ตอนที่ 1
บทนำ
เสียงฟ้าร้องคำรามดังไปทั่วพื้นปฐพี สายอสุนีบาตฟาดลงที่ต้นไม้อายุนับร้อยปี กลิ่นไหม้ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เพียงครู่เดียวสายฝนก็สาดกระหน่ำลงมา เหมือนกับว่าเป็นลางบอกเหตุบางอย่าง ประตูหน้าเรือนท้ายตำหนักถูกกระชากเปิดออก ฉีกงกงเดินเข้ามาหยุดอยู่กลางห้อง แววตาเย้ยหยันมองสตรีสูงศักดิ์ที่บัดนี้ไม่หลงเหลือความจองหองเหมือนเช่นในอดีต
“พระชายากระหม่อมนำข่าวสกุลหลิวมาบอก” หลิวอวี่หนิงค่อยๆ หันกลับไปมองช้า ๆ ถึงจะพูดว่ามองแต่นางก็มิได้เห็น นางใช้เพียงสัมผัสทางหูที่ได้ยินเท่านั้น
สายฟ้าสาดส่องลงมาอีกครั้งภายในห้องที่มืดมิดพลันสว่างขึ้น ฉีกงกงก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาเบิกกว้างมองสตรีที่นั่งบนเก้าอี้ ใบหน้าที่เคยงดงามกลับขาวซีด ดวงตาขุ่นมัวไร้แวว เส้นผมที่เคยเงางามแห้งกระด้างจับตัวกันเป็นก้อน นางค่อย ๆ อ้าปากออกช้า ๆ และพยายามเปล่งเสียงพูด
“ข่าวอะไร” เสียงแหบพร่าเอ่ยออกมา อาจเพราะว่านางมิได้พูดคุยกับผู้ใดนานมากแล้ว น้ำเสียงจึงฟังแหบแห้งราวกับคนแก่
“ท่านแม่ทัพหลิวตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ร่างอรชร นางค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้ มือเรียวยื่นออกไปข้างหน้าปัดป่ายไปมา ฉีกงกงเบ้ปากก่อนจะขยับเท้าถอยหลัง
“พระชายามองไม่เห็นก็ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมาพ่ะย่ะค่ะ”คนเราก็เท่านี้ ผู้ใดจะไปคิดว่าสกุลหลิวที่สูงส่งจะตกอับเช่นทุกวันนี้
“ตาย!...พี่ชายข้า ตายได้อย่างไร!”
“แม่ทัพหลิวแอบซุกซ่อนกองกำลังฝึกทหารลับหลังฝ่าบาทเท่านั้นยังไม่พอ แม่ทัพหลิวยังเหิมเกริมลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท พระชายาทรงเป็นคนฉลาด เช่นนั้นก็ย่อมคิดได้ว่าโทษของกบฏ สมควรตายหรือไม่”
กบฏหรือช่างหน้าไม่อายนัก สกุลหลิวจงรักภักดีมาทุกรุ่นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ไม่คาดคิดว่าวันนี้พี่ชายนางจะถูกฐานะกบฏ สวมลงบนศีรษะ ช่างน่าขำ ลอบปลงพระชนม์เช่นนั้นหรือ พี่ชายนางมีเหตุผลใดต้องทำเช่นนั้นหลิวอวี่หนิงยกยิ้มเย้ยหยันออกมา
“ฉีกงกงเจ้าคงไม่คิดจะเข้ามาบอกข้าเพียงอย่างเดียวกระมัง”
“กระหม่อมถึงบอกว่าพระชายาเป็นคนฉลาด เช่นนั้นพระชายาจะรอสิ่งใดอยู่เล่าพ่ะย่ะค่ะจะทนอยู่กับความอัปยศนี้ไปเพื่อสิ่งใด รอสิ่งใดอยู่หรือ มิสู้จากไปอย่างสงบเถิด” หลิวอวี่หนิงเซถอยหลังดวงตาเบิกกว้าง นางก้าวล้มลงไปนั่งบนพื้นที่สกปรก
“ข้าต้องการพบกู่เหว่ยหยวน ไปตามเขามาพบข้า!!..” นางแค่นเสียงออกมาทีละคำ มือเล็กกำเข้าหากันแน่น
“เจ้าคู่ควรจะพบองค์ชายหรือ หลิวอวี่หนิงเจ้าอย่าได้เรื่องมากอยู่เลย หากพระองค์อยากพบเจ้าก็คงยอมมาพบไปนานแล้ว ดวงตาเจ้ามืดบอดพระองค์ยังไม่ยอมให้หมอหลวงเข้ามารักษา เรื่องแค่นี้คนฉลาดอย่างเจ้าจะคิดมิได้หรือ”
“ฉีกงกงอย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย จัดการได้แล้ว”หลิวอวี่หนิงเงยหน้าขึ้นไปตามเสียง
เสียงนี้นางจำได้ดี เป็นอินจูหลี
หึ!!..สตรีชั่วช้านางนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนั่นนะสินะองค์ชายสี่พระสวามีนางจะเข้ามาพบนางหรือ เกรงว่ายามนี้แม้แต่ชื่อของนางเขาก็ไม่อยากจะได้ยินให้ระคายหู
“พ่ะย่ะค่ะพระชายารอง”ฉีกงกงพยักหน้าให้นางกำนัลร่างใหญ่เดินเข้าไปกดตัวหลิวอวี่หนิ่งให้แนบลงกับพื้น อินจูหลีถอยหลังออกมา นางคว้าเอาแจกันใบใหญ่โยนกระแทกผนังห้องจนแตกกระจาย และหยิบเอาชิ้นที่แหลมคมยื่นไปให้ฉีกงกง
“พระชายาเอกหลิวอวี่หนิงได้ยินเรื่องของพี่ชายจึงได้อับอายเป็นอย่างมาก ชีวิตนี้ผิดต่อบรรพบุรุษ ผิดต่อราชวงศ์ไท่กู่จึงได้ปลิดชีพตนเอง น้อมรับความผิดร่วมกับพี่ชาย”สิ้นเสียงอินจูหลี ฉีกงกงก็กดเศษแจกันที่ลำคอระหงก่อนจะลากเป็นทางยาวเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากบาดแผล
หลิวอวี่หนิงไม่คิดจะดิ้นรน ร่างอรชรกระตุกเกร็ง ภาพในวันวานย้อนเข้ามา หากวันนั้นนางไม่ตกหลุมรักเขา หากนางไม่หลงรักกู่เหว่ยหยวน พี่ชายเพียงคนเดียวของนางก็คงจะไม่ตาย สกุลหลิวก็คงจะไม่ล่มสลาย เสียดายที่โลกนี้ไม่มีคำว่าหาก ไม่อย่างนั้นครอบครัวนางคงไม่จบสิ้นลงเช่นนี้ นางไม่ยินยอม นางจะต้องตายไปอย่างคับข้องใจแบบนี้หรือ ดวงตาขุ่นมัวปิดลงช้า ๆ โชคดีเหลือเกินที่ดวงตานางถูกพิษจนมืดบอด มิต้องทนเห็นใบหน้าคนเหล่านี้
‘ทั้งชีวิตของข้า หากจะผิดก็คงเป็นเพราะหลงรักบุรุษชั่วช้าอย่างท่าน กู่เหว่ยหยวน ข้าขอให้ท่านโดนเหมือนดังที่ข้าโดน ไม่ว่าจะกี่ชาติภพ อย่าได้เจอกันอีกเลย’