พอทุกคนถูกทำโทษพร้อมกันหมดแล้วเธอก็เข้ามารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ
"เหมือนรุ่นพี่จะหมายหัวเธอคนเดียวเลยนะปลาย" อารยากระซิบพูดกับปลายฝนเบาๆ
"สงสัยเขาจะกดดันมาจากที่บ้าน แบบว่าพ่อแม่ไม่รักอะไรแบบนี้"
"ฮ่า ฮ่าา" พออารยาได้ยินที่ปลายฝนเหน็บแนมรุ่นพี่เธอถึงกับหัวเราะขึ้นมา
"เอ่ย! เบาๆ เดี๋ยวโดนอีก"
หลายชั่วโมงผ่านไป~
แล้วกิจกรรมวันแรกก็จบลง
"ว่าไงสาวๆ พักที่ไหนกัน" พลพลและวิวัฒน์ขับรถฝ่านกำลังจะกลับบ้าน
"กลับด้วยกันไหม" แล้วพลพลก็ขับรถมาจอดด้านหน้าของปลายฝน
"รถสวยจังเลยพล" อารยาก้มลงไปพูดกับคนที่นั่งอยู่ด้านใน
"ให้เราไปส่งนะปลายฝนอารยาด้วย"
"เรากลับรถเมล์เองได้ พวกนายไปกันเถอะ" ปลายฝนพูดแบบเกรงใจ
"ไปด้วยกันดีกว่า" วิวัฒน์และพลพลเป็นเพื่อนกันก่อนที่จะเข้ามหาลัยแล้ว
"ก็ได้จ๊ะ" ปลายฝนคิดว่าดีเหมือนกันจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ไว้ด้วย
อีกมุมหนึ่งเวลาเดียวกันนั้น..
"นั่นน้องรหัสมึงนี่" นิกพูดกับทิวา
"น้องรหัสที่ไหนว่ะ" ทิวางงเพราะว่ายังไม่จับน้องรหัสเลย
"พรุ่งนี้ก็ต้องได้จับน้องรหัสแล้ว เดี๋ยวกูจัดให้มึงฮ่าาา เห็นมึงสนใจน้องอยู่ไม่ใช่เหรอ"
"มึงตาบอดหรือไง เขาเรียกสนใจเหรอที่ทำแบบนั้น"
"หึ! แบบนี้แหละที่เขาเรียกสนใจ"
"เขาเรียกว่าไม่ถูกชะตาโว้ย!! "
"ใครไม่ถูกชะตากับใครเหรอ" ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นานนัชชาก็เดินเข้ามา
"ก็ไอ้ทิวากับ.."
"เอ้ย! มึงหยุดเลยนะไอ้นิก" ก่อนที่นิกจะพูดอะไรมากไปกว่านั้นทิวารีบเอามือไปปิดปากเพื่อนไว้
"มีอะไรที่นัชยังไม่รู้หรือเปล่า.. ทิวาสนใจรุ่นน้องเหรอ? " นัชชาเรียนห้องเดียวกับทิวามีดีกรีเป็นถึงดาวคณะตอนปี1 แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นดาวมหาวิทลัยเพราะเธอตกรอบตอนเข้าประกวด
"เปล่าจ้า ไม่มีหรอก"
"มึงไม่สนใจแน่นะ ถ้างั้นกูจีบนะ น้องคนนั้นหน้าตาน่ารักสเปคกูเลย กูคิดว่าต้องเป็นดาวคณะเราคนต่อไปแน่"
"เรื่องของมึง!! " ทิวาถึงกับขึ้นเสียงใส่เพื่อน
"พวกมึงคุยอะไรกันอยู่วะ เข้าไปเก็บของเร็ว" จ๊อบเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกคน
"ทำไมไม่ใช้พวกรุ่นน้องเก็บของวะ กูไม่ว่างหรอกกูมีนัดต่อ"
"ก็รุ่นน้องเขากลับกันหมดแล้ว รุ่นพี่นี่แหละเก็บช่วยกันจะได้รีบกลับ"
"รุ่นน้องกลุ่มนั้นอย่าเพิ่งกลับมาหาพี่ก่อน" จังหวะนั้นทิวาก็ร้องตะโกนไปหากลุ่มของปลายฝนที่กำลังขึ้นรถกัน
แล้วปลายฝนกับพวกเพื่อนๆ ก็ต้องได้ลงจากรถเดินมาหารุ่นพี่
"คะรุ่นพี่"
"ไปช่วยกันเก็บของในห้องกิจกรรมให้เสร็จแล้วค่อยกลับ"
"งานเข้า" อารยาพูดเบาๆ กับปลายฝน
"นึกว่าจะไม่ได้ไปดูหนังกับทิวาแล้ว" พอทุกอย่างเคลียร์ลงตัวนัชชาก็หันไปพูดกับทิวา ซึ่งตอนนั้นปลายฝนก็ได้ยินแต่เธอทำเป็นไม่สนใจ
"ไปกันจ๊ะ" พอพูดกับผู้หญิงอีกคนทำเป็นพูดจ๊ะจ๋า
"เรารีบไปเก็บของกันเถอะจะได้ไม่ค่ำมาก" ปลายฝนหันไปชวนพวกเพื่อนๆ เข้าไปเก็บของ
"อะไรวะ! จะไปเที่ยวกับแฟนก็มาลำบากรุ่นน้องอีก" วิวัฒน์แกล้งพูดตามหลังรุ่นพี่ไป เพราะคิดว่ารุ่นพี่เคยจะไม่ได้ยินแล้ว
ตอนนี้ปลายฝนแน่ใจแล้วว่าคนนี้คงจะเป็นแฟนของเขา และเธอยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะรู้เรื่องของเธอกับเขาไหมเขาจะกล้าบอกแฟนหรือเปล่า
20 : 20 น.
กว่าที่เธอจะเก็บของช่วยกันกับพวกเพื่อนๆ เสร็จก็ปาเข้าไปจนดึกดื่น
"ไปไหนกันต่อมาล่ะ" ชายหนุ่มนอนแชทกับใครบางคนในโทรศัพท์ แต่ปากก็พูดกับปลายฝนโดยที่ไม่หันมามอง
เงียบ!!
"ไม่ตอบอีก" สายตาเขาเริ่มจะมองมาที่เธอ เพราะเขายิงคำถามไปแต่เธอไม่ตอบ
"คุณพูดกับฉันเหรอคะ? "
"ห้องนี้มีแค่สองคน ถ้าไม่พูดกับเธอฉันคงพูดกับสัมภเวสีมั้ง" แล้วชายหนุ่มก็วางโทรศัพท์ในมือลง
"แล้วฉันจะรู้ไหมว่าคุณพูดกับฉัน นึกว่า Video Call คุยกับแฟนซะอีก"
"ก็เธออยู่ในห้องนี้ด้วยฉันจะคอลได้ไหม"
"บ้านก็หลังกว้างใหญ่คุณก็หาห้องให้ฉันอยู่สักห้องสิจะได้ไม่ต้องเกะกะสายตาของคุณ"
เขารู้แล้วว่าเธอคงจะพูดประชด ถึงแม้จะรู้สึกโมโหมากแต่ก็ต้องได้เก็บมันไว้ก่อน "รีบทำงานให้แม่ฉันแล้วรีบจบเรื่องนี้ ถ้าย้ายออกจากมหาวิทยาลัยได้ก็จะดี" เสี่ยงทุ้มค่อยๆ เปล่งออกมา แบบสะกดกั้นอารมณ์
"ฉันมีทางเลือกไม่มากหรอกนะ ถ้าคุณเบื่อที่จะเห็นหน้าฉัน.. คุณก็ย้ายเองสิ"
"ปากดี วันนี้คงจะเจอเบาไปใช่ไหม!? "
"........." หญิงสาวไม่พูดต่อปากต่อคำอีก เธอรู้แล้วว่าเขาคงจะหาเรื่องเธอแน่
"ถ้ายังไม่ผ่าตัด เธอก็ไม่ต้องไปกับผู้ชายคนอื่นเดี๋ยวเอาโรคมาติดพ่อฉัน" เขาเห็นเธอเงียบก็เลยพูดต่อ
"คุณก็รีบไปบอกพ่อคุณให้ทำร่างกายให้แข็งแรงเร็วๆ จะได้รีบผ่าตัดจะได้จบเรื่องนี้สักที เรื่องผู้ชายมันปกติสำหรับฉันอยู่แล้ว!! " หญิงสาวเริ่มจะประชด
"ถ้าคันมากก็เกาเองไปก่อนนะอย่าเพิ่งแรดล่ะ สงสัยว่าก่อนจะผ่าตัดต้องได้ตรวจเลือดเธอใหม่ซะแล้ว"
"ปากปีจอ!"
"เธอว่าใคร?!"
"เมื่อกี้เธอว่าใครปากหมา!?"
"ฉันไม่ได้ว่าแบบนั้นสักหน่อย" เมื่อกี้เธอพูดไปแบบยังไม่ได้คิด เพราะโมโหที่เขาพูดให้เธอแบบนั้น
แต่มันก็ทำให้เขาโกรธมาก เท้าแกร่งก้าวเดินเข้ามาหาอีกฝ่ายแบบช้าๆ
"ฉันไม่ได้หูหนวก"
"ฉันไม่ได้ว่านายปากหมา ฉันว่าปากปีจอ" ..เอาวะยังไงเขาก็ได้ยินแล้ว
"แล้วมันความหมายต่างกันตรงไหน?"
"ฉันชมนายต่างหาก ฉันว่าปากนายเป็นสัตว์ประจำราศีเลยนะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับก้าวถอยหลังออกไปทีละก้าว
"อยากจะลองชิมปากสัตว์ประจำราศีอีกสักครั้งไหมล่ะ" แล้วชายหนุ่มก็รีบเดินเข้ามาประชิดตัวของหญิงสาว