“อยากอยู่แบบนี้ทุกวันเลย ไอติมครับเสี่ยแก่แล้วนะเห็นใจกันหน่อยสิ”
“ขอเวลาหนูหน่อยนะคะ” เธอยังคงยืนยันคำเดิมเพราะยังไม่มั่นใจในตัวเองมากพอ
“ความรู้สึกของเสี่ยส่งถึงหนูบ้างรึเปล่า หนูรู้สึกบ้างไหมว่าเสี่ยรักหนูมากขนาดไหนแล้ว” การกระทำของเขาอาจจะไม่มากพอให้เธอรู้ก็ได้มั้ง แต่ว่าเขารักเธอมากจริงๆนะ เขารักเธอมากแบบที่คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเป็นไปได้
เขาสบตาเธอก่อนจะก้มลงไปจูบหน้าผากเกลี้ยงแผ่วเบา แล้วสบตากันอีกครั้งเพื่อเป็นการขออนุญาต จากนั้นก็ค่อยๆกดจูบปากเธอครั้งแรก
“เสี่ยรักหนูมากนะครับ นี่เป็นค่ามัดจำที่ปล่อยให้รอนาน” เขาผละจูบมาถึงได้บอกแต่ว่าไอติมดูจะยังอึ้งไม่หาย
“เอ่อ…หนู…หนูกลับก่อนจะดีกว่าค่ะ!” เธอตั้งสติได้ก็รีบลุกขึ้น แต่ว่าถูกจับมือแล้วดึงลงไปนั่งตักเขาแทนซะอย่างนั้น หัวใจเต้นแรงและยังหน้าร้อนผาวไม่กล้าพอจะสบตาด้วย
“เราจะไปเที่ยวกันไม่ใช่เหรอ? หนูเป็นคนชวนเสี่ยเองนะอย่าลืมสิครับ” พอได้จูบเด็กแล้วอารมณ์โคตรจะดีเลย
“ไม่ไปแล้วก็ได้ค่ะ” เธอยังคงก้มหน้าไม่กล้าจะพูดอะไรมากอยู่ดีคล้ายว่าตอนนี้สมองกำลังอื้อไปหมด รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่รดต้นคอและแขนใหญ่ที่เลื่อนมากอดเอวรั้งไว้แนบชิดตัว
จะหนียังไงดี!?
ต้องรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนี้!!
“หนูเขินเหรอ?”
“ก็นั่นมัน…”
“หนูไม่เคยมีใครมากี่ปีแล้วหรือว่าตั้งแต่เลิกกับไอ้นั่น?”
“ค่ะ”
“งั้น…ก็แสดงว่าหนูก็ไม่เคยมีอะไรกับใครเลยสิ”
“ก็ไม่เคยค่ะ”
“แล้วโกรธไหมที่เสี่ยจูบหนูเมื่อกี้?”
“เอ่อ...เสี่ยฮายปล่อยหนูก่อนสิคะ”
“เสี่ยรักหนูนะ” เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อเพราะไม่มั่นใจว่าตอนนี้เธอจะโกรธรึเปล่า ถึงแม้ว่าจูบเพียงแผ่วเบาไม่ลุกล้ำเข้าไปพัวพันแต่ยังไงมันคือจูบอยู่ดี ที่เขาต้องกอดเอาเธอไว้ก็เพื่อให้เราได้คุยกันและทำความเข้าใจกันมากขึ้น เขาไม่อยากจะให้เธอหลบหน้าหนีเพราะความคิดถึงมันทรมานมากเลยนะ
“ปล่อยหนูก่อนค่ะ” เธอยังยืนยันคำเดิมเขาถึงปล่อยยอมยกออกจากตักให้นั่งข้างๆแทนแต่จับมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
“หนูโกรธเสี่ยรึเปล่าครับ?” เขาถามซ้ำจะได้ทำตัวถูกและเตรียมรับมือในสิ่งที่จะตามมา ถ้าหากว่าไอติมตีตัวออกห่างเหมือนครั้งโน้นที่สารภาพความจริงในใจออกไป
“หนูสับสนค่ะ หนูไม่เคยคุยกับใครได้นานขนาดนี้มาก่อน” เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกตอนนี้ยังไงเหมือนกัน เธอรู้สึกดีกับเสี่ยฮายมาก แต่ยังไม่แน่ใจในคำว่ารักเลยไม่อยากจะพูดหรือยอมรับอะไรออกไปทั้งนั้น เธอแค่อยากอยู่แบบนี้เฉยๆแต่ก็รู้ว่าเสี่ยฮายคงจะไม่ยอมอยู่แค่สถานะนี้แน่นอน ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงให้ความหวังเหมือนเดิมเพื่อให้เขาอยู่แบบนี้ต่อไป
“ทุกครั้งหนูจะหายไปใช่ไหม?” ไม่ต้องเดาก็รู้เพราะเจอมาเองกับตัวเล่นเอาประสาทกิน หัวหมุน และทำอะไรไม่ถูกนอกจากเสียใจเงียบๆ ช่วงนั้นเรื่องของเราไม่มีใครรู้และไม่มีแม้แต่รูปถ่ายที่ยืนยันสถานะได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่บอกได้ดีคือความทรงจำ แต่เขาหมายตาเธอแล้วอีกทั้งยกหัวใจให้ดูแลมีเหรอจะไม่หาทางตามหาจนเจอและพยายามสานสัมพันธ์ต่อ
“ค่ะ หนูดูใจร้ายมากไหมคะ?”
“ก็มากนะแต่ต่อจากนี้โอกาสคุยเยอะไม่มีแล้วนะ พอดีเสี่ยขี้หวงมากๆไม่อยากจะแบ่งหนูให้กับใครและไม่อยากให้ใครมายุ่งกับหนูด้วย ไอติมอย่าให้ความหวังใครนอกจากเสี่ยนะ เสี่ยอยากมีหนูคนเดียว” ถึงจะยังไม่ได้เป็นอะไรกันแต่เขารักมากและก็จะหวงมากเลยด้วย เขาจะแสดงออกทุกอย่างแบบไม่เกรงใจใครอีกแล้วนอกจากผู้หญิงตรงหน้าคนเดียว
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย!”
“แต่เราก็จูบกันแล้ว ไอติมหนูรู้ว่าเสี่ยรักมากก็อย่าหนีห่างกันเลยนะ” นาทีนี้อ้อนกว่าหมาก็เขานี่แหละ
“หนูหายไปเสี่ยฮายก็คงไปตามที่คอนโดเหมือนเดิม” เขาเคยทำมาแล้ว ในตอนนั้นเธอไม่สบายมากเขาก็ดูแลดีมาก
ความจริงมันก็หลายครั้งแหละที่เขาดูแลเธอดีมาก เขาทำให้รู้สึกได้เลยว่านี่คือคนพิเศษกว่าใคร ยิ่งในตอนที่ไปร้านชาบูของแฟนเก่าเขาและดันเจอแฟนเก่าเธอที่นั่น เขาปกป้องแม้ว่าเธอจะไม่ได้ร้องขอเลยก็ตาม
รู้ไหมว่าในตอนนั้นประทับใจในตัวเขามาก
เสี่ยฮายคือคนพิเศษสำหรับเธอ
“เสี่ยจะให้หนูเป็นความรักครั้งสุดท้ายไงครับ ไปเที่ยวกันเถอะ แล้วพรุ่งนี้เสี่ยจะไปรับที่คอนโด แล้วเราจะไปทำพาสปอร์ตด้วยกันนะ” เขาบอกก่อนจะหันไปปิดโทรทัศน์แล้วจับมือเธอลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนี้ออกไปโรงจอดรถต่อ
งานดนตรีของใครจัดเขาก็ไม่รู้แล้วยังจัดสามวันติดกัน ที่นี่ไม่ไกลจากบ้านอีกด้วย แต่ว่าบรรยากาศดีมากเลยนะ เขาเห็นรายชื่อศิลปินหลากหลายแนวที่มาค่อนข้างเยอะและราคาบัตรก็สูงพอสมควร เขาหันไปถามทันทีเพราะเห็นว่าเป็นนักศึกษาอยู่พอเสียเงินขนาดนี้อาจจะมีผลกระทบต่อค่าขนมในแต่ล่ะเดือนได้เลยอาสาจะโอนเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ แต่ไอติมบอกว่าไม่ได้ซื้อนั่นเลยทำให้สงสัยมากว่าได้มาจากที่ไหนกันแน่ จนกระทั่งเห็นว่าเธอเดินไปหาใครบางคนถึงได้เข้าใจ
“แฟนเหรอ? สวัสดีครับคุณคบกับหลานสาวผมนานรึยัง?”
“อาชิดหยุดเลยนะ! เราไม่ได้เป็นแฟนกันค่ะ เราแค่สนิทกันเฉยๆเลยชวนมาด้วยไม่ได้มีอะไรหรอก”
“อาไม่รู้นี่เห็นว่าเป็นคนที่…”
“หยุดเลยค่ะไหนว่าจะไม่พูดไงคะ!”
“โอเค งั้นพาเขาเดินเล่นเต็มที่เลยนะมีมุมศิลปินทั้งชื่อดังแล้วก็สมัครเล่นเยอะเลย มีโซนถ่ายรูปตรงโน้นหนูน่าจะชอบ”
“ค่ะอาชิด” เธอคุยกับอาชิดแค่ไม่นานก็หันมามองคนแก่ยิ้มกว้างแล้วพาเขาไปฟังเพลงเพราะๆด้วยกันดีกว่า งานนี้ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นมาอาจจะเป็นงานไม่ดังมากแต่สนุกแน่นอน
“บอกว่าเสี่ยเป็นแฟนเลยก็ได้ไม่น่าปฎิเสธเลย” อาของเธอเนี่ยท่าทางอาร์ทติสตัวพ่อไม่ต่างกับเธอเท่าไรเลย มิน่าละถึงดูสนิทสนมกันมากขึ้นขนาดกอดกันกลมขนาดนั้น
“บ้า! แล้วเสี่ยฮายจะดื่มอะไรไหมคะหนูจะไปซื้อให้”
“เสี่ยขอดื่มเบียร์ได้ไหม?”
“แล้วแต่สิคะถ้าเมาเดี๋ยวหนูไปส่งเอง”
“ครับ ไปซื้อด้วยกันดีกว่าแล้วไปหาฟังเพลงเพราะๆกัน” นาทีนี้อะไรก็ยอมละครับก็ไอติมน่ารักมากขนาดนี้
เบียร์เย็นๆสองกระป๋องกับน้ำอัดลมอีกขวดใส่ไว้ในถุง เขาเป็นคนถือและดื่มเบียร์คนเดียว เพราะว่าไอติมคออ่อนมากเลยไม่อยากดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์เพราะกลัวว่าจะเมามาก แต่ความจริงถ้าดื่มแล้วเมาเขาก็ดูแลเธอได้เป็นอย่างดีเลยนะ อยู่กับเขาไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก
เรามายืนโยกตัวไปมาตามจังหวะเพลงเพราะและกอดคอกันมันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลย เหมือนกับว่าถูกดึงให้ย้อนวัยกลับมาเด็กอีกครั้งหนึ่งอย่างงั้นแหละ
ความจริงไอติมสอนอะไรเขาหลายอย่าง
อยากอยู่แบบนี้นานๆจัง
เมื่อออกจากงานดนตรีเพื่อขับรถกลับบ้านก็เป็นคนขับเอง เบียร์แค่สองกระป๋องทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว แต่ว่าเด็กดีที่นอนเร็วนี่สิหมดแรงหลับไปก่อนเลย เขาขับรถออกมาก็เที่ยงคืนนิดๆจนมาถึงบ้านก็ยังไม่อยากปลุกเธอให้ตื่น แต่ก็ไม่กล้าพอจะอุ้มด้วยแหละเลยได้แค่นั่งมองแบบนี้
ไอติมยังคงเป็นคนยิ้มง่ายอารมณ์ดีและสดใสเหมือนทุกครั้งเสมอ บางเวลาที่หวงมากเกินไปและเธอก็เหมือนจะเข้าใจถึงได้ไม่ว่าอะไรสักคำ สิ่งที่เธอทำนอกจากยิ้มให้แล้วพูดคุยตามปรกติมีหยอดคำหวานนิดหน่อยตามสไตล์ของเธอ
เหมือนว่าตกหลุมรักซ้ำๆจนหาทางออกไม่ได้แล้ว
ไม่มีอะไรช่วยได้แล้ว!
“หนูเป็นคนที่ดีมาก แต่ทำไมถึงใจร้ายกับเสี่ยจังเลยนะ” ผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทั้งวันไนท์ คุยเล่น หรือว่าคบอย่างเปิดเผยก็ไม่เคยยากขนาดนี้เลย ไอติมตั้งกำแพงไว้สูงมากจนยากที่จะข้ามไปได้ง่ายๆ และเข้าใจว่าทำไมถึงโสดนานมากแม้ว่าจะมีคนพยายามเข้าหาตลอดเวลา เขายอมรับว่าโอกาสที่จะคว้ามาอยู่เคียงข้างกายก็ช่างน้อยเหลือเกิน แต่ว่าการห้ามใจไม่ให้รักเธอมันยากยิ่งกว่าหลายเท่าตัว
ความจริงแล้วเขาห้ามตัวเองไม่ทันหรอก เล่นตกหลุมรักเข้าอย่างจังตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แล้วพยายามจะหนีออกจากหลุมรักนี้แล้วแต่ไม่สามารถหนีได้เลย เพียงเธอยิ้มให้ทุกอย่างพังทลายลงในพริบตาเดียว ถ้าเขาไม่รู้อดีตที่เลวร้ายในเรื่องความรักของเธอมาก่อนคงไม่ใจเย็นแบบนี้ แล้วอาจจะทำเรื่องเลวร้ายกับเธอก็ได้ ไอติมมีปมเรื่องความรักและเขานี่แหละจะแก้ปมพวกนี้ออกให้หมดแล้วสอนให้รู้จักความรักดีขึ้น
“ไอติมครับถึงแล้ว” เขาจับต้นแขนเธอเขย่านิดเดียวก็ลืมตามองแล้ว แต่ว่าคนอะไรน่ารักตลอดเวลาเลย
“นี่มันบ้านเสี่ยฮายนี่คะ?” เธอขยี้ตาพร้อมถามเขาด้วย
“มันดึกแล้วค้างที่นี่นะ เสี่ยไม่บอกใครให้หนูต้องเสียหายหรอกไม่ต้องกังวล แล้วเรื่องห้องนอนก็ห้องเสี่ยก็ได้เดี๋ยวเสี่ยนอนพื้นเอง” ความจริงเขาไม่ใช่สุภาพบุรุษเลยนะ แต่กับไอติมเขายอมแค่เธอเชื่อใจเขามากขึ้นก็พอ
“แน่ใจนะคะ?”
“คอนโดหนูเสี่ยไปนอนมาตั้งสองครั้งแล้วนะ นอนบ้านเสี่ยสักครั้งคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง”
“ก็ได้ค่ะ” เธอลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านที่ปิดไฟมืดสนิทเสี่ยฮายก็มาจับมือ แล้วพาขึ้นบันไดที่มีไฟนำทางเปิดอัตโนมัติถึงชั้นสองตรงไปยังห้องนอนของเขาทันที
เมื่อตอนบ่ายเธอเข้ามาแล้วตอนเลือกเสื้อผ้าให้เขาใส่ไปงานแต่ในตอนนี้เธอมาอีกครั้งเพื่อจะนอนที่นี่ เธอไว้ใจเขามากถึงได้ยอมมาด้วยขนาดนี้แล้วก็หวังว่าเขาจะทำได้อย่างที่พูดนะ
เธอคิดถูกใช่ไหมที่มาแบบนี้?
“หนูอาบน้ำก่อนได้นะเสื้อผ้าในตู้ของเสี่ยใส่ได้เลยจะได้นอนสบาย เสี่ยไปเอาที่นอนกับผ้าห่มมาก่อนพอดีมันอยู่ข้างล่าง” เข้ามาถึงห้องนอนถึงได้บอกเธอแบบนั้น และกำลังจะหมุนตัวกลับไปได้ยินไอติมพูดออกมาถึงกับยิ้มกว้างเลย
“ดูแลเก่งจังเลยแบบนี้รักษาเก่งด้วยไหม?”
“เก่งสิครับ ดูแลเก่งมาก รักษาก็เก่งมาก พอดีประสบการณ์เจ็บมันสอนเสี่ยมาเยอะน่ะ”
“หนูจะจำไว้นะคะ” เธอวางกระเป๋าแล้วชาร์จแบตโทรศัพท์จากนั้นก็ไปอาบน้ำตามที่เขาบอก
เสี่ยฮายอายุกำลังจะสามสิบปีในอีกสองเดือนข้างหน้าเธอจำได้ อายุเราห่างกันตั้งสิบปีเลยเพราะว่าเธอพึ่งจะอายุยี่สิบปีเองไม่รู้ว่าเด็กเกินไปสำหรับเขารึเปล่า แต่มีคนบอกว่ากินเด็กแล้วเป็นอมตะ เธอก็ชักอยากรู้แล้วสิว่าจะอมตะจริงไหม
ห้องน้ำเสี่ยฮายมีทุกอย่างครบหมดที่ต้องการใช้ เธอจัดการตัวเองเรียบร้อยด้วยเวลาเร็วกว่าทุกครั้ง จากนั้นก็หยิบได้ใส่เสื้อเชิ๊ตสีดำสนิทของเขากับกางเกงขาสั้นที่น่าจะตัวเล็กที่สุดมาใส่แล้วเดินออกมาก็เห็นว่าเขานั่งรอบนเตียง
นี่เธอรีบอาบน้ำที่สุดแล้วนะ
“ใส่ได้ใช่ไหม?”
“ค่ะ เสี่ยไปอาบน้ำได้แล้วค่ะดึกมากแล้ว”
“รู้ไหมไอติมเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไม่ใช่แม่ที่มาค้างบ้านเสี่ยนะ แล้วยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่เข้ามานอนบนเตียงนี้ด้วย” เขาเล่นโสดยาวมาตั้งสามปีก่อนบ้านหลังนี้จะสร้างเสร็จซะอีก ก่อนหน้าเจอไอติมเรื่องผู้หญิงมันก็มีบ้างตามประสาคนโสด แต่ส่วนใหญ่ไปคอนโดหรือไม่ก็โรงแรมแทน
“อาบน้ำเถอะค่ะ หนูง่วงมากแล้ว” เธอบอกเขาซ้ำอีกครั้งเสี่ยฮายถึงได้เดินเข้าห้องน้ำ
ใครจะคิดว่าที่เมียจะน่ารักได้ขนาดนี้นะ เขาอาบน้ำอย่างรวดเร็วไม่นานก็เสร็จ ออกมาถึงได้เห็นว่าที่นอนที่ไปเอามาแต่ยังไม่ได้จัดตอนนี้มีคนจัดให้เรียบร้อยพร้อมนอนได้เลย
ส่วนเจ้าตัวน่ะเหรอ…หลับสนิทมาก!
“หนูจะน่ารักตลอดเวลาแม้แต่ตอนนอนหลับไม่ได้นะ ถ้าน่ารักแบบนี้เสี่ยก็แย่สิครับ” เขาไม่อยากจะบอกเลยว่าหัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะเสมอทุกครั้งเวลาที่เราใกล้ชิดกัน
“ฝันดีนะครับไอติม” เหมือนจะรู้ว่าเขาอยากเห็นหน้าถึงได้นอนตะแคงมาทางเขาแบบนี้
หนูหลับแล้วหนูยังจะเล่นกับความรู้สึกเสี่ยอีกเหรอครับ
เจ้าเด็กบ้าคนนี้!