5

1229 Words
แล้วทั้งสองหนุ่มก็หัวเราะเสียงดังด้วยความตลกขบขัน ก่อนที่เวทัสจะสังเกตเห็นความเศร้าและกังวลของธามไท “ว่าแต่เรียกกูมาดึกๆ แบบนี้มีเรื่องไรวะ” เจ้าถิ่นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง น้อยครั้งที่เขาจะเห็นเพื่อนรักมีสีหน้าเครียดเช่นนี้ “เออ เรื่องงานนั่นแหละ” ธามไทพูดก่อนจะหยิบ Pod ขึ้นมาสูบทันทีเพื่อระบายความเครียด “มึงก็ปล่อยวางบ้าง หมอไม่ได้มีแค่มึงคนเดียวนะ หยุดงานบ้างก็ได้ จะบ้างานไปถึงไหน” เวทัสกล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้จักธามไทดี เพื่อนของเขาห่วงชีวิตคนไข้เสียยิ่งกว่าอะไร บางเดือน หมอหนุ่มไม่หยุดงานเลยด้วยซ้ำ “ไม่ใช่เรื่องนั้นว่ะ แต่แม่งเรื่องศศิ” ธามไทดื่มเหล้าเข้าปากอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เขากำลังพูดถึง ‘ศศิ’ ลูกสาวของหุ้นส่วนโรงพยาบาลที่ถูกหมายมั่นปั้นมือให้แต่งงานกับเขาแต่เขาไม่เคยรู้สึกอะไรด้วย “อ้อ ผู้หญิงสวยๆ ที่เป็นลูกสาวคุณสุนทร” เวทัสจำได้ดีว่า คุณสุนทรปลาบปลื้มธามไทแค่ไหน และตั้งแต่ที่ลูกสาวกลับจากต่างประเทศ ฝ่ายนั้นก็คอยพยายามจับคู่ศศิกับธามไทตลอด “เออดิ” “มีไรวะ อย่าบอกนะว่า…” เวทัสพูดอย่างรู้ทัน เพราะก่อนหน้านี้ธามไทเคยเอาเรื่องนี้มาปรึกษาบ้างแล้ว ตอนแรกเขาก็คิดว่าจะจบไปตั้งนาน กลายเป็นว่ายังไม่จบอีก “เมื่อตอนค่ำ คุณสุนทรนัดพบกูเรื่องงานเนี่ยแหละ แล้วก็เข้าเรื่องศศิอีก พูดจาเหมือนอยากให้กูเอาลูกเขาเป็นเมีย ละกูแม่งก็ไม่ใช่คนฝืนอะไรได้ด้วย กูเลยปฏิเสธไปตรงๆ เลย ว่าไม่อยากได้ลูกเขาเป็นเมีย” ธามไทพูดอย่างหัวเสีย สุนทรพยายามจะยัดเยียดลูกสาวให้อย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าเขาจะไม่ได้นึกรังเกียจศศิ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ชอบศศิแบบนั้นเช่นกัน “แล้วมึงเป็นอะไร คุณศศิไม่ดีตรงไหน สวยก็สวย มึงจะโสดตลอดไปไม่ได้นะไอ้ธาม สักวัน มึงก็ต้องมีเมีย กูว่าคุณศศิก็เหมาะกับมึงดี” เวทัสนึกภาพศศิที่ยืนคู่กับธามไทเมื่อมีงานสำคัญของโรงพยาบาล และเคยแอบคิดเสมอว่าเพื่อนรักเหมาะสมกับผู้หญิงคนนี้ยิ่งกว่าอะไร แต่จนแล้วจนรอด ธามไทก็ยังหวงความโสดของตนเอง “กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ากูไม่อยากแต่งงาน ชีวิตกูตอนนี้ แค่เรื่องงานก็แทบไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลเมีย” ธามไทพูดอย่างใจคิดจริงๆ เพราะไม่เคยนึกถึงตัวเองยามที่มีคนรักมาก่อน เขากลัวว่าจะทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ ที่ผ่านมาจึงรักสนุกเพื่อผ่อนคลายความต้องการของตนเองไปวันๆ “มึงจะเอาไปทั่ว รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน ได้กันแต่ไม่ใช่แฟน แบบนี้จนตายไม่ได้นะไอ้ธาม” เวทัสพูดเตือนพร้อมกับตบบ่าเพื่อนอย่างแรงจนธามไทต้องหันไปด่าเข้าให้ “ไอ้เหี้ยนี่เบาหน่อย! กูไม่ได้เอาไปทั่ว แต่กูโสดจะทำอะไรก็ได้ อีกอย่าง กูไม่คิดจะมีเมีย ถ้ามีแล้วต้องเป็นหมาหงอยแบบมึง” ธามไทพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากที่ได้แขวะเพื่อนรัก “ทำเป็นพูดดีไปเหอะ! หมาหงอยอะไรมึง มึงไม่มีวันรู้หรอกว่าเวลามีเมีย หรือเวลารักใครมันมีความสุขแค่ไหน” เวทัสพูดอย่างไม่ถือสาเพื่อน “กูไม่อยากรู้โว้ย แค่นี้ กูก็มีความสุขมากพอแล้ว กูจะทุกข์ก็ตอนที่มีคนยัดเยียดเมียให้กูนี่แหละ” ธามไทรู้สึกเครียดขึ้นมาอีกครั้ง “แล้วมึงปฏิเสธคุณสุนทรไปแบบนั้น เขาไม่เกลียดมึงแย่เหรอวะ” เวทัสพูดด้วยความเป็นห่วง เพราะถึงอย่างไร สุนทรก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาล หากมีเรื่องบาดหมางกันย่อมไม่ใช่ผลดีแน่ “เขาก็บอกกูว่าอยากให้ลองเปิดใจ เพราะลูกสาวเขาเป็นคนดี” หมอธามไทพูดเสียงนิ่งพร้อมกับหลับตาลงด้วยความหนักใจ “นั่นไง ตัวเขาเองก็เป็นคนดี แล้วมึงจะเรื่องเยอะทำไมวะ” เวทัสแทบอยากจะชกหน้าเรียกสติเพื่อนรักที่เอาแต่เรื่องมากทั้งที่ของดีมาอยู่ตรงหน้า “ก็ที่กูหนักใจจนต้องเรียกมึงมาก็เพราะเรื่องนี้ไง ถ้าคุณสุนทรหรือศศิเป็นคนไม่ดีสักนิด กูคงไม่ต้องรู้สึกผิดขนาดนี้” ธามไทเองไม่เคยอยากทำร้ายจิตใจใคร แต่เขาก็เห็นแก่ตัวที่อยากจะอยู่อย่างมีความสุขด้วยตัวคนเดียวเช่นกัน “มึงก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ รอดูคุณศศิก่อน ไม่แน่ มึงอาจจะชอบเขาก็ได้นะเว้ย เชื่อดิ กูเคยแล้ว” เวทัสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หึ! มึงคิดว่าคนอย่างกูจะรักใครได้เหรอวะ” ธามไทหันไปถามเพื่อนด้วยรอยยิ้มจางๆ “ก่อนหน้านี้ กูก็เคยคิดแบบมึง แต่สุดท้ายแล้ว บทแม่งจะรัก แม่งก็รักอย่างไม่มีเหตุผล ยิ่งคนปากดีๆ แบบมึง กูบอกเลยว่า อีกไม่นาน กูคงต้องต้อนรับมึงเข้าสู่สมาคมบูชาแม่บ้าน ฮ่าๆ” เวทัสพูดอย่างอารมณ์ดีเพื่อให้คนเครียดจัดผ่อนคลายมากขึ้น “สมาคมที่มีแค่มึงกับกูอะนะ” ธามไทยกแก้วเหล้าเพื่อชนกับเวทัส เขาคิดถูกจริงๆ ที่ชวนมันออกมา แม้ว่าจะยังหาทางออกไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้หายเครียดไปบ้างก็ยังดี “เออดิ หรือมึงอยากมีเพื่อนมากกว่านี้” เวทัสชนแก้วพร้อมกระดกลงคอจนหมดทันที “ไม่อะ รำคาญ” คนเครียดเริ่มอารมณ์ดีขึ้นบ้าง เขากับเวทัสเรียกได้ว่ารู้ถึงไส้ถึงพุงกันเสียจนไม่สามารถเลิกคบกันได้ ไม่ใช่เพราะรักกันมาก แต่เป็นเพราะว่าเดี๋ยวความลับจะแพร่งพรายต่างหาก! เช้าวันต่อมา เขมมิกามาทำงานด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าหมอธามไทยอมรับตนเองเป็นเด็กฝึกงานแล้วจริงๆ และยิ่งไปกว่านั้น พิมอรบอกว่า ต่อไปนี้ เธอจะต้องคอยตามติดหมอธามไท หากเขาต้องการอะไรก็ต้องหามาให้ ฝึกงานให้เหมือนทำงานจริงทุกอย่าง เพราะหากว่าทำงานดี หมอธามไทอาจจะรับเธอเข้าทำงานก็เป็นได้ แถมก่อนเข้างาน พิมอรยังไม่ลืมย้ำเตือนอีกว่า ห้ามหลงรักหมอธามไทเป็นอันขาด! ก๊อกๆ เขมมิกาเคาะประตูห้องหมอหนุ่มเพื่อขออนุญาตเข้าห้อง หลังจากที่ทราบตารางงานคร่าวๆ ของหมอธามไทว่าเขาจะเข้าโรงพยาบาลในตอนเก้าโมงเช้า และวันนี้ตอนสิบโมง คุณหมอหนุ่มมีประชุมแผนกทรวงอก “เข้ามา” เสียงทุ้มนุ่มดังตอบมา ทำให้หญิงสาวค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปด้านใน และภาพที่เธอเห็นก็คือหมอธามไทกำลังเอามือก่ายหน้าผาก หลับตาพริ้มอยู่บนเก้าอี้ทำงาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD