บทที่3. ย้ายเข้าบ้านผู้หญิง

1715 Words
หลังานแต่งงาน ธีรภัทรก็ย้ายเข้ามาอยู่กับสโรชาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของพ่อ พ่อดูจะมีความสุขมากที่ลูกเขยมาอยู่บ้านเดียวกันและยังมีลูกสาวอยู่ด้วย ราวกับครอบครองสุขสันต์ก็ไม่ปาน “แกนี่มันเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ แต่งงานกันเป็นผัวเมียกันแล้วจะแยกห้องนอนไปทำอะไรหึ!” พ่อดุแกมตำหนิลูกสาวคนเดียวที่เอาแต่นั่งไหล่ลู่อยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น “อย่าไปดุน้องบัวเลยค่ะคุณ ผู้หญิงเราก็อย่างนี้แหละ ยังเขินๆ อายๆ อยู่  อยู่ไปสักพักก็ชิน คราวนี้ถ้าน้องบัวตัวติดหนึบกับตาธีร์แล้วล่ะก็ คุณจะมาบ่นโอดครวญที่หลังไม่ได้นะคะ” ดาวฉายหัวเราะคิกคักทำเอาสามีรุ่นพ่อหัวเราะตามไปด้วย หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ธีรภัทรเป็นคนเสนอเองว่าจะนอนอีกห้องจนกว่าเธอจะคุ้นเคยกับเขา แต่พ่อไม่ได้ดุหรือบ่นอะไรธีรภัทรสักนิดเดียว เป็นเธอต่างหากที่ทำอะไรก็ไม่ถูกใจผู้เป็นพ่อสักอย่าง ผิดกับธีรภัทรที่พ่อออกจะเอ็นดูราวกับเป็นลูกชายแท้ๆของตัวเอง เธอยังอยู่บ้านพ่อเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือลูกเขยคนโปรดของพ่อ “เห็นไหม ตาธีร์เขาเป็นคนดีขนาดไหน ยอมแต่งเข้าบ้านผู้หญิงแบบนี้” “ค่ะพ่อ” สโรชาได้แต่ใช้ชีวิตให้เป็นปกติพ่อไม่เคยให้เธอเข้าไปยุ่งงานในบริษัทแม้ว่าเธออยากช่วยมากแค่ไหนก็ตาม พ่อก็มักจะพูดเสมอว่ามันไม่เหมาะกับเธอ หญิงสาวจึงมักอยู่กับงานตนเองที่รัก คือแปลหนังสือและเธอชอบวาดรูปสนใจด้านจิตกรรมเป็นพิเศษ เวลาที่ได้อยู่หน้าเฟรมภาพ เหมือนโลกทั้งโลกเป็นของเธอ ธีรภัทรเองก็ไม่ได้เข้ามาแตะต้องการใช้ชีวิตของเธอ เขาไปทำงานทุกวันและกลับมาตอนเย็นหรือค่ำ บางคืนเธอก็หลับไปก่อนที่เขาจะเข้าบ้านเสียอีก                เอาเถอะ ถือว่าชีวิตแต่งงานของเธอยังดีกว่าใครอีกหลายๆคนที่เธอเคยรับรู้มา              ขณะเดินผ่านห้องหนังสือซึ่งกลายเป็นห้องทำงานของเธอไปแล้ว หญิงสาวได้กลิ่นหอมของดอกไม้มาจากห้องนั้น ใช่ มันมาจากห้องหนังสือจริงๆ เพราะเพียงแค่เธอเดินผ่านบานประตูที่เปิดค้างไว้นั้น ปลายจมูกของเธอก็สัมผัสได้ว่ามีกลิ่นหอมนั้นโชยออกมา             เธอทำจมูดฟุดฟิดแล้วเดินไปตามกลิ่นที่สัมผัสได้ ร่างเพรียวบางต้องมาหยุดที่โต๊ะทำงานของตัวเอง สายตาของเธอจ้องมองไปที่กระดาษเก่าบนโต๊ะแล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นสูดดม มันมาจากโฉนดที่ดินอีกแล้ว              “น้องบัว”             “คะ” สโรชาสะดุ้งแล้วหันไปตามเสียงเรียก สามีหนุ่มของเธอยืนอยู่ที่ประตูมองเธออย่างแปลกใจแต่ก็ยิ้มให้             “พี่นึกว่าบัวจะรอที่ห้องทานอาหารแล้วเสียอีก”             “บัว...บัวกำลังจะไปค่ะ”  หญิงสาวเห็นรอยยิ้มของเขาแล้วก็ลองทำใจกล้าเอ่ยปากถาม “พี่ธีร์มาตรงนี้เดี๋ยวซิคะ”             “มีอะไรครับ” ธีรภัทรเดินเข้ามาใกล้  เมื่อยืนเกือบจะชิดกันทำให้เห็นได้ชัดว่าภรรยาตัวน้อยของเขาตัวเล็กแต่หน้าอกหน้าใจเกินตัวชะมัด             “พี่ธีร์ได้กลิ่นอะไรไหมคะ” เธอยื่นโฉนดที่ดินให้เขา  ชายหนุ่มมีท่าทีประหลาดใจแต่ก็ก้มลงสูดดมกลิ่นกระดาษในมือของเธอ             “ก็กลิ่นกระดาษเก่านี่ครับ หรือน้องบัวเป็นภูมิแพ้ แพ้ฝุ่นอะไรหรือเปล่า”             “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” หญิงสาวส่ายหน้าไปมาแล้ววางโฉนดที่ดินไว้อย่างเดิม “จมูกบัวมีปัญหาแน่ๆเลย”             “กลิ่นเดียวที่พี่ได้กลิ่นตอนนี้ก็มีแต่กลิ่นหอมของน้องบัวเท่านั้นละครับ” เขามองด้วยแววตากรุ่มกริ้ม หญิงสาวมีทีท่าทีอึดอัดทำให้เขาแสร้งหัวเราะออกมา             “ไปทานเช้ากัน พี่ต้องไปประชุมตอนสิบเอ็ดโมงอีก”             “ค่ะ”             ชายหนุ่มโอบไหล่ภรรยาสาวให้เดินออกจากห้องไปพร้อมกัน บอกตัวเองให้อดทนแต่ก็ไม่รู้จะทนได้นานแค่ไหน เนื้อกายก็นุ่มนิ่ม ผิวกายก็หอมกรุ่น ยิ่งท่าทางไร้เดียงสาด้วย ยิ่งเย้ายวนจนเขาอยากจะจับเธอกินเป็นอาหารทั้งเช้ากลางวันเย็นและก่อนนอน. ชายวัยเจ็ดสิบนั่งอ่านเอกสารในห้องนั่งเล่นของคฤหสาน์  แม้จะวัยเจ็ดสิบแล้วแต่หุ่นยังแน่นเพราะออกกำลังกายดูแลตัวเองดีมาตลอด ภรรยาสาวคนสวยเดินเข้ามาหาด้วยชุดนอนบางเบาในมือประคองถาดเครื่องดื่มเข้ามาบริการอย่างเอาอกเอาใจ             “ให้เด็กยกมาก็ได้” คุณมนตรีพูดขึ้นทั้งยังที่ไม่เงยหน้าขึ้นมา ดาวฉายหัวเราะคิกคัก นั่งลงข้างๆ รินน้ำชาสมุนไพรให้สามีที่อายุมากกว่าสามสิบกว่าปี             “ไม่ได้หรอกคะ หน้าที่ของดาวดูแลป๋าคนเดียว ดาวไม่ให้ใครมารับใช้ป๋าหรอกค่ะ”             คุณมนตรีเลิกคิ้วแล้วก็มองมือเรียวที่ยื่นมาวางบนหน้าท้อง มือนุ่มกับสัมผัสแผ่วๆก็ปลุกเจ้าตัวน้อยใต้กางเกงให้ตื่นได้ไม่ยากนัก             “หนูดาวอยากได้อะไรอีกล่ะ”  มือที่จับเอกสารอยู่วางลงพร้อมกับเอนหลังไปพิงพนักโซฟาด้วยท่าท่าทางผ่อนคลาย ปล่อยให้มือนุ่มขยับเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงออกก่อนที่มือนั้นจะสอดเข้าไปลูบไล้แก่นกาย             “โธ่ เมียแค่อยากเอาใจผัวไม่ได้หรือคะ”              “แล้วหนูดาวไม่อายหรือไง มีผัวแก่อย่างนี้” ปากพูดไปอย่างนั้นแต่เอนกายหลับตา ปากก็ครางซี๊ดด้วยความเสียวซ่านที่เมียสาวช่างเอาอกเอาใจ             “แก่แต่ยังฟิต ดีกว่าหนุ่มๆ ที่นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำก็จบเกมซะแล้ว”  ดาวฉายเลื่อนตัวลงคุกเข่านั่งกับพื้น  แยกสองขาของเขาออกงัดเอาสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้กางกางชั้นในออกมาแล้วก้มหน้าแลบลิ้นเลียแท่งเนื้อราวกับเด็กน้อยดูดเลียไอติม มือใหญ่จับศีรษะของหญิงสาวขยุ้มผมของเธอ “แรงอีก ป๋าชอบ” ดาวฉายรู้จักกับมนตรีเมื่อห้าปีก่อน เธอเป็นลูกสาวคนเล็กในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่พ่อแม่ลูกทั้งหมดเก้าคน ไม่น่าแปลกใจนักหรอกที่เธออายุหากจากหลานชายคนโตไม่เท่าไหร่  เพราะพี่ชายคนโตที่น้องๆย่ำเกรงมีเมียตั้งแต่วัยรุ่น พี่โตมรทำตัวเหมือนพ่อมากกว่าพ่อแม่เสียอีก คนที่ค่อยดุด่าว่ากล่าวน้องๆ ได้ก็มีแต่พี่โตมรเท่านั้น อาจเพราะเป็นพี่คนโตที่ต้องเสียสละตัวเอง ทำงานหนักส่งเสียให้น้องๆ ได้เล่าเรียน มีชีวิตที่ดีและคอยดูแลกันและกัน  บางคนเรียนจบทำงานเป็นครู บางคนรับราชการ บางคนค้าขาย มีแต่เธอนั้นแหละที่เรียนไม่จบระดับปริญญา ซ้ำยังเป็น ‘ตัวมีปัญหา’ ของบ้านเป็นติ่งเนื้อที่พี่ชายรังเกียจแต่ตัดทิ้งไม่ได้ ดาวฉายรู้ว่าตัวเองรักสนุก ชอบแต่งตัวและเธอไม่ชอบทำงานหนักเหมือนบรรดาพี่ๆ ของเธอ หญิงสาวเคยมีแฟนหนีออกจากบ้านมาอยู่กับแฟน ทำงานในผับบาร์ เป็นพริ้ตตี้สลับกับโคโยตี้ตามแต่วาระน้ำเงินในกระเป๋า สุดท้ายเธอก็รู้ว่า ‘คนรัก’ ไม่ใช่คำตอบของชีวิต ‘เงิน’ ต่างหากที่จะบันดาลทุกสิ่งให้ แล้วจะแปลกอะไรหากเธอจะได้เงินจากความสุขในแบบฉบับของเธอ “แก่คราวพ่อยังมาเที่ยวผู้หญิงอีก”     ดาวฉายได้ยินพี่เจย์บ่นแบบนั้น  บรรดาสาวไซด์ไลน์ที่ทำงานแบบเดียวกับเธอมักเลือกแขกไม่ได้ แขกแบบเสี่ยๆ มีมามาก กระเป๋าหนักแต่แก่ หัวล้าน ลงพุง ไม่แปลกใจหรอกที่สาวไซดไลน์มักมีแฟนเด็กก็เอาไว้ชดเชยยามเสร็จบริการเสี่ยกระเป๋าหนักทั้งหลาย “ดาวรับได้นะพี่” “เอางั้นเหรอดาว” พี่เจย์เป็นโมเดลลิ่งและยังเป็นเอเจนซี่คอยส่งเด็กๆ ให้ลูกค้าด้วย “จะเป็นอะไรไปคะ” ดาวฉายทำหน้างงๆ “ถ้าเค้าจ่ายค่าตัวดาวไหว ดาวก็รับงานอยู่แล้ว” “คนนี้สายเปย์ ถ้าถูกใจมีทิปให้ด้วย”     “แล้วมีอะไรที่ดาวต้องรู้เป็นพิเศษไหมคะ” “ไม่จ๊ะ ถ้าอยากได้อะไรเค้าจะบอกดาวเอง” ดาวฉายไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก พี่เจย์ส่งสถานที่นัดพบเป็นห้องในโรงแรมระดับสามดาว เธอไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะรับลูกค้ามาหลากหลายแนวแล้ว บางคนก็หิ้วเธอไปต่างจังหวัดก็มี   หญิงสาวมาถึงและพบว่ามีผู้ชายรออยู่ก่อนแล้ว “ขอโทษนะคะ หนูมาช้าไปหน่อย” “ไม่เป็นไร ฉันมาถึงก่อนเวลา เดี๋ยวนะ”     หญิงสาวออกจะแปลกใจที่ลูกค้าดูเหมือนจะยุ่งๆ กับงานในหน้าจอโน้ตบุ๊ค ข้อมูลที่ได้มาคือลูกค้าวัยหกสิบห้า อายุขนาดนี้ดูใช้คอมพิวเตอร์คล่องกว่าเธอเสียอีก เพราความอยากรู้อยากเห็นจึงเดินไปใกล้ๆ แล้วชะเง้อมองดูในหน้าจอโน้ตบุ๊คเครื่องบางเฉียบรุ่นใหม่ล่าสุด “มานั่งนี่ก่อน” มือใหญ่ตบที่โซฟาทำให้ดาวฉายเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าลูกค้าหนุ่มใหญ่วัยเกษียณคนนี้ แม้จะมีผมสีเทาแต่กลับดูดี ภูมิฐาน แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ไม่เหมือนเสี่ยๆ ที่เธอเคยเจอมา “โอเค เรียบร้อย”  “คะ?” “โทษที กดสั่งซื้อหุ้นไปนะ” “ดึกอย่างนี้ก็เล่นหุ้นได้หรือคะ” “ตลาดต่างประเทศ” พูดจบก็พับโน้ตบุ๊คแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา ใช้สายตาสำรวจสินค้าที่นั่งอยู่ใกล้ๆ “อยากให้ทำอะไรดีคะ” ดาวฉายชินกับสายตาแบบนี้แล้ว “มายืนตรงหน้าแล้วถอดเสื้อผ้าออกให้ดูหน่อย” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD