บทที่2. แต่งงานมาครึ่งปีแล้วแถมไม่ได้นอนรวมเตียงเดียวกับเมียอีก

1453 Words
            ธีรภัทรยืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้อารมณ์รุ่มร้อนสงบลงด้วยน้ำเย็นที่ไหลผ่าน ทว่ามันก็ดูยากเย็นนักคงได้ทำเพียงใช้มือตัวเองลูบไล้บรรเทาแก่นกายตัวเองปลอบโยนมันไป             แต่งงานมาครึ่งปีแล้วแถมไม่ได้นอนรวมเตียงเดียวกับเมียอีก ซ้ำร้ายยังไม่ได้มีอะไรกันอีกด้วย             จะทำยังไงได้เล่า? ในเมื่อเขาเองเป็นคนเสนอให้เธอเองนี่  จะไปโกรธอะไรได้ ก็เมียสาวคนสวยยังไม่คุ้นเคยกับผัวอย่างเขานี่นะ             “น้องบัว น้องบัวของพี่”             มือใหญ่ทำงานอย่างรู้หน้าที่  เจ้าน้องชายของเขาแทนที่จะสงบลงง่ายๆ ยิ่งคิดถึงเมียสาวแสนสวยมันกลับยิ่งแข็งขืนเต็มไม้เต็มมือ ใบหน้าคมหลับตาพริ้มคิดถึงแต่เรือนร่างในชุดนอนน่ารักลายลูกเป็ดสีเหลือง แต่ทรวงอกอิ่มน่าหลงใหลนั้นก็ดันเสื้อนอนติดกระดุมจนเขาใช้มือลูบคลำ             ชายหนุ่มเคยเจอสโรชาตั้งแต่เธอยังใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลาย  ตอนนั้นเขาเพิ่งเรียนจบและกำลังหางานทำอยู่พอดี เขาพบเธอก็เพราะมาหาอาดาวฉายซึ่งตอนนั้นคุณมนตรีกำลังติดพันอยู่   เพียงพบกันแค่ครั้งเดียวเขาก็ประทับภาพเธอไว้ในหัวใจจนยากจะลบเลือนได้ แม้ว่าช่วงที่สโรชาไปเรียนต่างประเทศเขาจะมีผู้หญิงอื่นบ้างแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะหัวใจของเขาก็ยังคงรักเพียงเด็กสาวคนนั้นจนวันที่เรารู้ว่าเธอกำลังจะกลับเมืองไทยซึ่งตอนนั้นเขาก็ทำงานกับคุณมนตรีเต็มตัวแล้ว             แล้ววันหนึ่งจู่ๆอาดาวฉายก็พูดกับเขาว่า...             “ชอบลูกเลี้ยงของอาใช่ไหม”             “อาดาว...อาพูดอะไรออกมาครับ”               ชายหนุ่มจำได้ว่าวันนั้นอาดาวฉายพูดลอยๆ แต่มันกระทบใจเขา  เพราะอาดาวฉายช่วยแนะนำทำให้เขาได้ทำงานแผนกกฏหมายบริษัทของคุณมนตรี เขาไม่สนหรอกใครว่าจะว่าเขาเป็นเด็กเส้น หากแต่ความสามารถที่เขามีมันจะชัดเจนที่สุดว่าเขาทำงานเป็น และเป็นคนทำงานจริง             “อย่ามาทำเป็นอายเลย อาดูออก” ดาวฉายหัวเราะเสียงใสใส่จริตแต่พองาม รักษาระยะห่างเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่า “อดทนรออีกหน่อย ยังไงอาไม่ทำให้หลานชายคนดีผิดหวังแน่”             “แต่น้องบัวจะชอบผมหรือครับ”             “ชอบหรือไม่ชอบไม่ใช่ประเด็น ยังไงอาทำให้ธีร์ได้แต่งงานกับหนูบัวได้ก็แล้วกัน”             ธีรภัทรไม่รู้ว่าอาดาวฉายไปทำยังไงถึงทำให้คุณมนตรีเป็นฝ่ายขอให้เขาแต่งงานกับสโรชา มีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียวคือ “แต่งเข้าบ้าน” ฝ่ายหญิง               “พ่อมีลูกสาวคนเดียว ไม่อยากให้ไปอยู่ไกลหูไกลตา”             “ได้ครับ คุณมนตรี”             “อุ้ย! ได้ไงคะหลานธีร์ ต้องเรียกคุณพ่อซิคะ”             “ครับ คุณพ่อ”             หลังจากนั้นเขาก็เฝ้านับวันรอที่สโรชากลับเมืองไทย เขาเป็นคนไปรับเธอที่สนามบินเอง ไม่เจอกันสี่ปีเธอกลายเป็นสาวสะพรั่ง ทรวงทรงองค์เอวเห็นชัดว่าเป็นสาวเต็มตัว ยั่วยวนมีเสน่ห์จนแทบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มีเพียงรอยยิ้มกับแววตาที่ดูสดใสไร้เดียงสาที่ทำให้เขาคาดหวังว่าเวลาที่เธออยู่ต่างประเทศนั้นจะไม่มีหนุ่มๆมาเกาะเกะเธอ             แม้สโรชาจะดูไม่เต็มใจที่ต้องแต่งงานกับเขา แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธถึงขั้นมีท่าทีรังเกียจหรือต่อต้าน เธอเป็นเด็กหัวอ่อนอย่างที่คุณมนตรีและอาดาวฉายพูดจริงๆ และเท่าที่อยู่ใกล้ชิดกับเธอมาก็ไม่เห็นว่าเธอมีหนุ่มหน้าไหนมายุ่งเกี่ยวในเชิงชู้สาว               การให้เวลากับสโรชา-เมียสาวแสนสวยนั้นเป็นเรื่องที่เขากระทำอย่างสุภาพบุรุษ ทว่าในเบื้องลึกแล้วเขาก็เป็นเพียงผู้ชายปรกติคนหนึ่ง อยากขึ้นคร่อมแล้วครอบครองเธอทุกตารางนิ้วบนเรือนร่างนั้นเป็นของเขาเท่านั้น             “ซี๊ดดดด บัวจ๋า บัวของพี่ โอ้วววว”             น้ำขาวขุ่นกระเฉาะออกเปื้อนเปรอะมือของตนเอง นั้นแหละ ความสงบที่แท้จริงถึงกลับมา  เขาจะอดทนกับเธอได้สักเท่าไหร่กันนะ ธีรภัทรได้แต่ถอนหายใจหนักๆ จัดการชำระล้างคราบคาวออกจากตัวหยิบผ้าขนหนูมาพันท่อนล่าง แล้วก้าวออกมาจากห้องน้ำ เพียงเงยหน้าขึ้นเขาก็เห็นร่างของสโรชาเข้ามาในห้องนอนของเขาพอดี              “น้องบัวมาเอาอะไรหรือครับ”              “บัวเอาชุดทำงานของพี่ธีร์มาให้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มแล้ววางชุดสูทของเขาลงบนเตียง ห้องนอนของเขากับเธอห่างกันไม่เท่าไหร่ ชั้นสองของคฤหาสน์ ถ้าไม่มีคำสั่งของเจ้านาย  คนรับใช้จะไม่มีใครได้ขึ้นมา             “ให้เด็กเอามาให้ก็ได้” เขายิ้มแล้วเดินเข้าไปใกล้ได้กลิ่นหอมละมุนของหญิงสาว และหากเขามองไม่ผิด ใบหน้าหวานเริ่มแดงระเรื่อเมื่อเขาเข้าไปใกล้             “แค่นี้บัวทำให้พี่ธีร์ได้ค่ะ”              “ขอบคุณครับ” เขาโน้มหน้าลง หอมแก้มเธอเบาๆ หญิงสาวเบิกตากว้างอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเม้มปากแน่น             “โกรธพี่หรือเปล่า”             หญิงสาวจ้องมองเขาแล้วส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ เธอจะโกรธเขาได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฏหมายของเธอนี่นะ             “ถ้าไม่โกรธ พี่ขอหอมอีกทีได้ไหม” คนได้คืบจะเอาศอกยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่เพียงแค่โน้มหน้าลงไป สโรชาก็ก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าว ทำให้ธีรภัทรชะงักแล้วหัวเราะเก้อๆ             “พี่จะรอน้องบัวนะคะ” เขามักพูดคะขากับหญิงสาวเสมอ             “ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงแผ่ว             “เอ่อ...พี่ธีร์พอมีเวลาว่างสักวันไหมคะ”             “ฮืม...น้องบัวมีอะไรให้พี่ช่วยล่ะ”             “บัวอยากไปดูบ้านเก่าของคุณแม่ค่ะ”             “อ้อ! ที่ดินแปลงนั้นเอง” เขาเป็นทนายของตระกูลเป็นคนติดต่อประสานงานเองแค่นี้จะไม่รู้ได้อย่างไร             “บัวไม่คุ้นเส้นทางจะไปเองก็กลัวหลงค่ะ”             “ได้ซิ เอาเป็นพรุ่งนี้บ่ายๆได้ไหมครับ พี่พาไปเอง”             “ขอบคุณค่ะ”             “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ เราเป็นผัวเมีย เอ๊ย สามีภรรยากัน เรื่องแค่นี้พี่ทำให้ได้”             สโรชาอ้าปากจะพูดขอบคุณอีกครั้ง แต่เมื่อนึกได้ว่าเขาเป็นคนบอกว่าไม่ต้องพูด เธอก็ยิ้มเขินๆ แล้วชี้นิ้วไปทางประตู             “บัวออกไปก่อนนะคะ”             “ครับ”             เมียสาวเดินออกไปแล้ว แต่กลิ่นหอมละมุนยังรายล้อมรอบตัวเขา  ไอ้อะไรที่คิดว่าสงบมันกลับดีดเด้งขึ้นมาอีก  ธีรภัทรก้มมองแก่นกายตัวเองที่มันตั้งเด่ดันผ้าขนหนูออกมานั่นอย่างประหลาดใจ  นี่เขาเพิ่งจัดการมันไป มันกลับแข็งขันขึ้นมาอีกแล้ว แค่ได้กลิ่นยังเป็นขนาดนี้ ถ้าได้เอาเข้าไปใส่ข้างในมันจะยอมสงบได้ง่ายๆอย่างนั้นหรือเปล่าหนอ             สโรชาเดินลงมาจากห้องนอนของสามี ห้องของเขากับเธอใกล้กันแต่ไม่ถึงกับติดกัน เธอชอบความใจดีและอ่อนโยนของเขา  อย่างน้อยเขาก็ไม่ฝืนใจให้ทำอะไรที่เธอยังไม่พร้อม หญิงสาว หมายถึงหน้าที่ของภรรยา ธีรภัทรอายุมากกว่าสโรชา 6 ปี เขาดูเป็นผู้ชายสุภาพอ่อนโยน และที่สำคัญเป็นหลานของดาวฉายแม่เลี้ยงของเธอเองด้วย เมื่อคุณพ่อก็เห็นดีเห็นงามขนาดนั้น เธอไม่กล้าขัดใจจึงยอมแต่งงาน เป็นงานแต่งงานที่ดูสมบูรณ์แบบทุกอย่าง แต่เธอกลับเหนื่อยและเครียดจนเป็นลมตั้งแต่ก่อนส่งตัวเจ้าสาว หลังจากแต่งงานแล้ว  เธอคงเป็นความทรงจำอันเลวร้ายของเขาเลยทีเดียว ก็มีอย่างที่ไหน คืนแรกของชีวิตคู่ เขาก็ต้องคอยดูแลเช็ดเนื้อตัวแถมชงยาหอมให้กินแก้วิงเวียนเสียอีก งานวันแต่งงานของเธอ คนที่ดูจะมีความสุขที่สุดอาจไม่ใช่เจ้าสาวอย่างเธอ แต่น่าจะเป็นแม่เลี้ยงสุดแซ่บที่ใส่ชุดราตรียาวเข้ารูปสีทองอร่าม และต้องยอมรับว่าวันงานแต่งงานนั้นแม่เลี้ยงดูจะเด่นกว่าเจ้าสาวในชุดกระโปรงบานฟู่ฟ่องเหมือนตุ๊กตาเสียอีก แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าสายตาของเจ้าบ่าวที่ทอดมองอย่างอ่อนโยน   
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD