บทที่ 7

1147 Words
พอทุกคนถูกทำโทษพร้อมกันหมดแล้วเธอก็เข้ามารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ "เหมือนรุ่นพี่จะหมายหัวเธอคนเดียวเลยนะปลาย" อารยากระซิบพูดกับปลายฝนเบาๆ "สงสัยเขาจะกดดันมาจากที่บ้าน แบบว่าพ่อแม่ไม่รักอะไรแบบนี้" "ฮ่า ฮ่าา" พออารยาได้ยินที่ปลายฝนเหน็บแนมรุ่นพี่เธอถึงกับหัวเราะขึ้นมา "เอ่ย! เบาๆ เดี๋ยวโดนอีก" หลายชั่วโมงผ่านไป~ แล้วกิจกรรมวันแรกก็จบลง "ว่าไงสาวๆ พักที่ไหนกัน" พลพลและวิวัฒน์ขับรถฝ่านกำลังจะกลับบ้าน "กลับด้วยกันไหม" แล้วพลพลก็ขับรถมาจอดด้านหน้าของปลายฝน "รถสวยจังเลยพล" อารยาก้มลงไปพูดกับคนที่นั่งอยู่ด้านใน "ให้เราไปส่งนะปลายฝนอารยาด้วย" "เรากลับรถเมล์เองได้ พวกนายไปกันเถอะ" ปลายฝนพูดแบบเกรงใจ "ไปด้วยกันดีกว่า" วิวัฒน์และพลพลเป็นเพื่อนกันก่อนที่จะเข้ามหาลัยแล้ว "ก็ได้จ๊ะ" ปลายฝนคิดว่าดีเหมือนกันจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ไว้ด้วย อีกมุมหนึ่งเวลาเดียวกันนั้น.. "นั่นน้องรหัสมึงนี่" นิกพูดกับทิวา "น้องรหัสที่ไหนว่ะ" ทิวางงเพราะว่ายังไม่จับน้องรหัสเลย "พรุ่งนี้ก็ต้องได้จับน้องรหัสแล้ว เดี๋ยวกูจัดให้มึงฮ่าาา เห็นมึงสนใจน้องอยู่ไม่ใช่เหรอ" "มึงตาบอดหรือไง เขาเรียกสนใจเหรอที่ทำแบบนั้น" "หึ! แบบนี้แหละที่เขาเรียกสนใจ" "เขาเรียกว่าไม่ถูกชะตาโว้ย!! " "ใครไม่ถูกชะตากับใครเหรอ" ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นานนัชชาก็เดินเข้ามา "ก็ไอ้ทิวากับ.." "เอ้ย! มึงหยุดเลยนะไอ้นิก" ก่อนที่นิกจะพูดอะไรมากไปกว่านั้นทิวารีบเอามือไปปิดปากเพื่อนไว้ "มีอะไรที่นัชยังไม่รู้หรือเปล่า.. ทิวาสนใจรุ่นน้องเหรอ? " นัชชาเรียนห้องเดียวกับทิวามีดีกรีเป็นถึงดาวคณะตอนปี1 แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นดาวมหาวิทลัยเพราะเธอตกรอบตอนเข้าประกวด "เปล่าจ้า ไม่มีหรอก" "มึงไม่สนใจแน่นะ ถ้างั้นกูจีบนะ น้องคนนั้นหน้าตาน่ารักสเปคกูเลย กูคิดว่าต้องเป็นดาวคณะเราคนต่อไปแน่" "เรื่องของมึง!! " ทิวาถึงกับขึ้นเสียงใส่เพื่อน "พวกมึงคุยอะไรกันอยู่วะ เข้าไปเก็บของเร็ว" จ๊อบเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกคน "ทำไมไม่ใช้พวกรุ่นน้องเก็บของวะ กูไม่ว่างหรอกกูมีนัดต่อ" "ก็รุ่นน้องเขากลับกันหมดแล้ว รุ่นพี่นี่แหละเก็บช่วยกันจะได้รีบกลับ" "รุ่นน้องกลุ่มนั้นอย่าเพิ่งกลับมาหาพี่ก่อน" จังหวะนั้นทิวาก็ร้องตะโกนไปหากลุ่มของปลายฝนที่กำลังขึ้นรถกัน แล้วปลายฝนกับพวกเพื่อนๆ ก็ต้องได้ลงจากรถเดินมาหารุ่นพี่ "คะรุ่นพี่" "ไปช่วยกันเก็บของในห้องกิจกรรมให้เสร็จแล้วค่อยกลับ" "งานเข้า" อารยาพูดเบาๆ กับปลายฝน "นึกว่าจะไม่ได้ไปดูหนังกับทิวาแล้ว" พอทุกอย่างเคลียร์ลงตัวนัชชาก็หันไปพูดกับทิวา ซึ่งตอนนั้นปลายฝนก็ได้ยินแต่เธอทำเป็นไม่สนใจ "ไปกันจ๊ะ" พอพูดกับผู้หญิงอีกคนทำเป็นพูดจ๊ะจ๋า "เรารีบไปเก็บของกันเถอะจะได้ไม่ค่ำมาก" ปลายฝนหันไปชวนพวกเพื่อนๆ เข้าไปเก็บของ "อะไรวะ! จะไปเที่ยวกับแฟนก็มาลำบากรุ่นน้องอีก" วิวัฒน์แกล้งพูดตามหลังรุ่นพี่ไป เพราะคิดว่ารุ่นพี่เคยจะไม่ได้ยินแล้ว ตอนนี้ปลายฝนแน่ใจแล้วว่าคนนี้คงจะเป็นแฟนของเขา และเธอยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะรู้เรื่องของเธอกับเขาไหมเขาจะกล้าบอกแฟนหรือเปล่า 20 : 20 น. กว่าที่เธอจะเก็บของช่วยกันกับพวกเพื่อนๆ เสร็จก็ปาเข้าไปจนดึกดื่น "ไปไหนกันต่อมาล่ะ" ชายหนุ่มนอนแชทกับใครบางคนในโทรศัพท์ แต่ปากก็พูดกับปลายฝนโดยที่ไม่หันมามอง เงียบ!! "ไม่ตอบอีก" สายตาเขาเริ่มจะมองมาที่เธอ เพราะเขายิงคำถามไปแต่เธอไม่ตอบ "คุณพูดกับฉันเหรอคะ? " "ห้องนี้มีแค่สองคน ถ้าไม่พูดกับเธอฉันคงพูดกับสัมภเวสีมั้ง" แล้วชายหนุ่มก็วางโทรศัพท์ในมือลง "แล้วฉันจะรู้ไหมว่าคุณพูดกับฉัน นึกว่า Video Call คุยกับแฟนซะอีก" "ก็เธออยู่ในห้องนี้ด้วยฉันจะคอลได้ไหม" "บ้านก็หลังกว้างใหญ่คุณก็หาห้องให้ฉันอยู่สักห้องสิจะได้ไม่ต้องเกะกะสายตาของคุณ" เขารู้แล้วว่าเธอคงจะพูดประชด ถึงแม้จะรู้สึกโมโหมากแต่ก็ต้องได้เก็บมันไว้ก่อน "รีบทำงานให้แม่ฉันแล้วรีบจบเรื่องนี้ ถ้าย้ายออกจากมหาวิทยาลัยได้ก็จะดี" เสี่ยงทุ้มค่อยๆ เปล่งออกมา แบบสะกดกั้นอารมณ์ "ฉันมีทางเลือกไม่มากหรอกนะ ถ้าคุณเบื่อที่จะเห็นหน้าฉัน.. คุณก็ย้ายเองสิ" "ปากดี วันนี้คงจะเจอเบาไปใช่ไหม!? " "........." หญิงสาวไม่พูดต่อปากต่อคำอีก เธอรู้แล้วว่าเขาคงจะหาเรื่องเธอแน่ "ถ้ายังไม่ผ่าตัด เธอก็ไม่ต้องไปกับผู้ชายคนอื่นเดี๋ยวเอาโรคมาติดพ่อฉัน" เขาเห็นเธอเงียบก็เลยพูดต่อ "คุณก็รีบไปบอกพ่อคุณให้ทำร่างกายให้แข็งแรงเร็วๆ จะได้รีบผ่าตัดจะได้จบเรื่องนี้สักที เรื่องผู้ชายมันปกติสำหรับฉันอยู่แล้ว!! " หญิงสาวเริ่มจะประชด "ถ้าคันมากก็เกาเองไปก่อนนะอย่าเพิ่งแรดล่ะ สงสัยว่าก่อนจะผ่าตัดต้องได้ตรวจเลือดเธอใหม่ซะแล้ว" "ปากปีจอ!" "เธอว่าใคร?!" "เมื่อกี้เธอว่าใครปากหมา!?" "ฉันไม่ได้ว่าแบบนั้นสักหน่อย" เมื่อกี้เธอพูดไปแบบยังไม่ได้คิด เพราะโมโหที่เขาพูดให้เธอแบบนั้น แต่มันก็ทำให้เขาโกรธมาก เท้าแกร่งก้าวเดินเข้ามาหาอีกฝ่ายแบบช้าๆ "ฉันไม่ได้หูหนวก" "ฉันไม่ได้ว่านายปากหมา ฉันว่าปากปีจอ" ..เอาวะยังไงเขาก็ได้ยินแล้ว "แล้วมันความหมายต่างกันตรงไหน?" "ฉันชมนายต่างหาก ฉันว่าปากนายเป็นสัตว์ประจำราศีเลยนะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับก้าวถอยหลังออกไปทีละก้าว "อยากจะลองชิมปากสัตว์ประจำราศีอีกสักครั้งไหมล่ะ" แล้วชายหนุ่มก็รีบเดินเข้ามาประชิดตัวของหญิงสาว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD