สุรเสียงเด็ดขาดเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจะมิตรัสคำเดิมอีกเป็นคราที่สอง ทหารผู้ทำหน้าที่เฝ้าคุกหลวงต่างทำความเคารพและถอยออกไปจากคุกส่วนนี้แต่โดยดี ฟางอวี้ยืนมองเหตุการณ์อยู่โดยตลอด แต่เจ้าตัวก็มิได้ส่งเสียงจนกระทั่งตงฟางฉีมาหยุดยืนอยู่หน้าตารางเหล็กของตน “ท่านโหวฟางอวี้” ตงฟางฉีทักทายผู้อาวุโสกว่าด้วยความนอบน้อม “นึกไม่ถึงว่าโอกาสที่จะได้เสวนากับท่านอ๋องน้อยเป็นการส่วนตัวจะเกิดขึ้นในคุก” ทหารผู้ตรากตรำในสนามรบมานานกว่าค่อนชีวิตบัดนี้มีหนวดเครารุงรัง ดวงตาแดงก่ำ สีหน้าอิดโรย ไม่เหลือเค้านักรบผู้เกรียงไกรหลงเหลืออยู่แม้แต่ปลายก้อย ดั่งคำว่าไว้ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง กระทั่งท่านโหวซึ่งเปรียบดั่งวีรบุรุษของแว่นแคว้นยังตกอยู่ในสภาพเช่นดีได้ หากมิใช่เพราะความจงรักภักดี มีหรือผู้ที่กุมกองกำลังทหารหลายสิบหมื่นจะยอมอยู่เฉย ไม่ก่อกบฏเพราะความโกรธเกรี้ยวกับสิ่งที่ตนต้องเผชิญ แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอ