EP.3

1685 Words
"มานี่" ข้อมือของซาเฟียร์ถูกกระชากอย่างแรง ส่งผลให้ร่างบอบบางที่บนเนื้อตัวฉีดน้ำหอมพรมร่างจนหอมฟุ้งปลิวตามแรงดึง บ่อยครั้งที่หญิงสาวนิ่วหน้า หากเทียบระหว่างผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนี้กับเฮียซานย์ผู้แสนดี ซานย์อบอุ่นกว่าเยอะ เยอะจนเขาคนนี้ไม่อาจเทียบติดได้เลย ปึก~ "โอ๊ย หนูเจ็บนะ" มือเรียวยกขึ้นลูบก้นของตัวเองป้อยๆ เมื่อถูกผลักเข้าใส่โซฟา ขณะที่คนลากเธอให้กลับขึ้นมายังห้องพักอีกครั้งได้แต่เท้าสะเอวมอง "ที่นี่ในเวลากลางคืนมันอันตรายสำหรับเธอเกินไป ถ้าจะให้แนะนำ เธอไม่ควรออกจากที่นี้หลังเวลาสองทุ่ม" "อะไรนะคะ แบบนี้มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ" "ฉันยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากพี่ชายของเธอ ฉันไม่รู้ว่าการที่ซานย์เดินทางมาส่งเธอด้วยตัวเอง มันทำให้เกิดปัญหาเพราะฝ่ายนั้นสงสัยหรือเปล่า เราต้องรอคำตอบ เพราะฉันไม่อยากเสี่ยงจนกลายเป็นคนผิดคำพูดกับเพื่อนตัวเอง" "หนูออกห่างเฮียซานย์มาไกลขนาดนี้แล้ว หมายความว่าการมาอยู่ที่ประเทศไทยหนูจะยังไม่มีอิสรภาพเหมือนเดิมงั้นเหรอคะ" "คนที่ดูแลเธอคือฉัน ฉันต้องทำทุกอย่างให้มันรอบคอบและรัดกุมที่สุด" "ไม่เลยค่ะ พี่ภพไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น" "เอาแต่ใจตัวเอง ต้องให้พูดกี่ครั้งว่าการทำตัวแบบนี้มันน่ารำคาญ" "หนูอาจจะน่ารำคาญในสายตาพี่ แต่ในสายตาของเฮียซานย์ เฮียไม่เคยมองหนูแบบนั้น" "ถ้าคิดว่าเธอโตแล้วเธอก็ควรแยกแยะให้เป็นสิ ฉันกับพี่ชายเธอ มันคนละคนกัน" ใบหน้าของซาเฟียร์แดงก่ำ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเจอใครที่นิสัยเหมือนเขา เขาที่เอาแต่ด่าฉอดๆ ไม่เคยถาม ไม่เคยสนใจเลยว่าเธอต้องการอะไร เมื่อไหร่นะ! เมื่อไหร่กัน! กี่เดือนกี่ปีที่เฮียจะจัดการเรื่องทางนั้นแล้วมารับเธอกลับไปสักที! "หนูเข้าใจแล้วค่ะ" "เข้าใจว่าอะไร" "เข้าใจว่าหนูมันเป็นตัวน่ารำคาญ จากนี้หนูจะไม่เป็นตัวน่ารำคาญของคุณ เชิญคุณตั้งกฏมาเลยว่าเรื่องอะไรบ้างที่หนูมีสิทธิ์ถามและรบกวนคุณ หนูก็ไม่อยากล้ำเส้นใคร" "อวดดี!" เสียงตวาดที่ดังลั่นส่งผลให้ดวงตาที่แดงก่ำกระตุกวูบ ซาเฟียร์ขบกลีบปากตัวเองแน่น คำพูดของเขา สีหน้าและท่าทางของเขามันทำให้เธอเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างขึ้นเยอะเลย! "ถ้าคุณรำคาญหนูนัก ทำไมคุณถึงตกปากรับคำพี่ชายหนูล่ะ ทำไมไม่ปฏิเสธออกมาเรื่องทุกอย่างมันจะได้จบ มันจะได้ไม่เป็นแบบนี้ไง" "ผู้ใหญ่เขามีเหตุผล ซานย์ต้องการช่วยเธอ ฉันเองก็ต้องการช่วยเธอเหมือนกัน" "..." "โลกมันโหดร้ายกว่าที่เธอคิด ไว้โตกว่านี้เธอจะเข้าใจทุกอย่างขึ้นเอง หวังว่าสิ่งที่ฉันพูดเธอจะเข้าใจ" "..." "ในตู้เย็นมีอาหารสดหลายอย่าง อยากกินอะไรก็ทำ รีบกินรีบนอน เพราะพรุ่งนี้เธอต้องไปมหาลัยพร้อมฉัน แปดโมงเช้าของไทย อย่าสร้างปัญหา เพราะฉันไม่ได้ใจดีเหมือนพี่ชายของเธอ" ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มเขม็ง ขณะที่ดวงตากลมสวยแดงก่ำ มีหยาดน้ำตาเม็ดโตหล่อเลี้ยงอยู่ในนั้น ซาเฟียร์แสยะยิ้มมุมปาก เธอพยักหน้ารับก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องนอนตามเดิม ร่างแบบบางกลับมาทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดแรง น้ำตาเม็ดโตกลอกกลิ้งบนหน่วยตาสวยหยดแล้วหยดเล่า คิดถึงบ้าน คิดถึงเฮียซานย์ หากเฮียบอกว่าที่นี่คือที่ที่ปลอดภัย มันก็เป็นที่ปลอดภัยที่อยู่แล้วไม่ได้รู้สึกสบายใจเลย! แกร๊ก~ เสียงปลดล็อกประตูดังขึ้นหลังจากที่ซาเฟียร์แอบมานอนร้องไห้เงียบๆ คนเดียว แวบหนึ่งที่หญิงสาวปรายตามองผู้ที่รุกล้ำเข้ามาในห้องนอน เธอไม่ได้อยากมอง ไม่อยากคุยกับเขา หากสิ่งที่เห็นไม่ใช่ภาพที่เขากำลังยื่นโทรศัพท์ให้เธอพร้อมกลับกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ "โทรศัพท์จากซานย์" ซาเฟียร์ดีดตัวลุก คว้าโทรศัพท์เครื่องหรูมากุมไว้ ใช้มือข้างที่ว่างเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะกรอกเสียงไปตามสายพร้อมน้ำตาที่ไหลและหยดออกมา "เฮียซานย์ ฮึก...หนูคิดถึง" [ ซาเฟียร์...นี่ร้องไห้เหรอ ] "หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว หนูคิดถึงบ้าน" [ ขี้แยเอ๊ย ว่าแล้วเชียวว่าต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งแบบนี้ ] "มารับหนูกลับที หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วหนูไม่กลัวอันตรายอะไรทั้งนั้น ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกันได้ไหมคะ" [ โกรธเพื่อนเฮียเหรอ อย่าโกรธมันเลย ทุกอย่างที่มันทำมันก็ล้วนมาจากคำขอของเฮียทั้งนั้น ซาเฟียร์...เฮียมีน้องคนเดียวนะ เธอเป็นทุกอย่าง เฮียพร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องและให้เธอมีความสุขที่สุด เฮียไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเธอได้อย่างแน่นอน ] "แต่ว่าหนู..." [ ภพนิพิฐเป็นผู้ชายที่อ่อนโยน เนื้อแท้มันเป็นคนแบบนั้น หมอนั่นเป็นคนดี ] ดวงตากลมสวยที่ถูกโอบล้อมด้วยขนตางามงอนตวัดหันมองไปที่ด้านนอกซึ่งมีคนตัวโตเคลื่อนไหวอยู่ เจ้าของคอนโดหรูไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้เพื่อรับฟังเธอคุยโทรศัพท์ แต่เขาเดินออกไปทิ้งตัวนั่งอยู่ทางด้านนอก ไม่แม้จะปรายตามามองที่เธอ แต่สิ่งที่หนูเห็นมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาไม่เคยรับฟังหรือพูดดีๆ กับหนูเอง ถ้าเขารำคาญหนูมาก หนูอยู่คนเดียวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีเขาคอยดูแล หนูพร้อมที่จะอยู่ประเทศไทยตามคำแนะนำของเฮียซานย์ แต่หนูขอแค่ได้อยู่ในที่ที่ทำให้หนูรู้สึกสบายใจ" [ แต่การที่เธอทำแบบนั้น มันจะทำให้เฮียไม่สบายใจ แล้วเฮียจะเอาแรงที่ไหนไปสู้ เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาแย่งของที่เป็นของของเรา ] คนฟังฟุบหน้าลงกับหมอนพลางหลุดเสียงสะอื้น มันไม่มีหนทางอื่นเลยเหรอ ทำไมในชีวิตเธอต้องมีเขา เขาที่แสดงออกชัดเจนว่ารำคาญเธอ! [ เอาเป็นว่าเธออยู่กับเพื่อนเฮียไปก่อน เฮียจะขอให้นายภพเปิดซิมการ์ดให้เธอใหม่ และถ้าเมื่อไหร่ที่สะดวกเฮียจะโทรกลับไปหาเธอบ่อยๆ แบบนั้นดีไหม ] น้ำเสียงของซานย์ช่างอ่อนโยน อ่อนโยนจนคนตัวเล็กรู้สึกโหยหาอ้อมกอดที่อบอุ่นและแข็งแรง "เมื่อไหร่ล่ะคะ เมื่อไหร่เราจะได้กลับไปอยู่ด้วยกัน" [ ไม่นานหรอกซาเฟียร์ เฮียสัญญาว่าจะจบทุกอย่างให้เร็วที่สุด จำคำของเฮียให้ดี ภพนิพิฐคือผู้ชายที่ดีที่สุด แม้น้องสาวของเฮียจะหลงรักเพื่อนเฮียเพราะความใกล้ชิด เฮียก็จะไม่ห้ามเลยสักนิด ] ซาเฟียร์คาดไม่ถึงกับความเชื่อมั่นและไว้ใจในตัวของเพื่อนคนนี้ของเฮียซานย์ ตัวเธอเอง และมั่นใจว่าใครหลายๆ คนคงไม่ชอบเวลาที่ถูกมองว่าเป็นตัวน่ารำคาญ หากเขาใจดีกว่านี้เธอจะไม่งอแง [ เอาล่ะ เฮียต้องวางสายแล้ว อยู่ที่นั่น ฟังเฮียนะซาเฟียร์ ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเพื่อนของเฮียอาจจะยังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับกันและกัน แต่ถ้าเธอมีโอกาสเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของภพนิพิฐ เธอจะเห็นความจริงใจที่หมอนั่นมี ] ซาเฟียร์ทบทวนคำพูดของพี่ชายวนไปวนมาซ้ำๆ ในเมื่อเฮียซานย์เลือกแบบนี้ให้ นั่นหมายความว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้เลย สิ่งเดียวที่ควรทำนั่นคือการยอมรับความจริง! จริงสิ! พี่ชายของเธอรับปากแล้วว่าจะรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็วและจะกลับมารับเธอให้เร็วที่สุด เธอจะรอวันนั้น ต่อให้คนบางคนที่เธอต้องพึ่งพาเขาจะใจร้ายกับเธอมากแค่ไหนก็ตาม ซาเฟียร์ยกมือตบแก้มตัวเองเบาๆ ขณะที่หยัดตัวลุกจากเตียงกว้าง ความสบายใจที่ได้รับโทรศัพท์จากพี่ชายส่งผลให้น้ำตาหยุดไหล ขาสวยก้าวออกไปนอกห้อง ยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนสนิทของพี่ชายตามเดิม "เฮียซานย์บอกว่าจะให้คุณเปิดซิมการ์ดใหม่ให้หนู" คนฟังกดปลายลิ้นเข้าหากระพุ้งแก้มพลางปรายตาขึ้นมอง หน้าหยิ่งๆ เชิดๆ จมูกรั้นๆ ที่เห็นแวบเดียวก็รู้ว่ายัยเด็กนี่โกรธเขา แม้กระทั่งสรรพนามที่ใช้เรียกก็ยังเปลี่ยนไป หนุ่มหล่อเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ "พรุ่งนี้จะเอามือถือเครื่องใหม่มาให้" "ขอบคุณค่ะ" ซาเฟียร์หมุนตัวกลับทันที เพราะเธอคิดว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกันต่อจากนี้ "เดี๋ยว" เสียงมีเสน่ห์หยุดคนตัวเล็ก ใบหน้าจิ้มลิ้มเพียงแต่เอี้ยวกลับมามอง "ไหนบอกว่าหิวข้าว" "...หนูทำไม่เป็น ที่นู่นมีคนคอยดูแลทุกอย่าง ถ้าคุณไม่อนุญาตให้หนูออกไปกินข้างนอก หนูก็จะรอกินพรุ่งนี้ทีเดียว" "ไม่ต้องประชดประชัน ไปนั่ง" หนุ่มหล่อตวัดสายตาไปยังโต๊ะอาหาร หญิงสาวที่ถูกสั่งมองตามอย่างไม่เข้าใจ "หมายความว่ายังไง" "หมายความว่าฉันจะหาข้าวให้เด็กขี้แยกิน" "หนูไม่ใช่เด็กขี้แย ตอนอยู่ที่นู่นหนูไม่ร้องไห้ด้วยซ้ำ" คนฟังหยัดตัวลุกจนเต็มความสูง ละเลยเสียงหวานที่บางครั้งฟังดูเหมือนเป็นการออดอ้อนจนเขารู้สึกหงุดหงิด เพื่อไปหาข้าวให้น้องสาวของเพื่อนได้กิน รีบกิน จะได้เลิกงอแง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD