เดี๋ยวเถอะน่า ยัยแว่น...เดี๋ยวหล่อนคงได้รู้สึกว่าการไปอยู่กับเขาสองต่อสองไม่ใช่เรื่องโรแมนติกอย่างที่หล่อนคิด ชายหนุ่มนึกในใจขณะบึ่งรถมุ่งหน้าออกต่างจังหวัดกระทั่งไปถึงอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ของศิริภัสรา ชิพ ซึ่งเป็นอู่ต่อเรือที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มากอยู่ริมปากแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตจังหวัดสมุทรปราการ
พรรษวัฒน์พารถเอสยูวีของเขาแล่นเข้าไปจอดที่หน้าบริเวณบ้านหลังหนึ่งที่มีโครงสร้างจากไม้ทั้งหลัง มันตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กว้างขวางของอู่ต่อเรือ เป็นบ้านรูปทรงสมัยใหม่โอบล้อมด้วยต้นไม้และมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำอย่างชัดเจน และเมื่อรถจอดลงสนิทธัญญาก็มองไปรอบ ๆ สถานที่ด้วยแววตาบอกความตื่นใจ
“โอ...สวยมากเลยค่ะพี่วัฒน์ นี่เป็นบ้านของพี่วัฒน์เหรอคะ?”
“มันเป็นบ้านพักน่ะ พี่จะมาอยู่ที่นี่เวลามีงานเร่งด่วน ลงมาก่อนสิ”
พรรษวัฒน์เชิญชวนแม้ลึก ๆ ในใจเขาจะยังรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องเดินทางมาที่นี่พร้อมกับคนที่เขาไม่นึกจะคุ้นเคยอย่างธัญญา แม่สาวหน้าใสแว่นหนาที่ทำให้หล่อนดูจืดเหมือนสาวบรรณารักษ์ที่ชอบขลุกอยู่ในห้อวงสมุดอย่างไรอย่างนั้น
“พี่วัฒน์คะ...หมี่ขอเดินไปดูที่ท่าน้ำหน่อยได้มั้ยคะ”
ธัญญาหันมาถามชายหนุ่มเมื่อลงจากรถและมองเห็นศาลาที่สร้างยื่นลงไปในแม่น้ำ พรรษวัฒน์พยักหน้าอย่างเนือย ๆ
“เอาสิ...ตามสบาย”
พอเขาบอกหญิงสาวก็วิ่งลงไปที่ศาลาอย่างลิงโลด ชายหนุ่มถอนใจขณะหยิบกระเป๋าใบใหญ่ของหล่อนลงมาจากด้านท้ายรถ ท่าทางหล่อนจะตื่นเต้นมากกับการมาที่นี่ซึ่งสำหรับเขาแล้วช่างเป็นเรื่องงน่าเบื่อหน่ายเสียนี่กระไร แต่ไม่ทันที่เขาจะปิดประตูรถก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้นที่ท่าน้ำ
“ว้าย!!”
พรรษวัฒน์หันไปมองก็เห็นร่างเล็กบางของธัญญาล้มลงไปนั่งอยู่ที่พื้นศาลา ชายหนุ่มรีบวางกระเป๋าแล้ววิ่งตามลงไปดู
“ซินหมี่...เป็นอะไรรึเปล่า!”
ชายหนุ่มร้องถามขณะวิ่งเข้าไปประคองร่างเล็กให้ลุกขึ้นและในจังหวะนั้นเองที่ธัญญากำลังยื่นมือออกไปควานหาอะไรบางอย่างบนพื้น
“พี่วัฒน์คะ...แว่นของหมี่...แว่น...”
หญิงสาวซึ่งยังนั่งบนพื้นกวาดมือไปทั่วแต่แล้วใบหน้าหวานก็หันมาเกือบชนกับใบหน้าของพรรษวัฒน์ที่ก้มลงไปหา ริมฝีปากชนริมฝีปากเข้าอย่างจังแต่คนที่ตกใจมากกว่าคือชายหนุ่ม เขาไม่ได้แค่ตกใจแต่ยังตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าใสๆ ของธัญญาตอนเธอไม่ได้สวมแว่นตาอย่างชัดเจน
ธัญญาชะงักไปชั่วขณะ หญิงสาวถึงกับแก้มแดงซ่านเมื่อใบหน้าของเธออยู่ห่างจากใบหน้าหล่อเหลาของคู่หมั้นหนุ่มนิดเดียว หล่อนเงอะ ๆ เงิ่น ๆ ทำอะไรแทบไม่ถูกและยิ่งเขินหนักเมื่อเห็นประกายตาของเขาที่มองหล่อนไม่ยอมละไปไหน
“หาอะไร ซินหมี่?”
เขาเอ่ยถามและนั่นเองทำให้หญิงสาวรีบดึงสติกลับคืนมา
“หมี่หาแว่นตาค่ะพี่วัฒน์”
“ถ้าไม่ใส่เธอมองไม่เห็นเลยหรือซินหมี่”
หญิงสาวยิ้มแหย “ก็...มองเห็นค่ะ...แต่หมี่ชินกับการสวมแว่นตาก็เท่านั้นเอง”
พรรษวัฒน์หันซ้ายขวาและกวาดสายตาไปทั่วก็ไม่เห็นแว่นตาของธัญญาหล่นอยู่ตรงนั้น
“พี่ว่ามันอาจจะหล่นลงไปในน้ำแล้วก็ได้ เพราะตรงนี้พี่ไม่เห็นแว่นตาเลยสักอัน”
ธัญญาทำหน้าเหลอ “ตายจริง...นี่ถ้าหายไปล่ะ”
“ก็ไม่ต้องใส่สิ”
“แต่ว่า...”
ธัญญาจะพูดต่อแต่ก็พึ่งนึกได้ว่าตอนนี้เธอนั่งอยู่โดยมีอ้อมแขนของพรรษวัฒน์โอบอยู่ที่ไหล่ หญิงสาวอยากขยับหนีแต่กลิ่นน้ำหอมของเขาทำให้หล่อนอยากอยู่นิ่ง ๆ มากกว่าขยับตัว
“ถ้ามันหายพี่จะพาซินหมี่ไปซื้อใหม่ในเมืองก็แล้วกัน”
“แต่ว่า...”
“ถ้ายังมองเห็นชัดก็ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาหรอกน่า พี่ว่าซินหมี่อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว”
“แบบไหนคะพี่วัฒน์?”
“ก็...แบบนี้ไง”
ชายหนุ่มก็อธิบายแทบไม่ถูก เขาเกือบหลุดปากไปว่าหล่อนดูน่ารักมากกว่าตอนสวมแว่นตาหนาเตอะ แต่พอนึกได้ก็เงียบเพราะขืนพูดออกไปธัญญาอาจจะรู้ว่าจริง ๆ เขาคิดยังไงกันแน่โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้แก้มบนหน้าหล่อ ๆ ของเขาเริ่มเป็นสีแดงเข้มจนธัญญาเห็นแล้วอดที่จะเขินตามไม่ได้ พรรษวัฒน์ถึงกับนิ่วหน้าเมื่อเห็นหญิงสาวทำสีหน้าแปลก ๆ
“ยิ้มอะไร...ซินหมี่?”
พอถูกทักธัญญาก็หน้าแดงอย่างที่หล่อนก็เก็บอารมณ์เขินอายไว้ไม่อยู่
“เอ้อ...หมี่ยิ้มที่...พี่วัฒน์หน้าแดงน่ะค่ะ”
พรรษวัฒน์ถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกเพราะไม่เคยถูกผู้หญิงทักแบบนี้ ชายหนุ่มรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เขาพยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืนแล้วรีบผละออกจากตัวหล่อน
“ทีหลังน่ะ...ระวังให้ดีก็แล้วกันเวลาเดินมาที่ท่าน้ำนี่...พื้นไม้เวลาโดนน้ำแล้วมันอาจจะลื่น”
“แต่หมี่ก็ยังเสียดายแว่นตาอันนั้นอยู่เลยนะคะ”
“ถ้าเธอเห็นอะไร ๆ ชัดเจนแล้วยังจะต้องสวมแว่นตาทำไมกัน”
“แต่หมี่ชินกับการใส่แว่นนี่คะ...แต่ถ้าไม่ใส่ก็ได้ค่ะ จะได้เห็นหน้าพี่วัฒน์ชัด ๆ ไงคะ”
ธัญญายิ้มหวาน มันเป็นยิ้มที่พรรษวัฒน์ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงเห็นว่ามันน่ารัก นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงคลื่นไส้จะแย่ที่หล่อนมาพูดอะไรแบบนี้กับเขา แต่ตอนนี้ชายหนุ่มกลับรู้สึกแปลก ๆ กับตัวเองที่เห็นว่าธัญญาดูเป็นสาวไร้เดียงสามากกว่าจะมีจริตที่เขาเคยคิดว่ามันช่างน่ารำคาญ
“เข้าบ้านกันเถอะ...เอ้อ...เธอแน่ใจนะว่าเห็นชัดเวลาไม่ใส่แว่น”
“ค่ะ...จริง ๆ แล้วเวลาอยู่บ้านหมี่ไม่ได้สวมแว่นหรอกค่ะ แต่หมี่ชอบสวมเวลาจะออกไปไหนมาไหน”
แปลกคน...พรรษวัฒน์นึกในใจ แต่พอเห็นใบหน้าใส ๆ ที่ส่งยิ้มหวานมาให้เขากลับทำให้ชายหนุ่มเขินจนต้องเอามือทั้งสองซุกไว้ในกระเป๋ากางเกงเดนิม
“โอเค...พี่จะพยายามทำความเข้าใจเธอนะ เข้าบ้านกันเถอะ”
เขาเดินนำหน้าไปขณะที่หญิงสาวเดินตามหลัง ธัญญามองตามแผ่นหลังและไหล่กว้างของพรรษวัฒน์แล้วก็นึกว่านี่คือฝันที่เป็นจริงของเธอ หญิงสาวเคยเก็บเอาความประทับใจในตัวเจ้าของอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ไปฝันตั้งแต่พบเขาก่อนเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ