ตอนที่ 17

1217 Words
17 ข้าง ๆ จวนตอนนี้กำลังดูอลหม่านกันน่าดู เมื่อคุณชายน้อยนั่นเห็นสมบัติที่ท่านย่ามอบให้ เขาแทบจะเป็นลมยกมือขึ้นอุทานเบา ๆ “ท่านแม่ นี่ท่านย่ากำลังจะสู่ขอท่านแม่อีกรอบหรือขอรับ” ไม่รู้ว่าไปเอาความคิดนี้มาจากไหน แฝดน้องก็พยักหน้าหงึกหงัก “หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ คิดว่าพวกเราก็คงจะต้องเรียกให้มาก ๆ” สองพี่น้องช่างทำให้มารดาปวดหัวนัก ฟางหรงนั่งคลึงขมับ จึงได้กล่าวขึ้นมาว่า “ยังจะคิดให้แม่กลับไปอยู่กับพ่อพวกเจ้าอีกรึ” “แน่นอนสิขอรับ หากท่านแม่ลำบากใจเราอยู่เช่นนี้ก็สบาย แต่หากว่าท่านพ่อสลัดผู้หญิงคนนั้นออกไปได้แล้ว ข้าก็คงเห็นว่า ท่านแม่เหมาะสมกับท่านพ่อยิ่งนัก” “โบราณบอกว่า สตรีแต่งงานออกเรือนก็ย่อมเชื่อฟังสามี หากมีลูกก็ย่อมเชื่อฟังลูก ดังนั้นลูกเห็นว่าท่านแม่ควรจะเพิ่ม...” ฟางหลินขมวดคิ้ว พูดเป็นการเป็นงงานราวกับผ่านโลกมาก่อนมารดา ฟางหรงกำลังคิดว่าตอนท้องนางกินอะไรผิดสำแดงไปหรือไม่ เหตุใดลูก ๆ พวกนางถึงกลายเป็นเช่นนี้ ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ “แม่ปวดหัวกับพวกเจ้าแล้ว” อากาศก็หนาวแต่ภายในอกร้อนระอุอยากจะจับคอลูก ๆ หักเสียจริง ๆ เชียว “อ้อ ลูกนึกออกแล้วเพิ่มอะไร” ฟางหลินคิดได้กระโดงโหยงเหยงราวกับลูกกระต่ายน้อยน่ารัก “เพิ่มความร้ายกาจเข้าไปไงเจ้าคะ” ฟางหลินฉีกยิ้มหวาน “ต่อไปนี้ท่านแม่ห้ามอ่อนหวานและอ่อนโยนอย่างเด็ดขาด อย่างท่านแม่ทัพจะต้องเหี้ยมโหดเท่านั้นจึงจะเหมาะสม” “เหอะ ยังคิดได้อีกนะพวกเจ้าเนี่ย” มีลูกก็คล้ายกับว่ามีเพื่อน แต่ลูก ๆ ของนางตอนนี้กำลังทำตัวเป็นมารดาของนางอย่างไรอย่างนั้น ช่างรู้ดีนัก ตัวแค่นี้จะไม่ทำให้ฟางหรงรักลูก ๆ ทั้งสองมากกว่าตนเองได้อย่างไรกัน เพราะช่างเจรจานัก “คุณหนูน้อยเจ้าคะ ลูกแมวตัวเมื่อวานหายไปเจ้าค่ะ” อาชุนหน้าซีดและดูร้อนรนนัก รีบกระวีกระวาดบอกคุณหนูน้อยทันใด “เมื่อครู่ข้าก็เพิ่งพบว่ามันเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้านนี่นา” ฟางหลินไม่เข้าใจนัก ใบหน้ากลมเกลี้ยงน่ารักช่างดูงดงาม ไม่แพ้มารดาสักนิด คิ้วสวยนั่นกำลังค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน หย่งเล่อสะกิดน้องสาวเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าใช้ความคิดนานเกินไป “พี่ว่าเราออกไปตามหามันเถอะ หากเจอคนใจร้ายทำร้ายมันเข้าจะทำอย่างไร” “ท่านน้าอาชุน แจ้งให้บ่าวชุดใหม่ตามหาแมวขนสีขาว มีกระดิ่งคอสีแดงให้ด้วยนะเจ้าคะ” สัตว์เลี้ยงตัวนี้เป็นของแม่สามีมอบให้ลูกสาวของนางมา ช่างน่าเสียดายนัก หากมันหายไป ทั้งหมดออกตามหากันให้วุ่น แต่เจ้าแมวตัวก่อปัญหากำลังมุดเข้าไปในจวนติดกัน และทำให้แม่ทัพจ้าวจับมันเอาไว้ได้ เขายืนอยู่ประตูหลังจวนพอดี เห็นเจ้าตัวนี้กำลังตะกุยประตูที่มันอ้าเอาไว้เล็กน้อย เขาคิดว่าน่าจะเป็นลูกแมวของจวนข้าง ๆ นี้เป็นแน่ เมื่อก่อนเป็นของคหบดีเฉา เขาจึงไม่กล้าเดินเข้าไปในเขตนั้นสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวจะมีปัญหาตามมา จึงทำได้เพียงแค่อุ้มลูกแมวตัวนี้เอาไว้ รอให้เจ้าของออกตามหา เจ้าลูกแมวตัวนี้ดูเหมือนกำลังอ้อนท่านแม่ทัพ จนทำให้เขาเห็นกระดิ่งสีแดงห้อยคอของมัน เป็นเชือกที่ดูแล้วว่าค่อนข้างจะมีราคาไม่น้อย เขายังยิ้มเยาะนัก “เจ้านี่นะ มีเจ้านายที่เอาใจใส่ถึงเพียงนี้เชียว” แม้อากาศจะหนาว หิมะยังร่วงหล่นปุยลงมาบางเบากว่าทุก ๆ วัน ในวันชิวอิกนั้น ส่วนมากบรรดาญาติ ๆ จะมาที่จวนนี้ แต่วันนี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป หกปีแล้ว ที่เขาเพิ่งกลับมาอีกครั้ง และเพิ่งรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากมาย เพิ่งรู้ว่าตนเองนั้นพลาดโอกาสสำคัญหลายครั้งไปเสียแล้ว พลาดโอกาสที่จะได้อยู่กับนาง และรักนาง เจ้าแมวน้อยในอ้อมกอดกำลังขดตัวซุกอยู่ในวงแขน จนกระทั่งดรุณีน้อยนั่นมาเห็นเข้าให้ นางจึงได้รีบส่งเสียงด้วยความไม่พอใจ “ท่านแม่ทัพเอาลูกแมวคืนมานะ” ฟางหลินทั้งตกใจและไม่พอใจนัก เหตุใดเจ้าไป๋น้อยจึงไปนอนอยู่ในอ้อมกอดนั้นเล่า และนั่นเป็นอ้อมกอดของบิดาอีกด้วยนะสิ หย่งคังตกตะลึงจนตาค้าง นึกไม่ถึงว่าลูกสาวของตนจะโผล่มาจากจวนข้าง ๆได้อย่างไรกัน เขากำลังเหม่อลอยครุ่นคิดจึงได้ตื่นตกใจจากภวังค์นั่น “หลินเอ๋อร์ แมวตัวนี้ของลูกรึ” น้ำเสียงไพเราะกล่าวถาม เขาย่อตัวลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกันกับนาง มองใบหน้าของลูกสาวให้ชัด ๆ น่ารักรักน่าทะนุถนอมยิ่งนัก แม่สาวน้อยยืนเท้าเอว อากาศหนาว ๆ ทำให้แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ สวมชุดสีขาวสวมเสื้อคลุมเป็นขนจิ้งจอกแดง ทำให้นางดูน่ารักคล้ายดั่งนางพญาหงส์ตัวน้อย ๆ ยิ่งกระตุ้นให้บิดาหวงแหนนาง อยากโอบกอดนางให้ชื่นใจสักครั้ง “เป็นของข้า เอามาคืน” นางกล่าวด้วยถ้อยคำที่ดุดัน ไม่มีคำเรียกว่าท่านพ่อสักนิดเสียด้วยซ้ำไป “เช่นนั้น ให้พ่อเข้าไปในเรือนจะได้หรือไม่ พี่ใหญ่เจ้าอยู่ด้วยหรือเปล่า และท่านแม่เจ้าร้องไห้หรือไม่” อารามร้อนใจจึงกล่าวซักถามไปเป็นชุด ฟางหลินยิ้มเหี้ยมกล่าวขึ้นมาว่า “ใครจะอยู่กับคนใจร้ายเล่า ท่านแม่ดีใจเบิกบานทั้งวัน ไม่มีน้ำตาให้ท่านแม่ทัพอีกแล้ว เอาลูกแมวคืนมาให้ข้านะ” ดรุณีน้อยไม่ยอมความ เห็นนางเป็นเด็กตัวเท่านี้ อย่าริอ่านมาข่มเหงรังแกกันให้มาก และอีกอย่างนางกำลังป่วนบิดาให้หัวร้อน “หลินเอ๋อร์ พูดกับพ่อดี ๆ ได้หรือไม่” หย่งคังหน้าชาไปหลายส่วน นึกไม่ถึงว่าลูกสาวของตนจะพูดจาฉะฉานราวกับเด็กที่เติบโตถึงวัยปักปิ่นแล้ว นึกไม่ถึงว่าเด็กตัวเพียงเท่านี้ยอกย้อนเขาเจ็บแสบนัก “เมื่อวานเป็นใครดุข้า วันก่อนเป็นใครตีพี่ชายข้า และเป็นใครทำร้ายน้ำใจท่านแม่ของข้า จนกลายเป็นเช่นนี้ มิใช่ท่านแม่ทัพหรอกรึเจ้าคะ ที่พูดจาไม่ดีใส่” คราวนี้เขาเจอชุดใหญ่เข้าให้ คำพูดของนางเหมือนมีดกรีดกลางใจของผู้กระทำความผิดเช่นเขาไม่น้อย เมื่อลูกสาวไม่ยอมความ สายตาคู่นี้มองเขาไม่มีไมตรีสักนิด เขาทำให้ลูก ๆ และภรรยาชิงชังเข้าไส้ หากจะง้อให้พวกนางกลับมาดูเหมือนว่าจะยากเสียแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD