นุชามีความสุขเมื่อไปช่วยสองพ่อลูกซื้อของ รณกรณ์จึงตอบแทนเธอด้วยการพาไปรับประทานอาหารและไปส่งบ้าน เนื่องจากรถของเธอยางแบนทั้งสี่ล้อ สีหน้าของเธอไม่สบายใจเล็กน้อย คิดว่าสาเหตุที่ยางแบนคงไม่ใช่ความบังเอิญเป็นแน่
รณกรณ์มองลูกชายที่เหลือบมองเขาอยู่เป็นระยะ ๆ เหมือนจะพูดอะไร ทำให้เขาต้องเอ่ยถามหลังจากไปส่งนุชาที่บ้านเรียบร้อยแล้ว
“มีอะไรครับคนดีของพ่อ”
“คุณพ่อจีบพี่นุชาเถอะครับ”
เอี๊ยด!!! เสียงเบรกรถดังขึ้นเพราะรถเบียดไปกับถนน เขาเลี้ยวรถเข้าข้างทาง ตกใจไม่น้อย
“คุณพ่อตกใจเหรอครับ” เด็กน้อยทำตาปริบ ๆ ไร้เดียงสา
“ทำไมให้พ่อไปจีบพี่นุชาละครับ” เขาแก่รุ่นนี้ อายุสี่สิบเข้าไปแล้ว จะไปจีบเด็กอายุยี่สิบต้น ๆ มันรู้สึกขัดเขินเอามาก ๆ เหมือนตาแก่ตัณหากลับอย่างไรอย่างนั้น เขาไม่ได้นิยมเด็กสาวเหมือนผู้ชายที่มีอายุทั่วไป แต่คิดว่าหากจะมีภรรยาอีกครั้ง คงเป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จะได้มีเหตุผลและดูแลลูกชายคนเดียวของเขาได้
“ผมชอบพี่นุชาครับ ผมเชียร์คนนี้ คุณพ่อจีบคนนี้นะครับ คนอื่นผมไม่เอา” เด็กน้อยกอดอกทำท่าครุ่นคิดก่อนตอบ แล้วเบ้หน้าเมื่อนึกถึงผู้หญิงของบิดา
“แก่แดดจริงนะตัวแสบ” คราวนี้เปลี่ยนจากคนดีเป็นตัวแสบ เขาโยกศีรษะของลูกชายไปมา
“ถ้าคุณพ่อไม่จีบพี่นุชา ผมจะไม่ไปโรงเรียน”
“ไม่ไปโรงเรียนก็โง่นะครับ อ่านหนังสือไม่ออก”
“ผมก็จะฟ้องพี่นุชาว่าคุณพ่อมัวแต่หลงสาว ๆ ไม่สนใจผม”
“เราจะขับรถมาฟ้องรึ” รณกรณ์หัวเราะหึ ๆ ในลำคอ คิดว่าลูกชายพูดเล่น
“นี่ไงครับ เบอร์โทรของพี่นุชา ผมโทรไปฟ้องก็ได้ ทำไมต้องขับรถไปด้วยล่ะครับ” เด็กน้อยยกกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้บิดาดู คนที่ขับรถอยู่แทบเบรกรถอีกครั้ง เอากับลูกชายของเขาสิ…
“คุณพ่อน่ะช้ากว่าเต่า ผมเร็วกว่าเห็นไหม พี่นุชายังบอกอีกว่า หากมีปัญหาอะไร ให้โทรหาได้ทุกเวลาเลยครับ” เด็กชายตัวน้อยไม่ได้บอกหรอกว่าพูดอะไรกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ในอนาคตบ้าง
“น้องกฤตร้องไห้ทำไมคะ” ตอนที่บิดาของเด็กน้อยคุยอยู่กับผู้ใหญ่ นุชาจึงพาเด็กน้อยมาเดินสำรวจบ้านและกินขนมในสวน
“คุณพ่อไม่ค่อยมีเวลาให้น้องกฤตเลยครับ น้องกฤตเหงา” เด็กชายตัวน้อยบีบน้ำตาซบหน้าที่ไหล่ของว่าที่คุณแม่อย่างออดอ้อน
ตอนนี้จองไว้เป็นว่าที่คุณแม่ไปก่อน แต่ต่อไปต้องเป็นคุณแม่ของน้องกฤตจริง ๆ คอยดูเถอะ
“น่าสงสารจัง”
“ผมเหงาครับ ไม่มีเพื่อนเลย คุณพ่อก็งานยุ่ง”
“พี่ยินดีเป็นเพื่อนกับน้องกฤตนะคะ”
“จริง ๆ เหรอครับ” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นทำตาวิ้ง ๆ อย่างแสนดีใจ
“จริงสิจ๊ะ”
“น้องกฤตขอเบอร์พี่นุชาได้ไหมครับ เวลาคิดถึงจะได้โทรมาหา”
“ได้สิจ๊ะ” นุชาให้เบอร์เด็กน้อยไปอย่างไม่คิดอะไร แถมยังเซฟเบอร์โทรศัพท์ในโทรศัพท์เครื่องเล็ก ๆ ของเด็กน้อยที่พกติดตัวเอาไว้ด้วย
รณกรณ์มองลูกชายตาปริบ ๆ ส่วนเจ้าลูกชายตัวน้อยก็มองบิดาตาปริบ ๆ เช่นกัน
“สรุปว่าคุณพ่อจะจีบพี่นุชาใช่ไหมครับ”
“พ่อแก่แล้ว พี่นุชายังเด็ก อายุห่างกันขนาดนั้น เหมือนตาแก่ไปจีบเด็กเลยครับ”
“คุณพ่อไม่เห็นแก่เลย” เด็กน้อยกอดอกทำปากยื่น
“เราคิดว่าพ่อไม่แก่ แต่พี่นุชาคิดว่าพ่อแก่แล้ว”
“พี่นุชาก็คิดว่าคุณพ่อไม่แก่ครับ”
“รู้ได้ยังไง”
“ผมก็ถามสิครับ พี่นุชาบอกว่าคุณพ่อดูหนุ่มกว่าอายุจริงมาก ๆ”
“ขี้โม้หรือเปล่า” คนถามแอบยิ้ม แต่ไม่เล็ดลอดสายตาของเด็กน้อยที่เฉลียวฉลาดเกินวัยไปได้
“จริง ๆ ครับ ถ้าคุณพ่อจะจีบพี่นุชา ผมจะช่วยเอง”
“เอาจริง ๆ เหรอ” เขาก็บ้าจี้เอากับลูกชายตัวดี แต่เห็นสายตาออดอ้อนออเซาะนั้นทำใจอ่อนทุกทีสิน่า
“เอาจริง ๆ ครับ คนนี้เอาจริง ๆ คนอื่นไม่เอาครับ” เด็กชายตัวน้อยเบ้หน้า ส่ายหน้าดิก
“ทำไมคนอื่นไม่เอาล่ะ”
“คนอื่นทาปากแดงเหมือนปีศาจ พอคุณพ่อหันหลังให้เท่านั้นแหละ ก็แยกเขี้ยวใส่ผมทันที” รณกรณ์หัวเราะกับการเปรียบเทียบเปรียบเปรยของบุตรชาย แต่ก็จริง ๆ นะ เขาคิดเสมอว่าหากมีภรรยาใหม่จะต้องเข้ากับลูกชายของเขาได้ ถ้าพวกเธอทำแบบนั้นจริง ๆ ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
ทางด้านแพรวพรรณซื้อของส่วนตัวเสร็จก็รีบกลับ เธอมาถึงบ้านก็รีบเอาผ้าอนามัยไปซ่อน ก่อนจะนำผ้าปูที่นอนไปซัก
“คุณแพรวจะซักผ้าปูที่นอนเหรอคะ” แก้วซึ่งเป็นสาวใช้เอ่ยถาม แพรวพรรณสะดุ้ง หันไปพยักหน้าโดยไว
“มาค่ะแก้วซักให้”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ แค่ใส่ลงเครื่อง ฉันทำเองดีกว่า”
“แต่คุณอิฐสั่งว่าให้ดูแลคุณแพรวให้ดีค่ะ งานแค่นี้แก้วทำเองดีกว่าค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ฉันซักเอง แก้วไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ฉันใหม่ดีกว่าจ้ะ”
“ไม่ให้แก้วซักให้จริง ๆ เหรอคะ”
“จริงจ้ะ ฉันทำเองได้”
“งั้นก็ได้ค่ะ” แก้วยิ้มให้ มองอย่างแปลกใจ แต่คิดว่าแพรวพรรณอาจจะชอบทำอะไรด้วยตัวเอง แต่ก็แปลก คนมีฐานะเป็นลูกคุณหนูที่มีใครทำอะไรให้ตลอด ไม่น่าซักผ้าเอง แต่เครื่องซักผ้าสมัยนี้ทันสมัย เป็นแบบอัตโนมัติ ซักง่ายไม่ต้องนั่งขยี้เหมือนก่อน ซักเองก็คงไม่เหนื่อยหนักอะไร แค่ใส่ลงเครื่องเทผงซักผ้า เทน้ำยาปรับผ้านุ่ม กดเปิดเครื่อง มันก็ทำงานของมันเอง
แพรวพรรณผ่อนลมหายใจออกมาแรง ๆ เมื่อสาวใช้เดินลับหายไปแล้ว
หลังจากนั้นเธอก็แอบซักกางเกงในเอง แล้วคืนนี้จะทำอย่างไร แพรวพรรณเริ่มขบคิดปัญหาของตัวเอง ถ้าอิฐแอบลักหลับเธอเหมือนเมื่อตอนเช้าอีกเขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าเธอโกหก
แพรวพรรณเดินวนไปวนมาในห้อง ขบคิดจนสมองแทบแตก เธอเป็นคนนอนขี้เซาเสียด้วยสิ ถ้าเขาแอบถอดกางเกงเธอออกก็ต้องเห็นผ้าอนามัย
เธอจะทำอย่างไรดีนะ แพรวพรรณทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ถอนใจเฮือกใหญ่
หรือเธอจะบอกความจริงกับเขาดี
มันไม่ดีแน่ ๆ หัวใจของเธอเต้นตึกตัก
แล้วเธอก็นึกออก ปิ๊งไอเดียขึ้นมาในทันที
“พี่อิฐขา... แพรวขอโทษนะคะ” เธอกล่าวขอโทษเบา ๆ ผ่านไปกับสายลม
ในเย็นวันนั้นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จสิ้น อิฐรู้สึกว่าเขาง่วงนอนเหลือเกิน คิดว่าจะทำงานอีกครู่ ก็ต้องพาตัวเองลากขาขึ้นเตียง
“พี่ง่วงจังเลยครับแพรว” เขาพูดกับเธอ ทิ้งตัวลงนอนก็หลับไปในทันที
แพรวพรรณถอนใจโล่งอก นึกขอโทษเขาในใจ ก่อนจะขึ้นไปนอนพร้อมกันกับเขา เธอต้องตั้งนาฬิกาปลุก ตื่นก่อนเขา ไม่งั้นโดนเขาลอกคราบเหมือนเมื่อตอนเช้า เธอจะซวยเอาได้
ดีหน่อยที่ประจำเดือนของเธอมาแค่สามวันไม่เกินจากนี้ เธอจำต้องวางยาสามีชนิดรุนแรงทุกคืน รู้สึกผิดก็รู้สึกผิดอยู่หรอก แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้เขาต้องจับได้แน่ ๆ ก่อนจะแต่งงานกัน ยิ่งมีปัญหากันอยู่ด้วย ถ้าเขารู้เรื่องที่เธอโกหกทุกอย่างคงพัง
“แพรว...”
“คะ? พี่อิฐ” คนถูกเรียกสะดุ้ง รับคำแทบไม่ทัน
“เป็นอะไรครับ พี่เรียกแค่นี้ถึงกับสะดุ้ง”
“เปล่าค่ะ”
“หมู่นี้พี่คงทำงานเยอะไป หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย”
“น่าจะเป็นแบบนั้นละค่ะ” เธอยิ้มเจื่อน ๆ ให้เขา ดีที่เธอหมดประจำเดือนไปแล้วหนึ่งวัน แต่เมื่อคืนเธอก็ยังวางยานอนหลับเขา เหตุผลคือให้ประจำเดือนเธอหยุดสนิทเสียก่อน
“พี่จะพาแพรวไปฝากท้องนะครับ”
“คะ?” เธอสะดุ้งสุดตัว มองเขาด้วยใบหน้าเหลอหลา
“แพรวตกใจอะไรครับ”
“ปะ... เปล่าค่ะ แพรวแค่เอ่อ... ไม่อยากรบกวนพี่อิฐน่ะค่ะ แพรวไปเองดีกว่า”
“รบกวนอะไรกัน พี่เป็นสามีของแพรว เรียกรบกวนได้อย่างไรกัน” เขาขมวดคิ้วทำเสียงดุ