16 ฝึกฝน

2017 Words
หลังจากพวกนางกลับมาถึงที่พักซีซีและซีเหมยก็หาที่ฝึกพลังกันต่อ เพื่อจัดการกับพลังที่ยังไม่มั่นคงและยังมีข้อผิดพลาดของการใช้พลัง ที่ยังมีขีดจำกัดของร่างกายตอนนี้ให้หมดไป ทั้งสองเริ่มจากการรวมปราณก่อนจะโคจรไปยังเส้นเอ็นทุกจุดเพื่อที่จะเพิ่มความแข็งแรงของเส้นเอ็นก่อน ถ้าทำเช่นนี้จะเป็นผลดีเวลาที่จะทำการผลัดเปลี่ยนเอ็นและถ่ายกระดูกใหม่พวกนางจะได้ทะลวงผ่านขั้นได้อย่างปลอดภัยและสามารถใช้พลังได้อย่างราบรื่น ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนทั้งสองนางต่างอยู่ในภาวะตัดขาดจากโลกภายนอกและเข้าถึงพลังปราณในจุดตันเถียน รอบๆตัวของพวกนางทั้งสองมีปราณธรรมชาติที่ถูกดูดเข้าร่างอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเริ่มมีแสงสีทองแผ่ออกมาจากร่างของพวกเธอพลังนี้ได้แผ่ขยายจนสามารถโอบล้อมพวกนางไว้ใช้เวลาไม่นานแสงสีทองนี้ก็ค่อยๆสว่างขึ้นก่อนจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ปรากฏการณ์นี้ทำให้ยุทธภพต่างสั่นสะเทือนแต่มีแค่พวกขอบเขตเดียวกันหรือสูงกว่าที่สามารถสัมผัสได้พวกผู้เฒ่าอายุยืนหรือยอดฝีมือที่คอยแฝงเร้นในยุทธภพที่รับรู้ต่างก็ออกมาดูเหตุการณ์อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นนี่คือสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานาน เกือบ500ปีแล้วที่ไม่มีใครฝึกสำเร็จถึงขั้นกายเซียนเทพสวรรค์สูงสุดเลยสักคน ส่วนซีซีและซีเหมยที่ตอนนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างเห็นได้ชัดเริ่มจากร่างกายภายนอกของพวกเธอที่มีการเปลี่ยนแปลงผิวกายเริ่มเนียนใสราวกับเปล่งแสงได้หากได้ลองสัมผัสจะพบว่าเนื้อผิวเรียบเนียนเหมือนผิวทารกขาวดั่งหยกนมแพะ ผมยาวดำเงาสลวยเหมือนเส้นไหมริมฝีปากแดงอิ่มราวกับผลอิงเถา หากมีใครได้เห็นพวกเธอตอนนี้วิญญาณคงหลุดลอยเพราะความงามที่ไม่อาจพรรณนาได้หมดในวันเดียว ไม่เพียงแต่ภายนอกที่เปลี่ยนอวัยวะภายในทุกส่วนล้วนเปลี่ยนแปลงเช่นกันเส้นเอ็นทุกเส้นเริ่มผลัดเปลี่ยนกระดูกทุกส่วนของร่างกายเริ่มเปลี่ยนถ่ายใหม่ความแข็งแกร่งของร่างกายที่เพิ่มขึ้นมาพวกเธอกำลังรู้สึกถึงมันได้ ว่ากันว่าร่างของเทพเซียนสวรรค์นี้มีความพิเศษมากน้อยนักที่จะมียาพิษอันไหนที่สามารถทำร้ายระดับนี้ อาวุธธรรมดาหาได้ระคายเคืองผิวไม่นับว่าเป็นเรื่องพิเศษที่สุดและทุกคนต่างก็ต้องการที่จะขึ้นไปถึงขั้นนี้แต่การที่จะฝึกถึงขั้นนั้นมันยากและสาหัสสำหรับคนทั่วไปยิ่งนัก แต่กับพวกนางทั้งสองนั้นคือข้อยกเว้น ยามนี้เกือบสว่างแล้วและขั้นตอนสุดท้ายนี้ก็ถือเป็นช่วงสำคัญที่จะปล่อยพลังปราณที่ถูกสะกดไว้ให้ออกมา ทั้งสองนางต่างควบคุมพลังปราณไว้ที่จุดตันเถียนก่อนที่จะโคจรส่งปราณไปทะลวงจุดทั้ง9 แขนทั้งสองข้าง ขาทั้งสองข้าง มือทั้งสองข้าง เท้าทั้งสองข้าง และศีรษะหนึ่ง ที่สำคัญที่สุดหากว่าทำพลาดพวกเธออาจสิ้นชื่อก็คราวนี้ "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด" เสียงกรีดร้องของทั้งสองดังขึ้นอย่างเจ็บปวดร่างกายเหมือนทุกโยนลงลาวา ความร้อนแผดเผาไปทั่วร่างลึกถึงจิตวิญญาณจนทำให้ทั้งสองทนไม่ไหวและหมดสติลงในที่สุด แต่ร่างของพวกนางก็ยังมีแสงโอบล้อมร่างกายที่กำลังดูดเอาปราณธรรมชาติเข้าสู่ตันเถียนอย่างบ้าคลั่งจนก่อเกิดเป็นพายุปราณที่ได้พัดร่างของพวกนางลอยขึ้นมากลางวังวน พลังปราณในวังวนนี้มีความหนาแน่นเป็นอย่างมากมันค่อยๆไหลซึมไปทั่วร่างและเริ่มรักษาร่องรอยบาดแผลเก่าหรือแม้แต่ริ้วรอยก็พลังปราณเข้าไปเติมเต็มจนใบหน้าของพวกนางทั้งคู่ดูอ่อนเยาว์ลงไปอีก เมื่อเสร็จสิ้นร่างของทั้งสองนางก็ค่อยๆลอยลงที่เตียงอย่างแผ่วเบา เช้านี้ฮูหยินตื่นมาด้วยความสดชื่นเมื่อคืนเหมือนเธอได้รับพลังบางอย่างเข้าร่างกายอย่างมากมายมันทำให้พลังชีวิตของเธอเพิ่มขึ้นทันทีเช้านี้เธอจึงมีความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก "หลินเออร์เจ้าไปปลุกพวกลูกๆของข้าทีไม่รู้ว่าออกไปเที่ยวงานเทศกาลกลับมาดึกดื่นแค่ไหนถึงยังไม่ออกมาจากห้อง" "เจ้าค่ะฮูหยิน" สาวใช้รีบเดินไปตามคำสั่งของฮูหยินทันทีก่อนจะหันไปสั่งสาวใช้อีกสองนางให้ไปเตรียมน้ำอุ่นและเสื้อผ้าให้คุณหนูทั้งสอง เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องก็เห็นคุณหนูทั้งสองยังนอนหลับอยู่ที่เตียงทำให้นางสงสัยเป็นอย่างมากเพราะปกติคุณหนูซีซีและคุณหนูซีเหมยจะตื่นเช้าออกมาฝึกกระบี่ตลอด "คุณหนูเจ้าค่ะตื่นได้แล้วตอนนี้ฮูหยินท่านกำลังรอกินข้าวอยู่เจ้าค่ะ" ทั้งสองสาวได้ยินเสียงของหลินเออร์ก็รู้สึกตัวก่อนที่จะยันร่างลุกขึ้น "อ่าาาา ทำไมวันนี้รู้สึกปลอดโปร่งจังร่างกายก็รู้สึกว่ามันเบาจนจะลอยได้เลย" "อย่ามัวแต่พูดเลยรีบไปอาบน้ำกันเถอะ" ซีซีปรามซีเหมยก่อนที่จะปิดม่านออกมาโดยไม่ทันเอะใจกับร่างกายที่เปลี่ยนไปของพวกนาง "ไอ้หยาาาาา" กลับเป็นหลินเออร์ที่มองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพวกเธอนางถึงกับตกใจจนถอยหลังผงะทันที "คุณหนูพวกท่านทำไม....ทำไมถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้อ่าสวรรค์แกล้งข้าหรือไง........ตึง" หลินเออร์เป็นลมล้มพับไปเสียแล้วพวกเธอได้แต่ทำหน้าเหลอหลาและรีบมาดูสาวใช้ของตนก่อนจะมองหน้ากัน "อะ.....พี่หญิงทำไมตาของท่านเปลี่ยนสีได้" "ตาของเจ้าก็เปลี่ยนสีเหมือนกันซีเหมยแล้วร่างกายของเจ้าก็เปลี่ยนรวมถึงผิว อ่า...ผิวข้าก็เหมือนกันนี่ทำไมถึงเปลี่ยนไปละ" ซีเหมยรีบวิ่งไปส่องกระจกเธอเห็นหญิงสาวที่หน้าคุ้นๆกำลังจ้องมองกลับมา ‘ใครนะทำไมสวยจัง เอ๋!!นี่เธอนี่แต่ทำไมสีของนัยน์ตาเธอจึงเป็นสีฟ้าไปได้ละ’ ทรวดทรงก็เหมาะสมกับเป็นหญิงสาวขึ้นมากว่าแต่ก่อน เอวคอดกิ่วแขนขาเรียวยาวจนเธอไม่คิดว่าจะมีร่างกายที่สวยงามขนาดนี้แต่ทำไมถึงไม่สูงขึ้นสักนิดเลย "ท่านพี่ซีซีเจ้ามาส่องกระจกดูสิหน้าของเจ้าเปลี่ยนไปเหมือนกันนะ" ซีซีที่ไม่ได้ตกใจอะไรมากก็เดินเข้าไปส่องกระจกตามที่ซีเหมยบอก ในกระจกเธอเห็นหญิงสาวที่งดงามคนหนึ่งสะท้อนออกมาสวยงามมากแต่ยังมีเค้าหน้าเดิมของเธออยู่มีเพียงสีนัยน์ตาของเธอเท่านั้นที่เปลี่ยนไปกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มออกทองๆ "อ่า….ยังกะฝันขนาดศัลยกรรมที่ว่าแน่ยังแพ้พวกเราเลย ท่านพี่ซีซีเรื่องนี้คงต้องขอความเห็นของท่านพ่อแล้วละ" ทั้งสองเลิกตื่นตกใจสิ่งใดจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้เกิดและต้องยอมรับให้ทุกอย่างดำเนินไปตามที่สวรรค์ต้องการ ซีซีปลุกสาวใช้หลินเออร์ให้ตื่นก่อนที่จะไล่ให้นางไปทำหน้าที่ตามปกติส่วนพวกเธอก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวและรีบมุ่งหน้าไปหาท่านพ่อท่านแม่ทันที ทางฮูหยินและเจ้าเมืองตงโฉกำลังนั่งคุยถึงเรื่องเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นภายในจวนฝั่งของนางและลูกสาวที่เช้านี้ได้มีสิ่งที่ผิดปกติมากมายแต่หาสาเหตุอย่างไรก็ไม่เจอ เมื่อต่างก็ยังหาคำตอบไม่ได้เลยเปลี่ยนมาสนทนาถึงจดหมายที่องค์ชายจ้าวหลงเยี่ยนส่งให้ตน เมืองหลวงกำลังจะลุกเป็นไฟทางเขาเองก็เพิ่งได้รับสารจากสายที่อยู่หมูบ้านวังเมฆว่าตอนนี้ได้มีกองกำลังของวังปีศาจมาบุกล้อมนี่คงเป็นแผนที่จะล่อให้เขาออกจากเมืองแต่ถึงจะเป็นแผนเขาก็ต้องออกไปช่วยชาวเมืองของเขาอยู่ดี "คุณหนูมาแล้วขอรับ"สีหน้าของพ่อบ้านตงดูแตกตื่นแต่ก็ยังไม่กล่าวอะไรออกมา "ท่านพ่อ ท่านแม่ คารวะเจ้าค่ะ " ตงโฉและฮูหยินต่างตกใจทันทีที่เห็นบุตรสาวทั้งสองถึงจะเปลี่ยนไปแต่ก็ยังมีเค้าลูกของพวกเขาอยู่ "เหตุใดพวกเจ้าถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้" "ลูกก็ไม่แน่ใจหลังจากที่พวกเราฝึกทะลวงปราณพลังก็หมดสติไปตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นแบบนี้แล้วเจ้าค่ะ" "ท่านพ่อท่านแม่กลัวพวกลูกหรือไม่" ซีซีเอ่ยออกมาแววตาสีหน้าดูสับสนหากว่าท่านพ่อและท่านแม่กลัวพวกนางจะทำเช่นไร "เจ้าพูดอะไรออกมาต่อให้พวกเจ้ามีเขางอกแม่ก็หาสนใจไม่"ฮูหยินรีบเดินเข้ามาโอบกอดบุตรสาวทั้งสองซีเหมยเหมือนอ่อนแอแต่จิตใจเข้มแข็ง ซีซีเหมือนเข้มแข็งแต่จิตใจอ่อนไหวนัก (แค่เรื่องครอบครัวเท่านั้นฮูหยินหารู้ไม่) "ข้าว่าพอจะรู้สาเหตุแล้วพวกเจ้าไม่ต้องกังวลมานั่งที่โต๊ะก่อนเถอะ" ตงโฉส่งสายตาให้เหล่าคนรับใช้ออกไปเขาแทบเก็บอาการดีใจไม่อยู่นี่คือสาเหตุของสิ่งแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นภายในจวนของตนซินะ การเปลี่ยนแปลงของบุตรสาวทั้งสองทำให้ตงโฉดีใจเป็นอย่างยิ่ง ‘ช่างน่ายินดีนัก’ "ท่านพ่อมีความเห็นเช่นไรหวังว่าข้าและพี่ซีซีคงไม่ได้ถูกธาตุไฟเข้าแทรกหรอกนะเจ้าค่ะ" "ใจเย็นซีเหมยเจ้าและพี่ของเจ้าหาได้ถูกธาตุไฟเข้าแทรกแต่พวกเจ้าฝึกบรรลุขั้นกายเซียนสวรรค์สูงสุดได้สำเร็จแล้วต่างหาก" รอยยิ้มของบิดาทำให้สองสาวใจชื้นขึ้น ถ้าอย่างนั้นนับว่าความพยายามของพวกเธอไม่สูญเปล่า "แล้วที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงก็เป็นผลจากการเปลี่ยนเอ็นถ่ายกระดูกนั่นเอง" "ท่านพ่อแล้วที่สีนัยน์ตาของพวกลูกเปลี่ยนไปมันอาจจะเป็นเหตุให้คนที่ไม่หวังดีอาศัยเรื่องนี้มาใส่ความก็ได้นะเจ้าค่ะ" "สีของนัยน์ตามันแค่บ่งบอกว่าพลังของลูกอยู่จำพวกธาตุไหนพวกเจ้าสามารถปกปิดมันได้เหมือนกับปกปิดไอสังหารนั่นแหละ" สีหน้าที่กังวลพลันหายไปทันทีกลับเป็นรอยยิ้มสดใสมาแทนที่ อ่า....สายตาของเจ้าเมืองและฮูหยินพร่ามัวทันที ช่างงดงามจริงลูกสาวของแม่ช่างเหมือนเทพธิดาที่สูงส่งยิ่งนักส่วนเจ้าเมืองตงโฉผู้เป็นบิดาเดิมทีก็ทั้งห่วงและหวงบุตรสาวของตนอยู่แล้วยิ่งมีเหตุการณ์ที่ลูกสาวทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปงดงามหยาดเยิ้มกว่าเดิมเขายิ่งเพิ่มความหวงแหนบุตรสาวของเขายิ่งนักและอาจจะมากกว่าพ่อของคนไหนๆบนโลกนี้เสียด้วย "พวกเจ้ารีบกินข้าวเถอะวันนี้พ่อจะสอนให้พวกเจ้าฝึกกระบี่ขั้นสมบูรณ์ให้คล่องเพราะพรุ่งนี้พ่อจะออกเดินทางไปช่วยหมู่บ้านวังเมฆที่ถูกวังปีศาจล้อมเอาไว้" สีหน้าของตงโฉกลับมาเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังดีที่สามารถวางใจเรื่องของบุตรสาวและฮูหยินแล้ว เขาผู้เป็นเจ้าเมืองก็จะได้ออกไปช่วยชาวเมืองได้อย่างวางใจไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีก สองสาวลอบมองหน้ากันก่อนที่สีหน้าทั้งคู่จะเต็มไปด้วยความพอใจหากเจ้าเมืองรู้คงไม่แม้แต่จะย่างเท้าก้าวออกห่างจากเมืองหนายโจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD