10

1515 Words
 เมื่อสิ่งที่มีค่าหายไปคนเรามักจะคิดถึงโหยหา ในยามที่สิ่งนั้นยังอยู่ใกล้ ๆ กลับมองไม่เห็นคุณค่า เขาเองก็คงไม่ต่างกัน นอกจากเช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยาแล้ว เขาก็นอนเฝ้าเธออยู่ข้างเตียงทุก­วัน จนไข้ของเธอทุเลาลง วันนี้เขาสัมผัสหน้าผากของเธอ ปรากฏว่ามันไม่ร้อนอีกแล้ว “อือ...” เธอครางขณะปรือตาขึ้นจากการหลับใหล สมองรู้สึกหนักอึ้งปวดหัวและมึนเบลอ ทำท่าจะลุกก็ต้องทิ้งตัวลงไปใหม่ “แพรว... ตื่นแล้วเหรอ” สีหน้าดีใจของคนที่นอนฟุบอยู่ข้างเตียงทำให้เธอมองเขาอย่างงุนงง “แพรวเป็นอะไรไปคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงแห้งผาก “แพรวป่วยไม่สบายหลายวัน พี่เป็นห่วงแทบแย่” “หิวน้ำจัง” เธอพูดเสียงแหบแห้ง อิฐรีบไปเอาน้ำมาให้เธอดื่ม เขาลูบศีรษะของเธอไปมา หลังจากให้หมอมาฉีดยาเธอก็มีอาการดีขึ้นตามลำดับ “พี่เฝ้าแพรวอยู่ตลอดเวลาเลยเหรอคะ” เธอเห็นใบหน้าอิดโรยของเขา มองไปรอบกายมีถุงยา ผ้าขนหนูตากเอาไว้ รวมถึงเสื้อผ้าข้าวของเละเทะไปหมด รับรู้อย่างเลือนรางว่าได้ยินเสียงเขาอยู่ตลอดเวลาที่ตื่น “พี่เป็นห่วงแพรว” เธอนิ่งเงียบไป พอคิดถึงความใจร้ายของเขา เธอก็ไม่พูดกับเขาอีก “ยังโกรธพี่อยู่อีกเหรอ” “พี่ลองโดนทิ้งดูบ้างสิคะ” เธอว่าเขาสีหน้าเจ็บปวด “พี่เข้าใจ ผิดไปแล้วก็อยากแก้ไขให้ดีขึ้น” “ไม่มีทางหรอกค่ะ” เธอพูดเสียงแข็ง “หิวไหม กินข้าวกัน” เขาเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากทะเลาะกับเธอตอนนี้ “ไม่หิวค่ะ” “ควรจะกินอะไรเสียหน่อยนะ” เขายกชามข้าวต้มร้อน ๆ ที่แม่บ้านเพิ่งนำมาให้ ก่อนที่เธอจะฟื้นขึ้นมา วางลงตรงหน้าคนเพิ่งหายป่วย “มาครับ พี่เป่าให้” เขาเป่าเบา ๆ ก่อนจะป้อนไปที่ปาก “บอกว่าไม่กินยังไงเล่า” แพรว­พรรณปัดชามข้าวต้มจนกระเด็น เธอเม้มปากแน่น ไม่ได้ตั้งใจจะทำรุนแรง แต่เธอยั้งอารมณ์ไม่อยู่ “คนเห็นแก่ตัว รังแกแพรวทำไม” “ไม่ได้รังแก แพรวเป็นเมียพี่ ผัวเมียนอนด้วยกันเรื่องธรรมดา” เขาเก็บชามข้าวต้ม ไม่เคืองโกรธ เธอไม่กินเขาก็ไม่บังคับ รู้ดีว่าแพรว­พรรณเป็นคนดื้อ “งั้นเช็ดตัวกัน” “ไม่เช็ด” เธอทำเสียงแข็ง หนีไปชนกับเตียงอีกด้าน เขาเดินไปล็อกกุญแจห้องด้านใน เธอมองเขม็ง ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าห้องน้ำ แล้วออกมาพร้อมผ้าขาวสะอาดที่แช่อยู่ในกะละมังใบเล็ก ๆ “เช็ดตัวก่อน” “ไม่เช็ด” “ก็ได้ งั้นเอากันแทน” “พี่อิฐ!” เสียงเข้ม ๆ ของเธอไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัวแม้แต่น้อย คนหน้ามึนยังเข้ามาปลดเสื้อผ้า ถอดปล้ำเอาแต่ใจ ไม่ได้ดุด่า ไม่โหดร้าย แต่นิ่งสงบ ด้วยปกตินิสัยของอิฐเป็นคนนิ่ง ๆ แต่นั่นทำให้เธอขัดใจที่สู้แรงเขาไม่ได้ “เช็ดตัวจะได้สบายขึ้น หลังเช็ดตัวเสร็จถ้ามีแรงก็ค่อย...” “ไม่ทำอะไรทั้งนั้น” เธอหน้าแดงรีบเบรกเขาเอาไว้ สัญชาตญาณบอกเธอว่าเขากำลังจะพูดอะไรที่ไม่น่าฟังออกมา “งั้นก็เช็ดตัวเฉย ๆ ถ้าไม่เช็ดก็ทำอย่างอื่น” เธอหน้าแดง เขายื่นมือเข้ามาหาทำท่าจะเช็ดหน้าให้ เธอก็ตบเขาเผียะ! ใหญ่ หน้าเขาหันไปตามแรงมือ เขาไม่ยักโกรธ ยื่นมือมาจะเช็ดตัวให้เธออีก เธอเลยจะตบเขาให้คว่ำอีกรอบ จะได้เลิกยุ่งกับเธอเสียที แต่รอบนี้เขาหลบทัน เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาจับเธอกดมือแนบไปกับเตียงนอนกว้าง เธอยกมือทำท่าจะตบ เขาก็จูบ ปล้ำจูบกันไปจนเหนื่อยหอบ คนหน้ามึนเนื้อตัวเปลือยเปล่า เขาถอดเสื้อผ้าอะไรเร็วปานนั้น            เผลอแป๊บเดียวล่อนจ้อนเสียแล้ว “แพรวอยากมีลูกไหม” “ไม่อยากมีค่ะ” เธอสะบัดเสียงใส่ “พี่อยากมี” “อยากมีก็ไปบอกผู้หญิงคนอื่นสิคะ” “จะไปบอกใครได้ มีเมียอยู่แล้วทั้งคน” เขาตอบหน้าตาย เธอเคยคิดว่าสีหน้านิ่ง ๆ ของเขาดูมีเสน่ห์น่าค้นหา บัดนี้มันน่าหมั่นไส้เสียยิ่งกว่าอะไร “ปล่อยนะคะ” “บอกแล้วไงว่าถ้าไม่เช็ดตัวก็ทำอย่างอื่นกัน” “แพรวไม่ทำอะไรทั้งนั้น” จะเช็ดตัวหรือทำอย่างอื่นเธอก็เสียเปรียบอยู่วันยังค่ำ อย่างไรก็ต้องแก้ผ้าต่อหน้าเขาอยู่ดี “พี่อิฐปล่อยแพรวไปเถอะค่ะ ป่านนี้ที่บ้านแพรวคงจะหาแพรวแล้วละค่ะ” เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะมายุ่งกับเธอทำไม ในเมื่อเขาไม่ต้องการเธอไม่ใช่หรืออย่างไรกัน “ไม่หาหรอก พี่ส่งข้อความไปบอกนายพริกแล้วว่าแพรวจะไปเที่ยวกับเพื่อน” “พี่อิฐ!” เธออุทานกับความเจ้าเล่ห์ของเขา ดูเอาเถอะ มายุ่มย่ามกับข้าวของของเธอ “ครับ” “อื้อ...” เขาขานรับก่อนจะบดจูบลงมาหา เธอเบี่ยงหลบแต่ไม่พ้น          เขารวบมือเธอเอาไว้ กดไปเหนือศีรษะ ก่อนจะมองสบตาเธอ ถ่ายทอดความรู้สึกหลากหลายไปยังดวงตาคู่นั้น “พี่อิฐ...” แพรว­พรรณคราง ดวงตาของอดีตสามีที่ได้สบในยามนี้          มันแตกต่างจากเมื่อก่อน หรือจริง ๆ แล้วมันมีอะไรซุกซ่อนมานานแล้วแต่เธอมองไม่เห็น “พี่แค่รู้สึกว่าบางทีคนเราก็ทำผิดพลาดกันได้ ถ้าผิดไปแล้ว ก็อย่าทำผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง แพรวจะให้โอกาสพี่ได้ไหม พี่จะไม่ทำอะไรผิดพลาดอีก” “แพรว...” เธอนิ่งอึ้งไป เปล่งเสียงออกมาได้แค่นั้น “พี่รู้ว่ามันยาก กับสิ่งที่พี่ได้ทำลงไป” “ถ้าพี่อิฐเชื่อใจแพรวสักนิด” เธอเม้มปากรู้สึกเสียใจ “ต่อไปพี่จะเชื่อใจแพรว” “ปล่อยค่ะ” “ไม่เอา ขอนอนกอดหน่อย ให้หายคิดถึง” “เอาเปรียบกันเกินไปแล้วนะคะ” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง แต่เขากลับซุกมาที่อกอบอุ่นของเธอแทน “ยังเจ็บอยู่ไหม” เขาเอ่ยถาม เธอทำหน้างง ก่อนจะหน้าแดงเมื่อเขาเลื้อยมือลงไปเบื้องล่าง “พี่อิฐ” “ครับ” “เอามือออกไปนะคะ” “ไหนพี่ดูหน่อยว่ายังเจ็บอยู่ไหม” เขาเลื่อนมือลงไปสัมผัสกับเนินสาวของเธอ สอดแทรกนิ้วกลางเข้าไปภายใน แม้อยากจะปฏิเสธเท่าใด แต่ยามนี้รู้สึกสยิวกับสัมผัสของเขานัก อิฐสอดแทรกเข้ามาอย่างเชื่องช้า เขาบดจูบจนใจเธออ่อนระทวย แพรว­พรรณดันใบหน้าของเขาออกห่างเมื่อตอหนวดของเขาตำผิวบาง ๆ ของเธอ “พี่อิฐควรจะโกนหนวดนะคะ” เธอบอกเขาเสียงสั่น ๆ เขาใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสกับใบหน้าของตัวเอง “หน้าเหมือนโจร แพรวกลัวนะรู้ไหม” จริง ๆ อยากจะบอกว่าตอหนวดของเขาตำผิวเธอจนแดงไปหมดแล้ว แต่ไม่กล้าพูด “โกนให้หน่อย” “เอ่อ...” เธออ้ำอึ้ง หน้าแดงกับสัมผัสรุกรานของเขา ร่างสูงเพรียวที่ขึ้นมาคร่อมทับทำเธอเกือบจะใจอ่อน “โอ๊ย!” เขาร้องเสียงหลงเมื่อเธอใช้เข่าดันไปที่หว่างขา เขาจุกจนต้องกุมน้องชายตัวเองเอาไว้ มองเธอหน้าแดงก่ำ ร่างน้อยลงจากเตียง ใช้ผ้าห่มคลุมกายไปยืนอยู่อีกด้าน อิฐมองหน้าเธอก่อนจะหัวเราะขำ เธอหน้างอเมื่อเขาไม่โกรธ ทนทายาดจริง ๆ “ไปโกนหนวดให้พี่หน่อย” “ไม่กลัวแพรวถือโอกาสปาดคอเอาเหรอคะ” “แพรวไม่ทำหรอก เพราะแพรวรักพี่” “หลงตัวเอง” เธอเบ้หน้าใส่ มองค้อนคนหลงตัวเอง “ไม่อยากให้หลง อยากให้แพรวมารักพี่เหมือนเดิม” เขาอ้อนวอนจากสายตา แพรว­พรรณนิ่งเงียบไป เธอไม่ได้ปริปากพูดอะไรอีก  แพรว­พรรณมองคนที่นอนหนุนตักเธอไม่วางตา เขาพาเธอมาที่ริมลำธาร ที่นี่ลมเย็นสบาย แล้วเขาก็มานอนหนุนตัก ออดอ้อนออเซาะให้เธอโกนหนวดให้ อาการของเขาบางทีก็น่าหมั่นไส้ บางทีก็น่าเอ็นดู หญิงสาวค่อย ๆ บรรจงวางมีดโกนและลากเบา ๆ ตรงปลายคาง         เพียงไม่นานใบหน้าที่รกครึ้มไปด้วยเส้นขนก็เกลี้ยงเกลาหมดจด เขาล้างหน้าริมลำธารพอโผล่พ้นขึ้นมา เขาก็เป็นพี่อิฐคนเดิมที่เรียบร้อยขึ้น แต่ผมของเขายาวลงมาประบ่า อยากถามนักว่าเขาไม่ตัดผมกี่เดือนแล้ว “อยากจะตัดผมให้พี่อีกเหรอ” เขาถามเหมือนรู้ใจ “ตัดเองสิคะ” “ตัดให้หน่อย” เขาดึงกรรไกรมาให้เธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD