เช้าถัดมานั้นทิชาก็ต้องตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อมาเตรียมของเอาไว้ทำอาหารให้พี่ชายที่กลับจากสนามรบ ไม่ว่าจะของหวาน ของคาวมารดาก็ขนออกมาทำเสียจนหมดและกรรมนั้นจะตกที่ใครได้หากไม่ใช่ทิชาคนนี้
ทำอาหารอย่างกับมีงานเลี้ยงอย่างนั้นแหละ ก็รู้หรอกนะว่าพี่ชายกลับจากสนามรบแต่นี่มันเยอะเกินไป๊!!!! ทำแบบนี้ กินทั้งจวนจะหมดมั้ยก็ไม่รู้เลยเนี่ย แต่ก็นับว่าโชคยังดีที่ทิชานั้นเสนอเมนูอาหารที่ทำง่าย ๆ ไปมารดาจึงได้หยุดทำอาหาร ชนิดอื่น ๆ ลง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ อี้เฟย พี่กลับมาแล้ว”
บุรุษในชุดเกราะดูน่าเกรงขามเรียกบิดามารดาและน้องสาวเสียงดังจนบ่าวและสาวใช้อดยิ้มไปกับความรักครอบครัวของท่านรองแม่ทัพไม่ได้
“อี้เฉินลูกแม่ เจ้ามาเหนื่อย ๆ มานั่งพักรอน้องเจ้า ยกอาหารมาเถอะ”
ฮูหยินเดินมารับบุตรชายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรู้สึกยินดีนัก ที่บุตรชายกลับจากศึกมาอย่างปลอดภัยจนลืมหันไปมองว่ามีอีกคนที่มาพร้อมกับท่านแม่ทัพด้วย
“คารวะท่านชินอ๋องเพคะมัวแต่ดีใจที่อี้เฉินกลับมา ต้องขออภัยชินอ๋องแล้ว”
นางรีบทำความเคารพชินอ๋องที่ยืนใบหน้าไร้อารมณ์อยู่ด้านหลังบุตรชายของตน
“ตามสบายเถอะ เปิ่นหวางนั้นอยากมาชิมอาหารฝีมือ ท่านป้ามาไม่ได้แจ้งต้องขออภัยเช่นกัน”
เว่ยเทียนหยางเอ่ยกับมารดาสหายคนสนิทอย่างไม่ถือสาเพราะเข้าใจดีว่านางนั้นคงคิดถึงบุตรชายคนเดียวไม่น้อย
“ขอบพระทัยที่เมตตาฮูหยินของกระหม่อม เชิญชินอ๋อง ที่โต๊ะเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
ใต้เท้าเสี่ยวทำความเคารพผู้สูงศักดิ์กว่าก่อนจะเชิญให้นั่งร่วมโต๊ะอาหาร
“อาหารมากมายเช่นนี้ท่านแม่คงเหนื่อยแย่ แต่นี่คือ สิ่งใดหรือ”
แม่ทัพหนุ่มเย้ามารดาเมื่อเห็นอาหารมากมายตรงหน้า แต่ก็แปลกใจอยู่มากกับจานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า ในจานนั้นมีเนื้อย่างสีสวยน่าลิ้มลองด้านข้างมีผักวางประปรายและที่แปลกตา ก็คือไม้สองชินที่วางอยู่ข้าง ๆ จาน
“เปิ่นหวางเองก็ไม่เคยเห็นอาหารเช่นนี้มาก่อน”
อาหารสวยงามตรงหน้าดูจะไม่เป็นที่รู้จักของผู้ใดมาก่อน กำลังสร้างความสงสัยให้กับชินอ๋องและแม่ทัพหนุ่มเป็นอย่างมาก
“อาหารพวกนี้เฟยเอ๋อร์เป็นผู้คิดทำขึ้นมาเพคะ”
ฮูหยินตอบชินอ๋องไปอย่างกระอักกระอ่วนในใจเกรงว่าจะทำอะไรขัดพระทัยเข้า
“ท่านแม่!!! อี้เฟยทำเสร็จอีกจานแล้ว”
เสียงหวานร้องบอกพร้อมกับเจ้าของร่างทรงนาฬิกาทรายใบหน้างดงามคิ้วเรียงน่ามองดวงตามีน้ำคลอหน่วยเปล่งประกายเจิดจ้าจมูกโด่งรั้นริมฝีปากบางเป็นกระจับสีแดงดังผลเชอรี่ผิวขาวดุจหิมะแรก กำลังแย้มยิ้มมาพร้อมกับจานอาหารในมือก่อนจะ ค่อย ๆ วางลงบนโต๊ะ
“เจ้าลูกคนนี้เสียงดังไปไยช่างน่าอายนัก รีบทำความเคารพชินอ๋องเดี๋ยวนี้เลย”
ฮูหยินดุบุตรสาวที่กำลังหันมามองชินอ๋องตาไม่กะพริบ
หล่อเหลือเกินนนนนนนน......ทิชาฟินอ่าาา มีแต่คนหล่อ ๆ ทั้งนั้นพี่ชายก็หล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนใส่ชุดเกราะแบบนี้เท่เป็นบ้าเลย
เอ๊ะ แต่อีกคนนี้มันตาชินอ๋องคนใจร้ายนี่นา เชอะ ไม่สนใจหรอกหน้าตาก็งั้น ๆ แหละ
“ถวายพระพรชินอ๋อง”
นางย่อกายทำความเคารพในขณะที่แววตานั้นจับจ้องพระองค์ไม่หยุด คราแรกคิดว่านางจะส่งสายตารักใคร่มาให้แต่ไยส่งสายตาท้าทายมาแทนเล่า
“ตามสบายเถอะเปิ่นหวางไม่ถือสาเรื่องเล็ก ๆ นี้หรอก”
เสียงเข้มนั้นตรัสออกมาอย่างไม่คิดจะหันไปสนพระทัยเสี่ยวอี้เฟยนักแม้จะรู้สึกถึงสายตาที่มองมาก็ตาม
เก็กไปอี๊ก!!!!!!! เห็นหน้าแล้วหมั่นไส้รู้สึกไม่ถูกโฉลกคอยดูจะแกล้งให้เข็ดเลย