ความเงียบในเวลากลางคืนนี้ทำให้รู้สึกเปล่าเปลี่ยว...ลัลนากดปลายจมูกลงที่แก้มบางของลูกชายวัยแบเบาะที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่ถึงสองอาทิตย์นี้ กลิ่นของเด็กทารกตลบอบอวลภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ถัดจากเบาะนอนลูกชายคนเล็ก เป็นเด็กหญิงวัยหกขวบที่ตอนนี้นอนหลับไปแล้ว
คนเป็นแม่ขยับดึงผ้าห่มคลุมให้ลูกสาว โน้มตัวลงหอมกระหม่อมบางเบา ๆ แต่ทว่า
“คุณพ่อ...” หนูปันปันกลับพึมพำเรียกหาคนเป็นพ่อ เล่นเอามารดาเจ็บจุกในอก ลูกสาวติดคนเป็นพ่อมาก มากถึงขนาดละเมอเรียกหาได้
“ชู่ว~” เธอเป่าลมผ่านริมฝีปากเบา ๆ พร้อมกับตบตูดลูกน้อยให้นอนหลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง ซึ่งไม่นานลมหายใจของลูกสาวก็สม่ำเสมอ
...กล่อมลูกนอนหลับนั้นยากเสียยิ่งกว่าอะไร ลัลนาขอบตาดำปี๋แล้ว นี่แค่สองอาทิตย์แรกเองหลังจากลูกคนที่สองลืมตาดูโลก หลังจากนี้คงต้องรับมืออีกนาน โชคยังดีที่มีพ่อของลูกคอยช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เขายังไม่กลับเข้าบ้าน
...ลัลนาเดินลงมายังชั้นหนึ่งของบ้าน ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใจกลางกรุงฯ เธอเดินไปเปิดม่านเพื่อดูว่าสามีกลับมาหรือยัง เขาบอกจะออกไปบ้านน้องชายสักหน่อย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอ
“เฮ้อ...” แม้นว่าจะพยายามทำตัวนิ่งเฉย แต่ก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้อยู่ดี แต่งงานกันมานานแล้วนี่ ความผูกพันก็มากตามไปด้วย แม้นว่าเขาจะทำตัวไม่ดีกับเธอ
...ลัลนาหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาหน้าทีวี เธอหันมองหาสิ่งทำฆ่าเวลา มองเห็นตะกร้าเก็บเสื้อผ้าของลูกชาย เอามาพับใหม่ก็ไม่เสียหาย ซึ่งพับไปมาไม่นานนักบานเลื่อนกระจกบ้านก็ถูกเปิดออก เป็นสามีหนุ่มที่เดินเข้ามาในบ้านในสภาพเหม่อลอย เขาตกใจมากเลยทีเดียวที่เห็นเธอนั่งอยู่
“นึกว่านอนไปแล้ว” ปุณณกันต์เอ่ยพูดทำลายบรรยากาศเงียบเชียบนี้ เขาเดินไปหย่อนสะโพกนั่งข้าง ๆ เธอ คว้าเอาผ้าขนหนูผืนเล็กมาพับบ้าง “ผมเห็นคุณพับไปแล้วนี่ ทำไมถึงพับใหม่ล่ะ”
“_” ลัลนาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเขา “เพราะพับไปแล้วนั่นแหละ เลยต้องรื้อมาพับใหม่”
“_” ? เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด
“บางทีก็ไม่รู้ว่าจะใช้เหตุผลอะไรแก้ตัวว่านอนไม่หลับ เลยมาพับผ้าทั้ง ๆ ที่ผ้ามันถูกพับไปแล้ว” เธอเอ่ยพูดเสียงเรียบ ลูกหลับไปแล้วทั้งสองคน แต่เพราะสามียังไม่กลับบ้านเลยไม่มีข้ออ้างที่จะอยู่รอ การรื้อผ้ามาพับใหม่ก็เป็นทางออกที่ดี
“นา...”
“มีอะไรจะพูดหรือเปล่าคะ” เธอเอ่ยเสียงแผ่วเบา โดยไม่ได้มองใบหน้าของเขา แต่มือนั้นไม่ยอมหยุดพับเสื้อผ้าทั้ง ๆ ที่มันก็เรียบร้อยดีอยู่แล้ว แต่ว่ามันไม่มีอะไรให้มือหยุดนิ่ง มันสั่นไปเสียหมด
“นา...ผมขอโทษ” เขาเกริ่นมาแบบนี้ก็เล่นเอาใจของเธอร่วงลงพื้น มีอะไรอีกหรือที่เธอยังไม่รู้ ลางสังหรณ์ในใจบอกกับเธอว่าเป็นเรื่องใหญ่พอควร ไม่เช่นนั้นเขาไม่ยอมพูดหรอก
“ทำไมคะ” เธอค่อย ๆ หันมามองเขา สบตากับดวงตาคมที่ตนเคยหลงเสน่ห์ ดวงตาที่ตอนนี้พร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตา
“ผม...ไม่รู้จะเริ่มบอกยังไง” เขาค่อย ๆ ถดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ยื่นมือไปกุมฝ่ามือของเธอบนหน้าตัก โดยที่ลัลนานั้นยังนั่งอยู่บนโซฟาดังเดิม เธอมองมือของเขาไม่วางตา หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดไปเสียหมด โดยที่ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าเขาจะบอกอะไร
“นา...”
“_”
“รินบอก อึก รินบอกว่า...รินท้อง” ลัลนาหูอื้อไปชั่วขณะ ราวกับว่ารอบกายหยุดเคลื่อนไหว เธออึ้งตะลึงงันจนพูดอะไรไม่ออก “นา...ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่...”
เพียะ!
“ไม่รู้เหรอ ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง พูดออกมาได้!!” ใบหน้าหล่อเหลาหันขวับไปตามแรงตบโดยที่เขายังพูดไม่ทันจบเสียด้วยซ้ำ ลัลนาระเบิดอารมณ์ออกมาทันที
“นา...ฟังก่อนนะ” เขาพยายามทำให้เธอใจเย็น ขณะเดียวกันก็เข้าใจว่าเธอคงใจเย็นไม่ได้แล้ว “ผมขอโทษ ผมขอได้ไหม อึก ถ้าเกิดว่าเป็นลูกของผมจริง ๆ ผมอยากให้คุณรับเลี้ยงเด็กไว้ได้ไหม ผมไม่อยากเลิกกับคุณ ไม่อยากหย่า มันเป็นความผิดพลาดนา” เขาพรั่งพรูออกมาไม่หยุด
“ไม่รู้ใช่ไหม...” เธอพยักหน้าเบา ๆ เหมือนกับตอบตัวเองเสียมากกว่า “ไม่รู้ใช่ไหม อึก ไม่ว่ารู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงใช่ไหม”
“นา...” น้ำตาของลัลนาไหลออกมาไม่หยุดเช่นกัน เขาพูดมาได้ว่าไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ก็ไปเอากับมันจนทำมันท้องแล้วบอกไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง เธอหันไปคว้าโทรศัพท์มาเปิดรูปภาพที่นางเมียน้อยคนนั้นส่งมาให้
“นี่ไง! นี่ไงที่ทำให้มันท้อง!!” ภาพเปลือยของเขากับหล่อนคนนั้นเธอยังเก็บมันไว้อย่างดี ซึ่งทันทีที่เขาเห็นเปลือกตาหนาก็เบิกโพลงด้วยความตกใจ
“นา! คุณไปเอารูปภาพพวกนี้มาจากไหน!” เขาตกใจมาก นึกว่ารินลดาไม่ได้ส่งภาพนี้ให้คนเป็นเมีย แต่ทำไมเธอรู้แล้วแต่กลับเงียบ
“ไม่สำคัญหรอกค่ะ มันสำคัญที่คุณทำมันท้อง นอกกายฉัน แล้วยังมีหน้ามาบอกให้ฉันรับลูกมันมาเลี้ยงอีก!”
“นา...” ปุณณกันต์ตกใจที่รู้ว่าที่ผ่านมาเธอรู้มาโดยตลอด
“ฮึก ฉันพยายามเป็นคนโง่ พยายามอดทนมาตลอด ทำเป็นไม่เห็น ทำเป็นไม่รู้เพื่อประคับประคองชีวิตคู่ ทำเพื่อลูก...ฮึก แต่นี่คุณมาบอกให้ฉันรับลูกมันมาเลี้ยงอีกคน ฮือ~”
“นา ผมแค่คิดน่ะ ถ้านาไม่...”
เพียะ!
ฝ่ามือบางฟาดใส่ใบหน้าของเขาอีกครั้ง มันเหลืออดแล้วจริง ๆ มันมากเกินไปแล้วเรื่องที่เขาขอ เขาขอมากเกินไปแล้ว
“ที่ผ่านมา ฮึก ฉันพยายามอยู่ฝ่ายเดียวเลย ฉันพยายามหาเงินช่วยคุณ เป็นแม่ที่ดี เป็นเมียที่ดี แต่นี่คุณกลับตอบแทนฉันแบบนี้” แค่รู้ว่าเขามีเมียน้อยมันก็เจ็บมากแล้ว เขายังปล่อยให้มีเด็กเกิดมาด้วย แถมยังมีความคิดให้เธอรับเลี้ยงลูกชู้ ให้เธอตายยังง่ายกว่า
“ผมขอโทษ นา ฮึก ผมขอโทษ” เขาเสียใจ เสียใจที่ตัวเองตัดสินใจผิดพลาด ปุณณกันต์กอดขาอีกฝ่ายแน่น แววตาที่ภรรยาสาวสื่อสารออกมานี้...เธอไม่ให้อภัยเขาแน่ ๆ
“อึก ปล่อย...เลือกมาค่ะว่าจะไป หรือให้ฉันไป”
“ไม่ ไม่ไปไหนทั้งนั้น” เขาส่ายหน้า ไม่อยากเลิกกับเธอ
“ยื้อทำไมคะ ทำไมตอนอยู่ไม่เชื่อฟังฉัน ฉันขอให้คุณทำหมันคุณก็ไม่ทำ ทั้ง ๆ ที่ฉัน ฮึก พยายามตลอด” เธอเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยไปหมดทุกอย่าง มันอ่อนแรงที่จะทน รับรู้ว่าที่ผ่านมาเขาทำอะไรบ้าง ไปไหนอยู่กับใคร แต่ก็อดทน
แต่วันนี้...ความอดทนเหล่านั้นมันไม่มีเหลืออีกต่อไป