฟ้าช่วยไหม”
สงกรานต์สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงหวานใสที่ดังอยู่ด้านหลัง ยิ่งตัวสั่นมากขึ้นเมื่อแขนเล็กเรียวสอดเข้ามาระหว่างสะเอวเล็กคอด ลมหายใจเป่ารดต้นคอ ก่อนคงกนกพิชญ์จะวางลงบนบ่า แต่ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะกดลงบนต้นคอ สงกรานต์รีบปลดแขนกนกพิชญ์ออกและเลี่ยงไปยืนหัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ อยู่มุมหนึ่งของห้องครัว
ใบหน้าสงกรานต์เผือดซีดสลับแดงก่ำด้วยโทสะและสะอิดสะเอียน ยิ่งเมื่อคิดว่าจะต้องผจญกับโทสะของโตมรอีกครั้ง เธอก็อยากจะเอาหัวโขกกับผนังห้อง เพิ่งจะเคลียร์เรื่องสาวน้อยจอมยุ่งตรงหน้าได้ไม่ทันจะถึงห้านาที แม่ตัวยุ่งก็มาทำให้คลื่นลมที่มันสงบลงแล้วก่อตัวขึ้นมาใหม่ มีหวังคราวนี้คงจะกลายเป็นทอร์นาโดเล่นงานจนเธอหัวหมุนเป็นลูกข่างแน่
“มะ...ไม่ต้องฮะ คะ...คุณน้องน้ำฟ้าจะไปไหนก็ไปเถอะ แค่นี้เองผมทำเองได้” สงกรานต์รีบไล่สาวน้อยน้องสาวเจ้าของไร่ในสวนขวัญให้ไปไกลๆ ก่อนที่พี่ชายสาวเจ้าจะมาพบเข้า บอกตรงๆ ว่ายังไม่อยากหัวขาดในตอนนี้
“แหม...พี่สงกรานต์นะ ทำตัวไม่น่ารักเลย รู้อยู่ว่าน้องน้ำฟ้าอย่างช่วย พี่จะใจดำไม่ให้น้องช่วยหรือคะ” สาวน้อยตวัดหน้าใส่อย่างงอนๆ ด้วยหวังอยากให้คนตรงหน้าง้อสักหน่อย แต่ก็ยกไหล่ขึ้น เมื่อรู้ดีว่าหนุ่มน้อยตรงหน้าก็คงจะเหมือนกับ คนอื่นที่ไม่ง้อเธอ เพราะกลัวอารมณ์พี่ชาย คิดแล้วก็น่าเบื่อและเซ็งกับเซ็งเป็นที่สุด
กลับมาบ้านทีไร หาเรื่องสนุกตื่นเต้นเล่นไม่ได้เลย สู้อยู่ไปโรงเรียนก็ไม่ได้ นอกจากจะสนุกกับการหนีเรียนไปหาพี่ชายของเพื่อนที่พยายามแจกขนมจีบใส่เธอบ้าง แอบหนีไปดูหนังฟังเพลงตามแต่อารมณ์สาวน้อยที่ชอบฉีกกฎก็บ่อย แล้วยังหาเรื่องแกล้งเพื่อนได้อีกกองพะเนิน สนุกกว่าเป็นไหนๆ
“ไม่ต้อง! แค่ชงกาแฟ ทำเองได้” สงกรานต์ตอบพลางชะเง้อคอมองไปด้านหลังหญิงร่างเล็กราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบอย่างหวั่นๆ กลัวว่าโตมรจะเดินออกมาเจอ
“ให้พี่ชายหรือคะ ถ้าอย่างนั้นน้องน้ำฟ้าไม่กวนก็ได้ ไม่อยากให้พี่สงกรานต์ถูกพี่ชายดุใส่อีก แค่เมื่อเช้าก็กลัวว่าพี่สงกรานต์จะถูกพี่ชายฆ่าหักคอทิ้งจะแย่อยู่แล้ว”
แนะ...คำพูดจากสาวน้อยวันแรกรุ่นที่ยังไม่ทันจะโตเป็นสาวดียอมรับผิดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่กลับมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ที่ทำเอาเสียวสันหลัง หายใจไม่สะดวก
กนกพิชญ์ก้มหน้าเหมือนกับว่าเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกสงสัยเสียมากกว่า ดูเหมือนว่าน้องน้ำฟ้าจะว่าง่ายจนเกินเหตุ จนคิดได้ว่าอีกฝ่ายจะต้องมีแผนการอะไรบางอย่างอีกแน่ แล้วก็เป็นจริงดังที่คิด เพราะเมื่อเธอเผลอ ร่างเล็กบางที่ก็วิ่งเข้ามาหอมแก้มนุ่มก่อนจะวิ่งไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ใครก็ได้ช่วยลูกช้างที!
สงกรานต์แทบจะยกมือกราบไหว้สาบานเมื่อได้เห็นร่างหนาที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมโทสะที่แผ่กระจายมาคลุมรอบกายเธอในทันที
“จะ...เจ้านาย ผะ...ผมเปล่านะ ผะ...ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” สงกรานต์รีบบอกกับคนที่ยืนเท้าสะเอว ดวงตาสีดำสนิทเป็นประกายราวกับไฟ จับจ้องที่ร่างเล็กของเธอ...อย่างกับต้องการจะเผาไหม้ให้เป็นจุณอย่างหวาดเสียวและกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ไส้ในกี่ขดๆ ในร่างกายราวกับจะไหลออกมากองอยู่บนพื้น เนื้อตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
“ไหนว่า...ไม่คิดอะไร แล้วเมื่อกี้มันคืออะไร” โตมรกัดฟันถาม กรามหนาขบกัดจนแก้มตอบนูนขึ้น มือที่จับกันอยู่ที่เอวกำแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน เขารู้สึกเหมือนกับมีลมพุ่งขึ้นจนหน้าร้อนผ่าว
อยากด่าไอ้เด็กบ้านี่ให้รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียบ้าง แต่พอเห็นว่าใบหน้าอีกฝ่ายเป็นสีแดงจัด กายบอบบางสั่นสะท้านก็ต้องพยายามระงับโทสะที่มันพุ่งเหมือนกับปรอทที่ได้รับความร้อนก็ทุเลาเบาบางลง ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวพุ่งตรงไปบีบคอไอ้หนุ่มน้อยหน้าหวานที่ยืนยิ้มแหยๆ ทำตากะพริบปริบๆ อ้อนวอนขอให้เชื่อที่ตัวเองพูด ทั้งที่ภาพที่เขาเห็นมันเป็นหลักฐานฟ้องอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
เธอพยายามที่จะหลบหลีกแล้วนะ แต่น้องสาวเจ้านายนั่นแหละที่เป็นฝ่ายไล่ตามล่า แล้วยังจะ...
โว้ย! วันนี้เป็นวันบ้าอะไรของเธอกันเนี่ย ซวยทั้งวันเลย
เมื่อเห็นว่าลงมือทำร้ายหนุ่มหน้าละอ่อนไม่ได้ เพราะสงกรานต์ไม่ผิด แต่เมื่อยังมีโทสะยังเผาไหม้สุมอกและทางที่ดีที่สุดก็คือ
โครม!!
สงกรานต์รีบกระโดดหนี เพราะกลัวเก้าอี้ที่ถูกถีบจะกระเด็นมาถูกตัวเอง มันก็ไม่ทัน...
“โอ๊ย!”
น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าตา มือเล็กลูบขาที่ถูกกระแทกเมื่อครู่ก่อนจะทำหน้าบึ้งใส่คนที่ทำให้เธอเจ็บด้วยความน้อยอกน้อยใจและตัดพ้อต่อว่า แต่กลับไปสะดุดกับ...
ขนาดว่าเจ็บตัวเพราะเขาอยู่นะ แต่เธอก็ยังไม่วายคิดไม่ดี เพราะรูปลักษณ์ของโตมร ดวงตากลมโตเหมือนกับถูกสะกดให้ต้องมองแต่คนตรงหน้า น้ำลายเหนียวๆ ไหลติดตรงลำคอ หัวใจดวงน้อยแทบจะหยุดเต้น ลมหายใจติดๆ ขัดๆ
กระดุมเสื้อเชิ้ตที่หลุดออกทำให้เห็นกล้ามเนื้อแข็งแกร่งเป็นลอนที่ไหวกระเพื่อมตามแรงหายใจของผู้เป็นเจ้าของ มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่ทำให้หัวใจเธอเต้นไหวรุนแรงราวกับมีแผ่นดินไหว
“เจ็บมากไหม” โตมรถาม พลางเดินไปหาสงกรานต์และช้อนกายบอบบางขึ้นจากพื้นโดยเร็ว
“เจ้านายก็ลองมาโดนดูบ้างซิฮะ...ว้าย!” สงกรานต์ก็หวีดร้อง ใบหน้าเผือดซีด มือไม่รู้จะวางยังไงดีเมื่อถูกอุ้มในท่าเจ้าสาว ก่อนจะตัดสินใจยกขึ้นโอบรอบลำคอกว้างเพราะกลัวจะตก
หัวใจสงกรานต์เต้นแรงเร็วเหมือนมีใครมาตีกลองสะบัดชัยอยู่ภายใน ใบหน้านวลแดงปลั่งและอิ่มอาบไปด้วยความสุขที่ได้อยู่ในอ้อมแขนแกร่งโดยไม่ทันจะรู้ตัว ความอบอุ่นแผ่ซ่านซึมเข้ามาในหัวใจอย่างเชื่องช้าและมั่นคง
สงกรานต์อยากให้เส้นทางที่โตมรพาเดินไปยาวไกลอีกสักหน่อย ไม่ใช่แค่สี่ห้าก้าวก็ถึงโซฟาที่วางอยู่ระหว่างเส้นทางจากประตูไปยังห้องทำงานแล้ว
“แกบ้าหรือเปล่าสงกรานต์ หวีดร้องเสียงแหลมอย่างกับผู้หญิงไม่มีผิด ถามจริง แกเป็นกะเทยหรือเปล่า เสือกดัดจริตร้องวี้ดว้ายเหมือนควายโดนเชือด” โตมรเอ่ยถาม ความไม่ชอบใจไม่พอใจพวยพุ่งขึ้นมาอย่างเร็ว เขาเกลียดไอ้ท่าทางดัดจริตทำตัวไม่แมนเหมือนอีกฝ่ายมาก อยากเป็นกะเทยก็เป็นไปเลย ไม่ใช่มาเป็นอีแอบอยู่แบบนี้ เห็นแล้วอยากกระทืบซ้ำมาก