เด็กมันยั่ว

ตอนที่ 16

เขาสั่งเครื่องดื่มกับผลไม้ไปที่ห้องไอติมด้วยเผื่อว่าอยากกินจะได้ไม่ออกมาพอดีว่าหวงเด็กและไม่อยากขัดใจเธอในเรื่องที่เข้าใจได้ ตอนนี้เขาเริ่มเดาอนาคตตัวเองออกแล้วว่าต้องตามใจไอติมมากแน่นอน แล้วคงจะหึงหวงมากกว่านี้หลายเท่า ถ้าเกิดมีใครมาสนใจเธอเข้าคงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขาแน่

เรายังไม่ได้คบกันแต่รู้ไหมว่าเธอเป็นแฟนของเขาแล้ว

แต่เขาเนี่ยเมื่อไรจะเป็นแฟนเธอสักที!

“หลับซะแล้ว หนูนี่นะเด็กน้อยจริงๆ” ทั้งสวยทั้งน่ารักแบบนี้มันก็แย่เลยสิ คนหวงคงประสาทกินบ่อยๆแน่ถ้าเธอมาเที่ยวบ่อยๆแบบนี้ ครอบครัวเธอไปเที่ยวด้วยกันบ่อยมากเท่าที่ฟังมานะ ดูอย่างไอติมสิตอนเจอกันวันแรกเธอพึ่งกลับมาจากเที่ยวต่างประเทศเหมือนกัน แล้วในเวลาสี่เดือนก็มากับครอบครัวอีกครั้งยาวนานถึงหนึ่งอาทิตย์ นี่ยังไม่รวมกับที่เธอไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ติดต่อได้ค่อนข้างช้ามาก

ขอหอมแก้มหน่อยเถอะน่ารักเกินไปแล้ว!

หวังว่าเธอจะเข้าใจความรู้สึกเขาบ้างนะ

“หนูไม่ต้องกลัวว่าเสี่ยจะเปลี่ยนไปเพราะไม่มีทางหรอก มีแต่จะรักจะหลงมากกว่านี่สิปัญหาใหญ่!” นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เรานอนด้วยกันแบบไม่มีอะไรนอกจากกอดกัน แต่เขาต้องรอจนเธอหลับนั้นแหละถึงได้กล้าขนาดนี้

ตกเย็นเขาออกมาจากห้องของไอติมเดินออกมาเข้าห้องของตัวเองที่อยู่ติดกัน ในห้องมีอาร์มพี่ชายของไอติมกับโจอี้เพื่อนพี่ชายไอติมนั่งคุยกันอยู่ บางทีเขาคงต้องคุยกับอาร์มหน่อยแล้ว เรื่องของเราจะได้ไม่ต้องลำบากใจเวลาไอติมถูกใครถามเอา หรือเวลาเธอตัดสินใจจะคบกับเขาจะได้ไม่มีใครขัด

ต้องอย่าลืมว่าไอติมเชื่อฟังพี่ชายมากๆ

“อาร์มเสี่ยขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม?” ครอบครัวนี้จัดว่าหน้าตาดีแล้วยังมารยาทก็ดีใช้ได้กันทุกคนเลยนะ

“ครับเสี่ยฮาย ไปคุยกันข้างนอกดีกว่าแล้วไอติมละ?” อาร์มลุกขึ้นเดินออกมาให้เพื่อนได้พักผ่อน

“น่าจะยังไม่ตื่นน่ะพอดีเล่นน้ำกันเยอะมากไปหน่อย” ทั้งเล่นน้ำแล้วเดินเล่นกันอีกที่สำคัญเขาเป็นตากล้องให้ไอติมตลอดจนเข้าใจที่พี่ชายเธอบอกเลย ไอติมชอบถ่ายรูปมากๆส่วนเขาเนี่ยก็หวงเธอมากเช่นกัน แต่ก็แปลกที่ไม่อยากจะขัดใจเด็กน้อย

“เสี่ยฮายจะคุยเรื่องไอติมรึเปล่าครับ?”

“ใช่ครับ ผมจะคุยเรื่องขอคบกับไอติม”

“งั้นผมว่าเราไปหาที่ส่วนตัวคุยกันดีกว่าครับ”

“ก็ดีครับ” เขาเดินตามพี่ชายของไอติมออกมาเรื่อยๆจนได้ที่เงียบพอจะคุยกันสองคน เขาสั่งน้ำมาให้คิดว่าครั้งนี้อาจจะต้องพูดเยอะมากกว่าที่คิดเพราะหน้าตาอาร์มดุเอาเรื่องทีเดียว

“บอกตามตรงนะครับผมยังไม่อยากจะไว้ใจใครทั้งนั้น” อาร์มบอกตัดหน้าก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรออกมา เขาไม่ได้จะขัดขว้างแค่อยากจะลองใจเฉยๆว่าจะเป็นยังไงต่อ

“เพราะเรื่องแฟนเก่าไอติมรึเปล่า?” ฮายถอนหายใจเบาๆเข้าใจว่าพี่ชายต้องเป็นห่วงน้องสาวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

“ใช่ครับ แต่ว่ามันก็มีมากกว่านั้น” อาร์มอมยิ้มเล็กน้อย

“เสี่ยฮายอายุมากกว่าไอติมเกือบสิบปีได้เลยมั้ง ผมเป็นห่วงน้องสาวกลัวว่าจะโดนหลอกเอา ผมรู้นะครับว่าเสี่ยฮายจริงจังถึงขนาดกล้าขอมาเที่ยวกับครอบครัวผมขนาดนี้ ผมกลัวไอติมจะเสียใจจนปิดใจจริงๆถ้าต้องเลิกกันสักวัน ผมดูแลน้องสาวมาอย่างดีขึ้นเสียงสักครั้งยังไม่เคยเลย แล้วไอติมมีความสุขด้วยตัวเองได้ไม่จำเป็นต้องมีใคร” อาร์มอธิบายชัดเจนแอบสงสารอีกฝ่ายเหมือนกันที่ต้องมานั่งคุยกับเขาแบบนี้ แต่ถ้าเขาไม่อนุญาตไอติมไม่มีทางคบแน่นอนต่อให้มีใจให้แล้วก็ตาม

“แล้วไม่คิดว่าเสี่ยจะเป็นคนเสียใจมั้งเหรอ?” เดี๋ยวก่อนนะ! ที่ผ่านมาอาจจะไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ว่าเขารู้ดีว่าเจ็บปวดเพราะไอติมนับครั้งไม่ถ้วนโดยที่เธอไม่เคยรู้ตัวเลย เขาไม่อยากจะว่าไอติมนะ แต่ว่าเธอมาให้ความหวังเสมอแล้วก็หายไปเหมือนว่าเขามีไม่สำคัญอะไรเลย

เขาพยายามขนาดไหนไม่มีใครรู้หรอก!

“น้องสาวผมอายุพึ่งจะยี่สิบปีเอง เสี่ยฮายคิดว่าทำไมไอติมถึงไม่ยอมมีใครทั้งที่มีคนพยายามเข้าหาตลอดแล้วเวลา แล้วในสายตาคนทั่วไปก็คงจะสาวฮอตมากจนสามารถชี้นิ้วเลือกแฟนได้แต่ก็ไม่เคยสนใจใครเลย แถมพักหลังๆมานี้ยังมีข่าวว่าคุยเยอะบ้าง เจ้าชู้บ้าง ทั้งที่ไอติมขี้กลัวจนไม่สามารถจะไว้ใจใคร”

“เสี่ยอายุเกือบจะสามสิบปีแล้วรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร การที่เราจะรู้สึกดีกับใครสักคนมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายหรอกนะ แล้วที่ไอติมไม่มีใครมานานอาจจะเพราะเรื่องฝังใจส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคือไม่เจอคนที่ใช่สักที”

“ไอติมเป็นคนโชคร้ายเรื่องความรักนะครับ อีกสักพักเสี่ยก็จะรู้ว่ามีอะไรที่มากกว่าเกือบโดนข่มขืน”

“ไม่ต้องห่วงเสี่ยพร้อมจะเยียวยาทุกอย่างแล้วทำให้ไอติมมีความสุข เสี่ยจริงใจนะถึงได้กล้ามาทั้งที่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน” เขายิ้มกว้างดูก็รู้ว่าอาร์มไม่ใช่คนดุเพียงแค่ลองใจเท่านั้น

“ผมจะจำไว้นะ งั้นเรามาคุยเรื่องอื่นกันหน่อยไหมครับ เช่น เสี่ยฮายทำไงน้องสาวผมถึงใจอ่อนขนาดนี้ ผมไม่อยากจะอวดนะแต่เสี่ยฮายต้องทำใจนิดหน่อยเพราะว่าคนชอบมีเยอะมาก คนอยากแย่งก็เยอะมากด้วย” อาร์มยิ้มกว้างออกมาหลังจากที่เก๊กขรึมไว้นานสองนานเกือบหลุดหัวเราะมาตั้งหลายครั้ง เขารู้ว่าเสี่ยฮายดูออกมาว่าเป็นการพูดคุยแล้วถามลองใจนิดหน่อย

หลังจากคุยกับพี่ชายของไอติมเรียบร้อยก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพียงแต่ว่าทุกคนเตือนว่าไอติมมีปมข้อนี้ที่เขารู้แล้ว ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าไม่จริงจังก็ถอยไปเลยเพราะถ้าพังรอบนี้ก็ไม่รู้ว่าไอติมจะเปิดใจอีกเมื่อไร แล้วจะกล้าไว้ใจใครอีกครั้งรึเปล่าเพราะนานมากแล้วกว่าจะเปิดใจมากขนาดนี้

รักจริงหวังแต่งนะครับดังนั้นไม่ต้องห่วง!

“แต่งตัวสวยอีกแล้วนะไอ้เด็กคนนี้” เรื่องแฟชั่นการแต่งตัวไว้ใจไอติมได้เสมอจริงๆ ไม่ว่าจะหน้าผมชุดหรือแม้แต่รองเท้าก็ดูเข้ากันหมดทุกอย่าง เธอยิ้มให้แต่ว่ามันมีคนแอบมองเหมือนว่าอยากทำความรู้จักคนขี้หวงแบบเขาจะยอมเหรอ

มันต้องแสดงว่านี่คือคนของใคร!

เราเดินไปจับมือไอติมเดินไปร้านอาหารที่นัดกันไว้ซึ่งเขากับไอติมน่าจะไปช้าสุดนะเพราะว่าคุยกันจบอาร์มก็ไปเลยคงไม่อยากมาช้า ตอนนี้เลยเหลือเขาที่เดินมาหาผู้หญิงแสนสวยคนนี้

“ทำไมช้าจัง?”

“สงสัยจะเพลียแดดค่ะ แล้วก็ปวดหัวนิดหน่อยวันนี้คงปาร์ตี้ด้วยไม่ได้แล้ว”

“เสี่ยบอกอะไรหนูก็ไม่เคยเชื่อเลย งั้นเดี๋ยวกินข้าวเย็นเสร็จแล้วมากินยานอนพักนะ เสี่ยจะดูแลหนูเอง” พร้อมจะดูแลไปตลอดชีวิตแล้วนะ เหลือแค่หนูยอมตกลงเป็นเมียเท่านั้นเอง

“ไปสนุกเถอะค่ะ หนูกินยาเดี๋ยวก็ง่วงหลับ ถ้านั่งเฝ้าแล้วจะน่าจะเบื่อ” เธอรู้ตัวเองดีว่าไม่ค่อยถูกกับแดดสักเท่าไรเพราะว่าโดนนานๆแล้วมันจะปวดหัวแบบนี้ตลอด

“ถ้าไม่มีหนูมันก็ไม่สนุกหรอก” ที่ถ่อมาถึงที่นี่ก็เพราะหนูคนเดียวเลยนะ แล้วถ้าหนูไม่สบายจะให้เสี่ยไปสนุกคนเดียวงี้เหรอ…ไม่ได้หรอก! เขาปล่อยว่าที่เมียดูแลตัวเองได้ไงละ

“ไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวคนอื่นจะรอนาน” เธอแกะมือเขาออกเสี่ยฮายก็หันมามองหน้าแล้วคิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนจะหยุดเดิน เธอแค่เปลี่ยนจากจับมือมาควงแขนต่างหากเล่า

บรรยากาศร้านอาหารที่พี่อาร์มจองมันดีเสมอสมแล้วกับที่ไปเป็นลูกเขยบริษัททัวร์ ทุกคนมองเธอกับเสี่ยฮายแปลกๆทำให้เธอวางมือจากเขาแต่ว่าเสี่ยฮายกลับมาจับมือเธอแทนซะอย่างนั้น นี่เขาคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่นะ? เธอเงยหน้ามองแต่สิ่งเดียวที่ตอบมาคือรอยยิ้มกว้างตามแบบฉบับของเขา

“เสี่ยอยากเปิดเผยว่าเรากำลังคุยกันอยู่” เรียกว่าศึกษาดูใจกันนานมากแล้วกว่าจะได้จับมือควงแขนแบบนี้มันไม่ใช่ง่ายๆ

“แต่เรายังไม่ได้คบกันนะจะทำอะไรเกรงใจหนูหน่อยสิ!” เธอหันไปดุแต่เขากลับยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆไม่ยอมรู้สึกอะไรเลย

“เสี่ยอยากจะชัดเจนกับหนูนะ เลิกสร้างกำแพงมากั้นความสุขได้แล้ว” เขาเริ่มเดาทางเธออกแล้วนะว่าจะเป็นยังไงต่อ ไอติมคงจะรู้ว่ารู้สึกดีกับเขาเลยถอยห่างเพื่อจะปิดกั้นเขาออกไปสิท่า แต่ในเมื่อเขาไม่ยอมไอติมก็ไม่มีวันทำสำเร็จหรอก

“ไงไอติมทำไมมาช้าจังวะ แล้วนี่เสี่ยฮายไปตามมาเหรอ?” โจอี้อมยิ้มเล็กน้อยส่ายหน้าในความพยายามปิดใจของไอติม

“วันนี้มีคู่หมดเลยเว้ยยกเว้นมึงไอ้โจอี้!” อาร์มแซวเพื่อนเบาๆแล้วขำน้องสาวที่ทำหน้าเหมือนเด็กถูกขัดใจ เอ้า! นี่พูดเรื่องจริงนะเพราะพ่อคู่กับแม่ เขาก็มากับเมีย ส่วนไอติมก็มากับเสี่ยฮายไง แต่จะไปตกลงเป็นแฟนกันตอนไหนก็ไม่รู้นะเพราะเดาอนาคตไม่ออก ส่วนไอ้โจอี้มันโสดสนิทมากเวอร์

“เลิกแซวเลิกพูดเลย!” เธอพูดเสียงดังเบ้ปากให้พี่ชายทั้งสองคนเนี่ยที่ชงดีจริง

“เขาพูดเรื่องจริงกันหนูจะดุทำไมหึ?” เขาน่ะไม่อายหรอกเพราะอยากให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่ว่าไอติมนี่สิดูก็รู้ว่าทั้งเขินทั้งอายในเวลาเดียวกัน เขาจะเป็นแฟนคนแรกในรอบกี่ปีนะ

ไอติมบอกว่าเคยมีความรักตอนมัธยมแต่ไม่ได้บอกว่าชั้นไหนจนมาถึงตอนนี้ก็นานมากเลย แถมยังไม่เคยเปิดใจให้ใครสักคนจริงๆอีกด้วย เชื่อได้เลยว่าคงจะมีแค่ไม่กี่คนหรอกที่จะได้แฟนจากความหน้าด้านหน้าทนแล้วยังมึนแบบเขาเนี่ย

หลังจากกินอาหารเย็นเรียบร้อยเธอบอกพ่อแม่แล้วก็พี่ชายว่าจะไปพักเพราะปวดหัวแล้วก็เพลียมากด้วย ไม่มีใครว่าอะไรสักคนเพราะรู้อยู่แล้วในสิ่งที่เป็น มาถึงห้องพักแน่นอนว่าเธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดนอนกำลังจะห่มผ้าอยู่แล้วเชียวแต่ดันเหลือบตาไปเห็นว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาหาในยามวิกาล

เสี่ยฮายอีกแล้วนะที่มาหากันแบบนี้

บอกให้ไปเที่ยวทำไมไม่ยอมไป!

“เสี่ยมาดูแลตามที่บอกหนูเอาไว้ไงครับ” หน้าตาของเธอดูเหมือนว่าจะง่วงมากแบบนี้แสดงว่ากินยาไปสักพักแล้วแหละ อีกอย่างไอติมเป็นคนนอนเร็วอยู่แล้วด้วยคงถึงเวลาหลับแล้วจริงๆ

“แต่หนูจะนอนแล้ว เสี่ยฮายกลับไปเถอะค่ะ” เธอขยับตัวนั่งมองผู้ชายที่พยายามมีส่วนร่วมทุกอย่างในชีวิตตอนนี้

“งั้นฝันดีนะครับ เสี่ยคงจะเป็นห่วงหนูมากไปหน่อย” เขาคงจะล้ำเส้นมากเกินไปสินะ

“เสี่ยอายก็ฝันดีเหมือนกันนะคะ” เธอไม่ลืมที่จะบอกเขากลับแล้วล้มตัวนอนซึ่งก็เป็นเสี่ยฮายที่มาห่มผ้าแล้วปิดไฟให้ ทุกอย่างที่เขาทำเธอไม่เคยร้องขอเลย ทั้งความใจดี ความใสใจ ความอยากจะเปย์ทุกอย่าง และความอยากทำให้เธอสุขสบายที่สุดแม้ว่าอาจจะขัดใจตัวเองไปบ้าง แต่ว่าเธอกลับรู้สึกดีที่เขาเต็มใจทำให้แบบนี้แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าเห็นแก่ตัวเกินไป

ฮายเดินกลับมาที่ห้องพักแต่ว่ามันยังไม่ง่วงเลยออกไปนั่งเล่นแล้วสั่งไวน์มาดื่มขณะมองบรรยากาศยามค่ำคืนแบบนี้ก็รู้สึกสงบดี แต่ก็เหงาเพราะไม่มีใครอยู่ข้างกายทั้งที่ปรกติไม่ใช่คนขี้เหงาเลย นี่ถ้าไอติมไม่ปวดหัวเขาคงจะชวนมานั่งเล่นแบบนี้แทนการไปปาร์ตี้แล้วพูดคุยในเรื่องของเราสองคน แต่ก็เอาเถอะกลับจากทริปนี้เขาจะทวงถามสถานะของตัวเองกับเธอสักที

หวังว่าการขอเป็นแฟนครั้งที่สามคงไม่ผิดหวังนะ

วอนคนน่ารักหยุดใจร้ายสักทีเถอะ