หุบเขาเงาเมฆเคยเป็นที่อยู่ของชาวบ้านหมู่บ้านวังเมฆแต่ก่อนเคยสงบสุขร่มเย็นไม่เคยมีใครรุกรานแต่ยามนี้กลับมีคนจากวังมารมาก่อกวนเพราะสาเหตุใดนั้นยังคงไม่แน่ชัดและเป็นปริศนาที่พวกเขากำลังหาคำตอบอยู่
"ท่านเย่จะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะเราไม่อาจยันศึกได้ด้วยตัวเองแล้ว" เสียงของผู้อาวุโสไป่ถามหัวหน้าหมู่บ้านที่ยังคงนั่งนิ่งไม่แสดงสีหน้าใดๆ
"หากเรายังช้าอย่างนี้มีหวังที่นี่คงกลายเป็นสุสานเราต้องการความช่วยเหลือจากหัวเมืองใหญ่นะ"
เย่หลงน้องชายของเย่อู๋พยายามพูดให้พี่ชายขอความช่วยเหลือจากหัวเมืองใหญ่เพราะศึกครั้งนี้หนักหนานักไม่อาจต้านด้วยกำลังแค่คนของตน
"ข้าคิดว่านี่อาจเป็นกลลวงที่อยากให้เราขอความช่วยเหลือส่งไปที่หัวเมืองทหารของหัวเมืองใหญ่จะได้ออกมาและกำลังที่อยู่ในเมืองก็จะน้อยลงและกลายเป็นจุดอ่อนให้ศัตรูที่อยู่มุมมืดอาศัยโจมตี"
คนทั้งสองเมื่อได้ฟังก็เกิดความตระหนักได้ถึงผลที่ตามมาเจ้าเมืองตงโฉถือเป็นบุรุษที่ห้าวหาญและยังเป็นนักรบคนหนึ่งถ้าได้ข่าวคงรีบปรี่ออกมาช่วยชาวเมืองของตนแน่นอน
"หนทางข้างหน้าคงต้องให้สวรรค์เป็นคนลิขิตแล้ว"
ผู้เฒ่าไป่เอ่ยออกมาอย่างจำนนเขาก็ไม่อยากเป็นหมากเบี้ยของคนชั่วหากจะต้องตายก็ขอตายอย่างมีเกียรติ
ทางด้านของเฒ่าเจ้าเล่ห์หลี่ก็ได้วางแผนสองต่อไปเขาเห็นโอกาสจากเรื่องที่หมู่บ้านเมฆถูกล้อมโดยปีศาจถึงยังไม่ส่งสารขอความช่วยเหลือยังไงตงโฉก็ต้องออกไปช่วยแน่นอน
"ข้าจะกำจัดเจ้าและขึ้นครองเมืองแทน5555555"
ความคิดของเขามีแต่เรื่องชั่วๆหลั่งไหลออกมาทางสีหน้าเหล่าคนสนิทยังแอบหวั่นใจในความเห็นแก่ตัวของเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนี้
"นายท่านครับพวกคุณหนูถูกคนลอบทำร้ายตอนนี้ท่านหมอจินกำลังทำการรักษาอยู่ห้องโถงขอรับ"
คนรับใช้รีบมาส่งข่าวให้นายของตนเรื่องที่เหล่าคุณหนูถูกลอบทำร้ายกำลังเป็นที่นินทาของชาวบ้านเพราะชาวบ้านต่างรู้จักนิสัยที่เย่อหยิ่งของเหล่าคุณหนูพวกนั้นไม่รู้ว่าไปอวดดีใส่ใครจึงโดนเล่นงานอย่างนี้
สีหน้าของเฒ่าหลี่เดี๋ยวซีดเดี๋ยวดำคล้ำขณะรีบเดินไปดูอาการของลูกๆของตน ทันทีที่เห็นเขาได้แต่รู้สึกโกรธเกรี้ยวในใจบุตรสาวของเขาบางคนมีรอยแผลไหม้ที่แขนบ้างที่ขาบ้างบางคนหนักสุดถึงกับโดนที่หน้าและอาจเสียโฉมไปเลยไม่อาจรักษาได้ ‘ใคร… ใครกันที่กล้าทำถึงเพียงนี้ ‘
"ใครหน้าไหนที่กล้าบังอาจมาทำร้ายพวกเจ้าไหนบอกข้ามาซิ"
เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นทั่วห้องทำเอาพวกนางตื่นกลัวจนตัวสั่นได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ ไม่มีใครรู้ว่าคนร้ายเป็นใครหรือมีคนตั้งใจจะกลั่นแกล้งพวกนางเพราะความอิจฉาแต่ถ้าหากว่าเป็นศัตรูของท่านพ่อของพวกเธอก็ไม่คิดว่าพวกมันจะกล้าลงมืออย่างโหดร้ายกลับหญิงสาวอย่างที่ไม่เป็นวรยุทธ์อย่างพวกเธอ
"พวกเราไม่รู้หรอกท่านพ่อว่าเป็นใครอาจเป็นคนที่อิจฉาพวกเราหรือคนที่อยากขัดขวางการออกเรือนเกี่ยวดองอำนาจที่ท่านพ่อวางแผนไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านพ่อได้มีขุมอำนาจหนุนหลัง"
หลี่เสี่ยวหลางได้ยินก็เริ่มคิดตามก่อนจะนึกได้ว่าอาจจะจริงอย่างที่พวกนางพูดเพราะตนก็ได้คิดที่จะใช้บุตรสาวของตัวเองแต่งงานออกเรือนให้กับพวกมีอำนาจทั้งหลายเพื่อขอแรงสนับสนุนในการทำการใหญ่ของตน ถ้าอย่างนั้นคนที่ทำมันต้องรู้แผนการที่เขาจะส่งตัวบุตรสาวคนโตให้ท่านผู้นั้นหรือ ตาเฒ่ารีบเก็บสีหน้ายุ่งยากของตนก่อนจะคิดว่าอาจต้องรีบไปปรึกษาหุ้นส่วนของเขาเสียก่อน
"พวกเจ้าจงรักษาตัวก่อนยังไงข้าก็ต้องลากตัวคนที่ทำร้ายพวกเจ้ามาลงโทษให้สาสมกับที่มันกล้าทำร้ายบุตรสาวของข้าแถมยังมาแสดงตัวท้าทายต่อตระกูลของเรา!!"
สีหน้าของเหล่าบุตรีต่างสลดลงทันทีท่านพ่อของพวกนางหาได้สนใจบุตรสาวอย่างพวกนางไม่ ยังดีที่มีประโยชน์ให้ออกเรือนไปเกี่ยวดองตระกูลต่างๆตามที่ท่านพ่อสั่งเพื่อหวังอำนาจที่จะมาสนับสนุนเท่านั้น
“ไปจัดเตรียมรถม้าให้ข้าที!! ส่วนเจ้ารีบส่งสารไปให้พวกเราที่นั่นก่อนข้าจะเรียกประชุมทุกคน” หลี่เสี่ยวหลางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่สบายใจอย่างประหลาดเห็นทีเขาต้องชิงลงมือให้เร็วที่สุดแล้ว
ระหว่างที่ฝึกวิชาตัวเบาอยู่ในจวนซีเหมยก็ได้มาเห็นรถม้ากำลังผ่านประตูด้านหลังจวนออกมาเธอรีบซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใหญ่พลางสังเกตกลุ่มคนพวกนั้นที่ทำท่าทางลับๆล่อดูมีพิรุธในขบวนรถม้ามีทหารนายหนึ่งที่ขี่ม้านำทางขบวนนั้นซีเหมยรู้สึกคุ้นหน้าของทหารที่นำขบวนเป็นอย่างมาก
"นี่มันทหารของตาเฒ่าหลี่นี่!! ถ้าอย่างนั้นคนที่อยู่ในรถม้าคงเป็นตาเฒ่าหลี่แน่นอน"
"ซีเหยมจะไปไหน"
โอ๊ะ ใจหายหมด
"นี่ซีซีอย่ามาด้านหลังเงียบๆซิมันตกใจนะ"
"แล้วจะไปไหนแอบมาหลบใครบอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ"
ซีซีหรี่ตามองน้องสาวของตนหรืออดีตเพื่อนสาวของเธอพอมาอยู่ที่โลกนี้ซีเหมยก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทั้งซุกซนและใจร้อนแถมไม่กลัวใคร ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปคงมีเรื่องวุ่นวายตามมาเป็นขบวน
"ข้าเห็นพวกตาเฒ่าหลี่ออกจากเมืองท่าทางรีบร้อนดูมีพิรุธ"
น่าแปลกบุตรสาวของตาเฒ่าหลี่โดนขนาดนี้เขายังไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลยหรือและถ้าหากพวกนางไม่ได้มาฝึกวิชาตัวเบาอยู่แถวนี้ก็คงไม่เห็นว่าตาเฒ่ามีความเคลื่อนไหวแล้ว
"เราตามไปดูกันเถอะถ้ารีบร้อนขนาดนี้ข้าว่าอีกไม่นานพวกตระกูลรองคงโผล่หางออกมาแน่"
ซีซีฉายสีหน้าที่เย็นชาแต่แววตาเหี้ยมออกมาทันทีถึงวิทยายุทธพวกเธอจะยังฝึกไม่ขั้นสูงสุดแต่ก็พอเอาตัวรอดได้ ผู้เฒ่าหลี่แค่โดนสร้างความลำบากเล็กๆน้อยๆให้ยังมีพิรุธและออกอาการขนาดนี้เห็นทีจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่อาจจะมากกว่าที่ท่านพ่อรู้ไหนจะมีพวกกลุ่มคนที่เป็นอำนาจหนุนหลังของตาเฒ่าหลี่อีก
ทั้งสองใช้ลมปราณปิดบังตัวตนก่อนจะใช้วิชาตัวเบาแอบตามหลังขบวนมาอย่างห่างๆ พวกตาเฒ่าหลี่เดินทางออกมาไกลพอสมควรก่อนจะแล่นรถม้าไปทางหลังหุบเขามรณะ พวกนางคาดไม่ถึงว่าสถานที่แห่งนี้จะมีทางลับที่สามารถอ้อมไปหลังเขาได้และพวกนางก็ยังได้พบแหล่งซ่องสุมกำลังของตาเฒ่าอีกเช่นกัน
"คนตระกูลรองคิดจะก่อกบฏจริงๆตามที่คาดเดาไว้และข้าคิดว่ากองกำลังที่เห็นตอนนี้อาจจะเป็นแค่บางส่วนและคิดว่าต้องมีซุกซ่อนอยู่ที่อื่นอีกแน่นอน"ซีเหมยที่กำลังคำนวณจำนวนคนในค่ายนี้ที่พบว่ามีมากถึงสองในสามของจำนวนทหารของเมืองหนายโจ
"จากที่ดูคนเหล่านี้น่าจะเป็นแค่ทหารรับจ้างและคนจากกองกำลังส่วนตัวของกลุ่มคนที่สนับสนุนตาเฒ่าหลี่ที่น่าพอจะมีฝีมืออยู่บ้างแต่ข้ากลับสัมผัสได้ถึงพลังปราณขั้นสูงที่แผงตัวอยู่ตามจุดต่างๆของค่ายนี้อยู่หลายคนคิดว่าจะต้องมีพวกจอมยุทธ์ขั้นสูงที่มาดูแลที่แห่งนี้โดยเฉพาะและคิดว่าพวกนั้นแฝงตัวอยู่ที่นี่เพื่อจะรอเวลาบางอย่างอยู่เช่นกัน" ซีซีคิดว่าพวกที่มีฝีมือดีคงไม่ได้มาเพียงเพื่อเฝ้าค่ายลับแห่งนี้อย่างเดียวอาจจะถูกวางไว้ในงานสำคัญเพราะขั้นพลังที่กล้าแข็งนี้พอจะทำเรื่องที่เลวร้ายและเป็นภัยต่อชาวเมืองได้
"พี่หญิงคิดว่าจะทำอย่างไรดี"
ซีซียิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ หากกล้าคิดทำร้ายครอบครัวของนางรวมถึงชาวเมืองที่ท่านพ่อคอยปกป้องดูแล นางก็ไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้เพียงแค่พวกมันกล้าคิดจะใช้กำลังเข้ายึดครองโดยไม่สนถูกผิดหรือชาวเมืองที่เป็นผู้บริสุทธิ์โทษฐานของการคิดก่อการกบฏก็คือตายและนางคงไม่สามารถปล่อยให้กลายเป็นเนื้อร้ายต่อไปได้ แววตาอำมหิตกระหายการฆ่าฟันและไอสังหารก็เริ่มแผ่ออกมาโดยที่ซีซีไม่รู้ตัวแต่เมื่อมองเห็นซีเหมยที่กำลังอึดอัดจากไอสังหารของตนนางก็รีบดึงสติกลับมาทันที
"ยังไม่ถึงเวลารอให้พวกนี้เผยโฉมหน้าออกมาก่อนยังมีคนที่ยังหนุนหลังเพื่อรับผลประโยชน์จากพวกคนตระกูลรองเราไม่อาจวู่วามได้"
"ข้าเข้าใจแล้ว"
ซีซีที่ลบไอสังหารแล้วก็แอบซุ่มมองอีกเพียงครู่เดียวเธอยังไม่กล้าที่จะทำอะไรให้พวกนั้นรู้ตัวเพราะศัตรูที่ยังอยู่ในที่มืดยังไม่รู้ตัวแน่ชัดว่าเป็นใครหากทำอะไรตอนนี้ก็มีแต่แหวกหญ้าให้งูตื่นแล้วครอบครัวพวกนางก็จะเป็นอันตรายกว่าเดิม
ซีซีพยักหน้าให้ซีเหมยก่อนที่ทั้งคู่จะลอบกลับออกมาและรีบมุ่งหน้าไปที่จวนทันทีพวกเธอคงต้องรีบฝึกให้ถึงขั้นกายเซียนสวรรค์ระดับสูงสุดก่อนเพราะหากฝึกถึงขั้นนี้แล้วร่างกายก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเส้นเอ็นถ่ายกระดูกใหม่และร่างกายของพวกเธอก็จะเหมาะสมกับพลังที่ได้รับมาเสียที
ที่จริงพวกนางก็พึ่งพบปัญหาว่าร่างกายไม่อาจฝืนรับการโคจรพลังลมปราณขั้นสูงสุดได้เพราะพลังของพวกเธอเป็นพลังขั้นสูงกว่าการบ่มเพาะร่างกาย ตอนนี้พวกนางไม่สามารถที่จะใช้พลังถึงขีดจำกัดได้เพราะร่างกายของพวกเธอยังมีบางอย่างที่ไม่อาจก้าวข้ามมาได้จึงต้องผนึกพลังที่เกินออกมาไว้ไม่อย่างนั้นร่างกายของพวกเธออาจจะระเบิดออกด้วยพลังที่มหาศาลนี้เอง
ร่างบางสองร่างหายกลับไปในเงามืดเหมือนตรงจุดนี้ไม่เคยมีใครยืนอยู่เลย