ตอนที่ 15

2035 Words
“โอ๊ย! น้ำกระจายเปียกหมด!” อยู่ดีๆเสี่ยฮายก็กระโดดลงน้ำแบบไม่บอกกันก่อนเลย “ไอติมลงมาเล่นน้ำกับเสี่ยสิครับ” เขากระโดดน้ำดับร้อน แล้วยังพรางตัวไม่ให้เธอเห็นว่าตรงนั้นของเขามันชี้เป็นเสาธง ทีกับคนอื่นใส่ชุดว่ายน้ำโป๊กว่าไอติมตั้งหลายมันไม่ขึ้นแบบนี้เลยนะเพราะสงบสติอารมณ์ได้ แต่กับไอติมนี่สิมันขึ้นตั้งตรงแข็งโป๊ก ไม่ต้องให้ใครมาบอกก็รู้ว่าตอนนี้อยากกินเด็กมากขนาดไหน หนูนี่ก็ยั่วคนแก่เก่งเหลือเกินไอ้เด็กบ้า!! “ค่ะ” เธอถอดเสื้อคลุมออกแล้วนั่งลงหย่อนขาลงในน้ำใสแจ๋วไป โดยที่เสี่ยฮายว่ายน้ำเข้ามาใกล้แล้วจับเอวยกลงไปเล่นน้ำทะเลด้วยกันแบบไม่ต้องให้กระโดดแบบเขาเลย แถมยังดึงเธอเข้าไปกอดแบบเนียนๆได้อีก “เสี่ยหวงหนูมากนะ” พอได้กอด ได้สัมผัส ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้แล้วความคิดมันไปไกลมากกว่าเดิมอีกแล้ว ไอติมก็แทนที่จะขัดแต่กลับยกมือมาคล้องคอเขาซะอย่างนั้น แต่ว่า…เขาชอบนะที่เป็นแบบนี้! “แล้วหนูหวงเสี่ยฮายบ้างได้ไหมคะ?” เธอสบตาเขาพร้อมถามออกไปด้วยรอยยิ้มหวาน “ได้สิครับ หนูก็รู้ว่าเสี่ยให้สิทธิ์หนูมาตั้งนานแล้ว” มีใจให้กันบ้างแล้วใช่ไหมถึงได้ถามแบบนี้ “คนอื่นเขาไปล่องเรือกันหมดแล้วเหลือแค่เราน่าเสียดายจังเลยนะ” เธอดันตัวออกห่างเขาแล้วว่ายน้ำเล่นไม่ไกลมากซึ่งเสี่ยฮายก็ว่ายตามมาติดๆด้วยความเร็วที่มากกว่า “ดีออกเราจะได้มีเวลาอยู่กันแค่สองคนบ้าง” เขาคิดว่าทุกคนกำลังเปิดทางให้นะ หรือไม่เราสองคนที่เมาหนักเกินไปจนทุกคนคิดว่านั่งเรือไม่ไหวเพราะเมาค้างเลยไม่ได้ปลุก เธอหันมายิ้มแล้วว่ายน้ำเล่นกับเขาต่อไปเรื่อยๆอยู่นานเท่าไรก็ไม่มั่นใจจนรู้สึกคล้ายว่ากำลังจะหมดแรง เราแวะมานั่งพักดื่มน้ำแล้วจากนั้นก็ไปเปลี่ยนชุดหาอะไรรองท้องต่อด้วย พอมีเขาอยู่ด้วยแบบนี้แล้วทำให้มีความสุขมาก ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้อะไรจะเกิดขึ้นแต่สิ่งที่รู้คือเสี่ยฮายเป็นคนดีกับเธอมาก เขามอบความสุขให้โดยที่เธอไม่ต้องพูดอะไรออกไป แล้วยังอบอุ่นปลอดภัยทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันเสมอ เธอไม่ได้มีความสุขไปคนเดียวเพราะรอยยิ้มกว้างกับแววตาของเสี่ยฮายก็ชัดเจนว่ามีความสุขเหมือนกัน เรื่องที่เราจะคบกันตอนไหนเธอตัดสินใจได้แล้วนะว่าจะตกลง แต่คงจะบอกหลังกลับจากทริปนี้แล้วกัน หรือไม่ก็รอวันเกิดเขาซึ่งก็แค่เดือนหน้านี้เอง เสี่ยฮายเข้ากับครอบครัวเธอได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย อีกอย่างเธอคุยกับพี่อาร์มเรื่องเขาด้วยซึ่งพี่อาร์มก็ไม่ได้ว่าอะไรสักคำนอกจากแนะนำเหมือนทุกครั้ง ถ้าพี่อาร์มบอกว่าคบได้นั่นก็คือคบได้อย่างสบายใจ เธอเชื่อพี่ชายอยู่แล้ว! “ผิวหนูจะไหม้หมดแล้วนะ ถ้าจะเล่นน้ำอีกต้องทาครีมกันแดดใหม่นะ” ไอติมเปลี่ยนชุดคราวนี้เป็นเกาะอกเอวลอยกับกระโปรงทรงขนมชั้นสีขาวยาวถึงข้อเท้าได้โครตสวย ว่าที่เมียเป็นนางฟ้ากลับชาติมาเกิดแน่เลย! “หนูมีสเปรย์กันแดดเสี่ยฮายฉีดที่หลังให้ได้ไหมคะ?” เธอหันมาถามซึ่งแน่นอนว่าเสี่ยฮายไม่เคยปฎิเสธเลยสักครั้งเดียว ครั้งนี้ก็เช่นกันที่เขายื่นมือมารับแล้วฉีดให้ที่แขนขาเธอก่อนเลยแต่ว่าให้ฉีดแค่ที่หลังนะเพราะส่วนอื่นจัดการหมดแล้ว “มือเสี่ยหยาบหน่อยนะ” เขาไม่ได้ทำงานหนักมากแต่ว่ากีฬาที่ชอบเล่นนี่สิหนัก ทั้งไต่เขาจำลอง ทั้งยิงปืน ทั้งเซิร์ฟบอร์ดและอะไรอีกสารพัดอย่างซึ่งไม่แปลกที่มือจะหยาบแบบนี้ “ไม่เป็นไรค่ะ หนูรู้อยู่แล้ว” ตอนเขาจับมือเธอมันหลายครั้งมากมีเหรอจะไม่รู้ถึงความหยาบกร้านนี้ “รับได้ใช่ไหม?” ถ้าไอติมชอบผู้ชายสำอางคะแนนของเขาคงจะถูกตัดออกไปเกือบครึ่งเลยมั้ง “ได้สิคะ เสี่ยไม่ได้ไปฆ่าใครสักหน่อยที่จะรับไม่ได้” เธอบอกไปแค่นี้เขาก็ยิ้มกว้างทันทีแล้วถูกหลังเธอทั้งฉีดสเปรย์กันแดดนะไม่ได้ทา แต่ก็เอาเถอะถือว่าเป็นการเกลี่ยให้เข้ากับผิวมากขึ้น “อีกไม่นานก็วันเกิดเสี่ยแล้วหนูต้องมานะ” กลับจากที่นี่ไปประมาณแค่เดือนกว่าก็วันเกิดเขาแล้ว “อยากได้อะไรเป็นของขวัญไหมคะ?” เธอเอียงคอถามเพราะไม่รู้จริงๆว่าเขาอยากได้อะไร แต่เธอก็เตรียมไว้ให้แล้วนะเพียงแค่มันยังไม่เสร็จเพราะเป็นของทำมือ “เป็นหนูได้ไหมละ?” “ก็ไม่แน่ค่ะ ไปเดินเล่นกันเถอะค่ะ” เขาจับมือไอติมเดินเล่นตามชายหาดสีขาวแสนสวยที่นี่ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโอบไหล่แทนซึ่งไอติมก็เงยหน้ามามองด้วยดวงตาใสแป๋ว แต่ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากยิ้มให้ตามสไตล์ของเธอ รู้ไหมว่าทำแบบนี้มันเหมือนให้ความหวังขนาดไหน เขาก็คิดกับเธอหนักมากขึ้นไปหลายขั้น ระหว่างที่เดินเล่นเราคุยกันสารพัดจนเขารู้ว่าถ้าจะคบกับไอติมคงต้องคุยกับพี่ชายเธอก่อนเพราะนั่นคือคนที่ไอติมเชื่อฟังมากที่สุด แล้วอาร์มยังเป็นคนดูแลไอติมตั้งแต่เด็กจนโตขนาดนี้ ถ้าหากเดาไม่ผิดน่าจะโอเคนะเพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้แย่อะไร ทั้งสถานะที่โสดจริงแล้วนานมากด้วย สถานะทางการเงินก็ถือว่ามั่นคง นิสัยก็ดีมากด้วย อีกแค่เดือนกว่าๆก็จะครบหกเดือนที่เขาจีบเธอแล้ว เขาไม่มีสถานะชัดเจนสักอย่าง แต่ว่าเขาโคตรหวงมากเลยนะ “อีกนิดเราจะเป็นแฟนกันได้อยู่แล้วนะ” “ใช่ค่ะ อีกนิดเดียวเอง” “หนูพูดแบบนี้หมายความว่าไงบอกเสี่ยได้ไหม? หรือว่าเสี่ยต้องทำอะไรเพิ่มไหมหนูถึงจะใจอ่อนให้กันบ้าง” “ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ใจอ่อนแล้วนะคะ” “เหรอ? เสี่ยบอกใครได้ไหมว่าเราเป็นอะไรกัน” “กลับบ้านก่อนนะหนูจะให้คำตอบเรื่องของเรา เสี่ยฮายรอหนูได้ไหมแค่อีกไม่กี่วันทุกอย่างจะชัดเจน” เธอปล่อยมือเขาออกแล้วหันมาประคองหน้าหล่อให้สบตากัน “ทำไมต้องรอ…ตอนนี้เลยไม่ได้เหรอไอติม เสี่ยจริงจังนะให้ขอหนูพ่อแม่ของหนูเสี่ยก็กล้าทำ” เขารักเธอมากแล้วไม่อยากจะรออะไรทั้งนั้น แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจไอติมด้วย “คือ...หนู…” “หนูรู้สึกอะไรกับเสี่ยบ้างไหม?” “ถ้าหนูไม่รู้สึกอะไรหนูจะกล้าพาเสี่ยฮายมาด้วยเหรอคะ ถ้าหนูไม่รู้สึกอะไรเรื่องเมื่อคืนคงไม่เกิดขึ้น หรือแม้แต่ที่ผ่านมามันก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนูกำลังพยายามก้าวข้ามความกลัวของตัวเองอยู่ หนูรู้ว่าเสี่ยฮายอาจจะท้อแต่หนูก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองมากเหมือนกัน” เธอร่ายยาวให้เขารู้และไม่กล้าจะมองหน้าแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้น้อยใจขึ้นมาจนขอบตามันร้อนผาว เธอพยายามที่จะหนีจากฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนกันทุกครั้งที่อยากจะเปิดใจ เธอไม่ได้รักแฟนเก่าแล้วแต่จิตใต้สำนึกเกี่ยวกับความรักเตือนให้หยุดทุกสิ่งที่กำลังเป็นไป ความเจ็บปวดที่คงเหลืออยู่นั่นเกิดจากตัวเธอเองล้วนๆที่ไม่ปล่อยให้มีอิสระ สมองสร้างจินตนาการแสนน่ากลัวไม่หยุด แล้วยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหัวใจที่ไม่ยอมให้เวลารักษาบาดแผลที่คล้ายว่าฝังรากลึกเกินจะแก้ไขได้แล้ว รู้ไหมว่าบางครั้งก็กลัวเสี่ยฮายเหมือนกันนะ! “หนู…เคยพยายามจะลืมเสี่ยฮายหลายครั้งแล้ว หนูกลัวความรัก หนูกลัวว่าสักวันหนึ่งเสี่ยฮายจะเปลี่ยนไปเป็นคนที่ไม่รู้จัก หนูแค่ไม่อยากจะเสียใจ ไม่อยากร้องไห้ หนูรู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวแต่เวลาหนูรักใครหนูจะติดคนนั้นมาก ถ้าถึงวันนั้นเสี่ยฮายอาจจะรำคาญกันก็ได้” เธอรู้ตัวว่าน่ารำคาญขนาดไหน แต่จะทำไงได้ในเมื่อเธอไม่กล้าที่จะรักใครจริงๆ เสี่ยฮายเป็นคนดีมากที่เอาใจไปทีละนิดแล้วก็รู้สึกดีกับเขามาก เธอกล้าที่จะเรียกว่านั่นคือความรัก แต่หลายครั้งที่เธอเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียวเพราะความคิดฟุ้งซ่านไปหมด แล้วยังกลัวว่าตัวเองจะไม่เหมาะสมไม่คู่ควรกับเขาที่แสนดี ถ้าวันหนึ่งเราจับมือเดินไปด้วยกัน เขาจะอายใครไหมที่มาคบกับคนอย่างเธอ บางครั้งเธอยังไร้เดียงสาเรื่องความรักมากเกินไป แต่อยู่กับเสี่ยฮายแล้วมีความสุขมาก เขาส่ายหน้าเบาๆก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยด้วย แล้วจับมือเธอมาจูบแผ่วเบาจากนั้นก็เลื่อนมือไปลูบหัวปลอบใจเด็กที่ซึมจนน่าสงสาร เขาพอจะเข้าใจคนกลัวความรักอยู่นะเพราะแบบนี้ไงเขาถึงใจเย็นไม่เร่งรัดเธอสักนิด เขารอเวลาแค่เธอพร้อมเปิดใจให้กันมากกว่านี้ก็เท่านั้นเอง รู้ไหมว่าผู้ชายคนนี้มันรักเธอมากที่สุดเลยนะ อย่ากลัวกันเลยทูนหัว เขาก้มลงไปจูบริมฝีปากบางช้าๆอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้เธอตกใจจนเกินไป โดยที่ไม่มีการล่วงล้ำของลิ้นอุ่นเพราะมั่นใจว่าเธอยังไม่พร้อมแล้วอาจจะถอยห่างกันไป เขาทำตามใจตัวเองและเป็นห่วงเธอมากด้วยเช่นกัน ถึงในตอนนี้เราจะไม่มีสถานะอย่างชัดเจนและเปิดเผย แต่ว่าในสายตาคนอื่นที่ชอบแอบมองเงียบๆอย่างลูกน้องในตอนนี้เธอเป็นคนรักของเขาแล้วนะ “กลับไปค่อยบอกก็ได้เสี่ยจะรอ…รอได้เสมอแหละไอติม” เขาพูดชิดริมฝีปากสบตาเธอไม่กะพริบ “หนูขอโทษนะคะที่ทำให้เสี่ยฮายต้องรอนาน” เธอรู้สึกผิดจริงๆนะที่ไม่ชัดเจน แล้วยังให้ความหวังเขามากขนาดนี้ “ตอนนี้เราก็เหมือนคบกันแล้ว หนูไม่รู้สึกบ้างเลยเหรอ?” ทั้งกอด ทั้งจูบ ทั้งตามประกบตลอดแบบนี้บ้านเขาไม่เรียกว่าพี่น้องหรอกนะ แต่เรียกว่าคนรักที่แปลว่าอนาคตจะเป็นเมีย! “ก็รู้ค่ะ เสี่ยฮายน่ารักจังเลย แต่แปลกใจนะที่โสดมานานตั้งหลายปี” เขาเล่นโสดยาวขนาดนั้นมันก็น่าแปลกใจ แต่ว่าเธอไม่อยากจะถามหรือรื้อฟื้ออดีตหรอก ถ้าอยากเล่าเดี๋ยวคงรู้เอง “หนูเองก็โสดมานานเหมือนกันนี่” เป็นคนโสดที่ใจร้ายมาก แต่ต่อจากนี้หมดโอกาสไปใจร้ายกับใครแล้วนะเพราะว่าเขาไม่ยอมปล่อยมือเธอแน่นอน “กลับห้องพักเถอะค่ะ ตอนนี้แดดเริ่มแรงแล้วหนูง่วงนอน” “เสี่ยก็ง่วงเหมือนกัน เรา…นอนห้องเดียวกันได้ไหม?” “เอ่อ…” “อย่าคิดลึกสิ! เสี่ยไม่ได้คิดจะทำอะไรหนูนะ เราก็แค่นอนเหมือนครั้งนั้นแหละ” “ก็ได้ค่ะ แต่ว่าห้ามใครเห็นนะมันจะดูไม่ดี” “แน่นอนครับไอติม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD